เมืองรอง 2021 ไปแล้วจะร้องว้าว!


เพิ่มเพื่อน    

      ในปี 2563 เรียกได้ว่าการท่องเที่ยวของไทยโดนกระแทกอย่างแรงจากวิกฤติโควิด-19 เลยทีเดียว แต่หลังจากคลายล็อกดาวน์ประเทศ รัฐบาลก็เปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้อย่างอิสระ แถมยังผุดโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยอุดหนุนทั้งค่าที่พักและค่าเดินทางให้ พร้อมทั้งรณรงค์การท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ซึ่งทั้งโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร จะต้องมีการดูแลให้เป็นตามมาตรฐานที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนนักท่องเที่ยวก็ต้องดูแลตัวเองในการสวมใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น

      ทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ขยับงานแรกด้วยการหันมาโปรโมตชู "เมืองรอง" (Less visited area) ให้เป็น "นางเอก" ของการท่องเที่ยว เพราะโดดเด่นน่าเที่ยวไม่แพ้เมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งเมืองรองทั้ง 55 จังหวัดก็ได้มีการปรับตัวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เสริมสร้างความปลอดภัยโควิด-19 กันถ้วนหน้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวเที่ยวได้อย่างสบายใจ  

      สำหรับ "เมืองรอง" ได้รับการโปรโมตอย่างจริงจังในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลต้องการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจไปสู่ชุมชนต่างๆ ที่ถือว่าเป็นเศรษฐกิจฐานราก และยังมีผลดีทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกระจุกตัวหนาแน่น แต่เฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลักเท่านั้น โดยประมาณการว่าการท่องเที่ยวเมืองรองจะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท 

      หลังจากโปรโมตและได้รับเสียงตอบรับอย่างดี "เมืองรอง" เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นักท่องเที่ยวเองก็มีความพึงพอใจในเมืองรอง ที่แต่ละจังหวัดมีเสน่ห์แตกต่างกันไป โดยมีทั้งความเงียบสงบ ความน่ารักของผู้คนในชุมชนต่างๆ และการได้พบเจอกับแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเมืองรองมากขึ้นถึง 6 ล้านคน/ปี นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ทำให้ ททท.ปรับสัดส่วนนักท่องเที่ยวเมืองหลักต่อเมืองรองจาก 70:30 เป็น 65:35 พร้อมกับตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวให้ได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน/ปี

      จังหวัดท่องเที่ยว "เมืองรอง" ที่ถือว่ามีมุมมองใหม่ๆ ทั้ง 5 ภาค มีดังนี้ 

      ภาคเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ลำพูน อุตรดิตถ์ ลำปาง แม่ฮ่องสอน พิจิตร แพร่ น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พะเยา

      ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย เลย มุกดาหาร บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ยโสธร หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ

      ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี นครนายก

      ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี

      ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล ชุมพร ระนอง นราธิวาส ยะลา และปัตตานี

 

                      ภาคเหนือ

      “ภาคเหนือ” ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีเทือกเขาสลับซับซ้อน มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เพราะเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนา อีกทั้งยังมีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาและลาว ทำให้มีการส่งต่อวัฒนธรรมที่เราจะเห็นได้ทั้งวัด สถานที่ อย่างบ้านทรงล้านนา หรืออาหารตามชุมชนต่างๆ ที่ยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบชาวล้านนา รวมไปถึงชนเผ่าต่างๆ ที่มีเสน่ห์ โดดเด่นด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

(ชมถ้ำสีฟ้า จ.ตาก)

      ถ้ำสีฟ้า จ.ตาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกพูดถึงมากทีเดียวในปีนี้ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักสงฆ์พุทธคยาถ้ำสีฟ้า ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่มีความพิเศษตรงหินในถ้ำเป็นสีฟ้าและลวดลายที่ริ้วๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติซึ่งอยู่ในบริเวณอุโมงค์งวงช้าง ระยะทางเข้าชมเพียง 100 เมตร นอกจากสีถ้ำ รูปร่างของหินภายในยังมีรูปร่างแปลกตาที่สวยงาม ด้านหน้ายังมีพระนอนซึ่งมีความคล้ายกับศิลปะเมียนมาให้ได้กราบสักการะ หากใครจะเดินทางมาก็สะดวกสบาย เพราะรถสามารถขับขึ้นมาได้เลย

(น้ำตกห้วยเทินเย็นฉ่ำ จ.พิษณุโลก)

      อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก อำเภอเล็กๆ ที่โอบกอดไปด้วยภูเขาหินปูนอายุกว่า 300 ล้านปี อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งเดิมของหมู่บ้านเก่าแก่อายุกว่า 42 ปี ทำให้ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรชาติมากมาย โดยเฉพาะถ้ำ และจุดเช็กอินที่น่าสนใจอย่างทิวทัศน์ของเขาหินปูนที่โดดเด่น ต้นไม้รูปหัวใจ ที่ตั้งอยู่ใน ต.ชมพู สามารถขึ้นไปชมวิว อ.เนินมะปรางได้ 360 องศา ในพื้นที่ยังซุกซ่อนด้วยน้ำตกห้วยเทินเล็กๆ ที่นี่ยังมีโฮมสเตย์ให้พักสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด

      ป่าเปลี่ยนสี อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงเดือนธันวามคม-มกราคมของทุกปี เป็นช่วงที่ผืนป่าเต็งรังกว่า 2 หมื่นไร่ บริเวณภูหลังกาเวียง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เกิดปรากฏการณ์ป่าเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีส้มและสีแดงสลับกันทั้งผืน สำหรับจุดชมป่าเปลี่ยนสีอยู่ริมซ้ายของทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ระหว่าง กม.417-426 โดยมีป้ายบอกและมีลานจอดได้สะดวก มีทางเดินเท้าให้เดินศึกษาธรรมชาติระยะทางราว 80-100 เมตร หากต้องการชมภาพมุมสูงของผืนป่าเปลี่ยนสีที่สามารถมองเห็นได้ไกลสุดตา ก็ชมได้ที่ยอดผาแดง หรือจุดชมวิวภูผาแดง ริมทางหลวง 12

      ขาหน่อ-เขาแก้ว จ.นครสวรรค์ ตั้งอยู่ใน ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย เป็นกลุ่มยอดเขาหินปูนรูปทรงสวยงามแปลกตา สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนบนถนนพหลโยธิน ช่วงนครสวรรค์-กำแพงเพชร เป็นเขาหินปูนที่มีวัดเขาหน่ออยู่เชิงเขา มีบันไดขึ้นสู่บนยอดเขา และมีพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่อยู่ปากถ้ำ ในบริเวณนั้นเขาจะมีฝูงลิงจำนวนมาก ยามเย็นจะมองเห็นฝูงค้างคาวที่อาศัยอยู่ตามถ้ำน้อยใหญ่บินออกมาหนือตัวถ้ำอีกด้วย

(วนอุทยานภูลังกา)

      วนอุทยานภูลังกา จ.พะเยา ตั้งอยู่ ต.ช้างน้อย อ.ปง ที่จะเห็นวิวเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาสันปันน้ำ ที่มีความสูงตั้งแต่ 900-1,720 เมตร พบกับความสมบูรณ์ของผืนป่าที่มีขนาดประมาณ 7,800 ไร่ ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพรรณจำนวนมาก ทั้งดอกไม้ป่า พันธุ์ไม้หายาก อย่างต้นชมพูภูพาน เนียมแดง เอื้องสีตาล เทียนธารา สัตฤๅษี รวมถึงสัตว์ป่าที่มีอยู่กว่า 100 ชนิด มีอีกหนึ่งจุดชมวิว ผาช้างน้อย บริเวณภูลังการีสอร์ท ถือว่าห้ามพลาดเพราะเป็นจุดที่สวยที่สุดในจังหวัดพะเยา ทะเลหมอกจะเข้าปกคลุมอย่างสวยงาม สายเขาต้องห้ามพลาดพิชิตยอดดอยต่างๆ ของวนอุทยานฯ

 

                  ภาคใต้

      “ภาคใต้” มีลักษณะภูมิประเทศเป็นคาบสมุทรที่มีทะเลขนาบอยู่ 2 ด้าน คือ ตะวันออกด้านอ่าวไทย และตะวันตกด้านทะเลอันดามัน แต่มี 2 จังหวัดที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเลคือ จังหวัดพัทลุงและจังหวัดยะลา ทำให้จังหวัดในภาคใต้มีชื่อเสียงสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการมาเที่ยวทะเล ดำน้ำดูปลา ปะการัง และยังมีอาหารใต้ที่รสชาติจัดจ้าน มีศิลปวัฒนธรรม และเมืองเก่าย่านการค้าสำคัญให้เราได้เที่ยวชม

(สุดมันส์ล่องแก่งหนานมดแดง จ.พัทลุง)

      ล่องแก่งหนานมดแดง จ.พัทลุง ถึงแม้จะเป็นจังหวัดที่ไม่ติดทะเล แต่ก็มีเกาะมากถึง 18 เกาะ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย หากมาแล้วก็ต้องล่องแก่งหนานมดแดงในพื้นที่ ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม และไม่ต้องกลัวน้ำป่าไหลหลาก เพราะน้ำไหลมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมระดับน้ำไม่ให้อันตราย ทำให้สามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี โดยสามารถใช้บริการล่องแก่งจากผู้ประกอบการในพื้นที่ได้เลย 

