ระบาดใหม่ฉุดหุ้นดิ่ง80จุด คาดปีหน้าฟื้นตัวทะลุ1500


เพิ่มเพื่อน    

ไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบสองในประเทศ กดดันหุ้นไทยปิดร่วง 80.80 จุด หรือ 5.45% ซื้อขายแตะ 1.3  แสนล้านบาท บล.ทิสโก้ยังเชื่อมั่นโอกาสระบาดซ้ำขยายวงกว้างมีน้อย เป็นเหตุการณ์ชั่วคราว คาดปีหน้าหุ้นไทยทะลุ  1,500 จุด
    รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธันวาคม 2563  เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับลดลงต่ำสุด 80.80 จุด หรือ 5.45% อยู่ที่ 1,401.58 จุด และปิดที่ 1,401.78 จุด ลดลง 80.60 จุด หรือ 5.44% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 129,435.44 ล้านบาท หลังจากมีความกังวลสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศ จากการพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากในจังหวัดสมุทรสาครและกระจายไปตามจังหวัดอื่นๆ ทำให้ต้องมีการล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564  ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นนักลงทุน
    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้  จำกัด เปิดเผยว่า คาดว่าหุ้นที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุดคือ หุ้นที่มีที่ตั้งและธุรกิจอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร  จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 13 บริษัท เช่น ASIAN, EKH,  M-CHAI, VIH เป็นต้น คิดเป็นประมาณ 2% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้ง SET และ mai ทั้งหมดที่มีจำนวน 808 แห่ง ขณะที่รายได้คิดเป็นสัดส่วน 0.3% และยอดขาย 0.4% ของผลการดำเนินงานของ บจ.ในช่วง 9  เดือนของปี 2563
    นอกจากนี้ มองว่าจะมีผลกระทบต่อเนื่องกับบรรยากาศการบริโภคและการท่องเที่ยวภายในประเทศ  โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก เช่น  ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ, กลุ่มร้านอาหาร, กลุ่มเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและเดินทาง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดว่ารุนแรงยาวนานเพียงใด และกลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยรวมที่อ่อนไหวกับเศรษฐกิจ อาจเผชิญแรงขายระยะสั้นด้วยจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์คือ  กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย และหุ้นเทคโนโลยีตามกระแส New Normal อาจมีแรงเก็งกำไรในระยะสั้น และกลุ่มขายประกัน
    "คาดว่าการแพร่ระบาดรอบใหม่จะกดดันบรรยากาศการลงทุนในระยะสั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องเฝ้าระวังไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย คาดดัชนีหุ้นไทยจะตอบสนองด้วยการปรับตัวลงประมาณ 2-3% ทดสอบแนวรับบริเวณ 1,440-1,450 จุด แต่จะเป็นเหตุการณ์เพียงชั่วคราว และยังให้น้ำหนักน้อยมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 เป็นวงกว้าง จนนำไปสู่การใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ส่วนกระแสเงินทุนไหลเข้าปีหน้ามองยังเป็นบวกอยู่ จากแนวโน้มกำไร บจ.ที่จะเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้งในไตรมาส 1 ปี 2564 เป็นต้นไป หนุนหุ้นไทยปรับขึ้นได้อีกในระยะถัดไป มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทะลุระดับ 1,500 จุดในต้นปีหน้า"
    นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยตั้งแต่เริ่มเปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ประมาณลบ 2% และปิดลบที่ 5.44% แต่มูลค่าซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติยังเป็นการซื้อสุทธิประมาณ  3,700 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิประมาณ  7,700 ล้านบาท ด้านนักลงทุนสถาบันขายสุทธิประมาณ  7,300 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิประมาณ 4,200 ล้านบาท ขณะที่การซื้อขายแบบชอร์ตเซลล์และโปรแกรมเทรดดิงยังอยู่ในระดับปกติ
    "ภาวะโควิดไม่ได้เป็นประเด็นที่เกิดในประเทศไทยที่เดียว ซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วโลก โดยในไทยถือว่าเป็นการพบผู้ติดเชื้อที่ช้ากว่าประเทศอื่นๆ ขอให้นักลงทุนอย่าตระหนก นอกจากนี้ ตลท.ยังมีการให้บริการนักลงทุนได้ปกติ อีกทั้งได้เตรียมพร้อมเพื่อรองรับได้ทุกสถานการณ์  ขณะที่ภาวะตลาดในปัจจุบันยังเป็นปกติ ไม่ต้องใช้มาตรการดูแลเหมือนที่เคยใช้ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการจะนำมาตรการอะไรมาใช้นั้นต้องมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบปัญหาใดๆ" นายภากรกล่าว
    ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้ประสานงานและกำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายการส่งออกสินค้าอาหารทะเลของไทย ให้เร่งดำเนินการสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความเข้าใจแก่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ในการสั่งซื้อสินค้าจากไทยว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19  ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว  โดยกรมฯ ได้หารือร่วมกับผู้ส่งออกและได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า
    นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ที่ถือเป็นแหล่งอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ทำให้ภาคการผลิต การส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวมได้รับผลกระทบประมาณวันละ 1,000  ล้านบาท จากเม็ดเงินลงทุนจังหวัดสมุทรสาคร 3 แสนล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป  จำกัด (มหาชน) แจ้งปิดโรงงานที่อยู่ในสมุทรสาคร 1 แห่ง  เป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากมีพนักงานติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 1 ราย จากจำนวนโรงงานที่ตั้งอยู่ในสมุทรสาครกว่า 6,000 แห่ง
    โดยยืนยันว่าโรงงานทั้งหมดกว่า 6,000 แห่งไม่มีการใช้แรงงานนอกระบบ เนื่องจากโรงงานทั้งหมดเป็นนิติบุคคล สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล เช่น  สิทธิ์ลดหย่อนจากประกันสังคม หากใช้แรงงานนอกระบบ และหากตรวจพบภายหลังจะถือว่ามีความผิด มีโทษปรับ  200,000 บาทต่อคน การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการลักลอบเข้าไทยของแรงงานต่างด้าว ต้องหยุดขบวนการนี้ให้ได้ไม่เช่นนั้นจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"