(หมู่เกาะชุมพร แหล่งธรรมชาติใต้ท้องทะเล)

 

      อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จ.ชุมพร เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนสำหรับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ที่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติใต้น้ำตามแนวปะการังแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย โดยมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติใต้น้ำให้เลือก 3 เส้นทาง คือ 1.แบบดำน้ำลึก บริเวณหินหลักง่าม ที่จะดำน้ำไปศึกษา อาทิ แนวปะการัง ปลาการ์ตูน เห็ดทะเล ปะการังรูปทรงแปลกตา กัลปังหา ปะการังเขากวาง เป็นต้น 2.แบบดำน้ำตื้น บริเวณเกาะมาตรา โดยบริเวณนี้จะได้เห็นหอยมือเสือ ปะการังโขด ปะการังสมองร่องใหญ่ ปะการังลายดอกไม้ หนอนท่อ ปะการังลายดอกไม้ ฟองน้ำสีน้ำเงิน และ 3.แบบดำน้ำตื้น บริเวณเกาะง่ามใหญ่ บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะมีพรมทะเล เห็ดทะเล ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังถ้วยส้ม ปะการังเปราะบาง ปะการังดาวใหญ่ และดอกไม้ทะเลสีทอง เป็นต้น

(ใกล้ชิดผืนป่าและสายหมอกที่สกายวอล์กอัยเยอร์เวง)

      สกายวอล์ก อัยเยอร์เวง จ.ยะลา ต้องบอกว่าฮอตฮิตมากๆ สำหรับสกายวอล์ก ซึ่งในแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ ได้มีการสร้างเพื่อเป็นจุดท่องเที่ยวชมวิวธรรมชาติ หนึ่งในนั้นก็คือที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง เพราะอัยเยอร์เวงเป็นหนึ่งในจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่สวยมากๆ เห็นทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี โดยการสร้างสกายวอล์กอยู่บนระดับความสูง 2,038 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ออกแบบโครงสร้างเหล็ก มีความสูง 45 เมตร จากฐานมีความยาวรวม 63 เมตร ส่วนปลายเป็นระเบียงชมวิวพื้นกระจกใสแทมเพอร์ลามิเนต ที่มีความมั่นคงแข็งแรง ทนทาน หนา 4 เซนติเมตร สามารถมองทะลุผ่านกระจกใสเห็นวิวด้านล่าง และมีลิฟต์ให้บริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ โดยจำกัดจำนวนขึ้นได้สูงสุดไม่เกิน 360 คน

(ผู้คนเดินทางสักการะไอ้ไข่)

      วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช ในปีนี้ที่ทุกคนต้องรับมือกับปัญหาทางเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 เพื่อหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและขอโชคลาภ จึงได้มีการเสาะหาที่พึ่งทางใจ โดยเฉพาะกระแสความศรัทธา ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล ไอ้ไข่ เด็กชายอายุประมาณ 9-10 ขวบที่ได้แกะสลักด้วยไม้ ตั้งอยู่ในศาลาในวัดเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ.2523-2524 เล่าต่อกันมาว่าเป็นลูกศิษย์ที่ติดตามหลวงปู่ทวด ซึ่งชาวบ้านมีความศรัทธาในเรื่องของโชคลาภ ทำให้กระแสมาแรงจนหลังจากคลายล็อกดาวน์เที่ยวบินไปนครศรีฯ ก็แน่นขนัด บ้างก็ขับรถส่วนตัวไปเลยทีเดียว ทางวัดก็มีการจัดการในเรื่องมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างรัดกุม ไม่เพียงเท่านี้ ส่วนหนึ่งของผลพวงของกระแสไอ้ไข่ก็ทำให้คนเที่ยวนครศรีฯ ในจุดต่างๆ ด้วย

 

 

                             ตะวันออก

        

      “ภาคตะวันออก” ถือว่าเป็นภาคที่เดินทางไปเที่ยวง่ายๆ ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนัก และยังโอบล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ มีชายทะเลที่สวยงามไม่แพ้ภาคใต้เลยทีเดียว และที่สำคัญในภาคนี้เป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ที่มีทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยวเดินทางไปจำนวนมากในแต่ละปี แต่แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจยังกระจายอยู่ในจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

(จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติปางสีดา)

         อุทยานเเห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่กว่า 5 แสนไร่ สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่า เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า และทิวทัศน์ที่สวยงาม สภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีพืชพรรณไม้หลายชนิด เช่น น้ำตกปางสีดา น้ำตกผาตะเคียน น้ำตกแควมะค่า กลุ่มน้ำตกถ้ำค้างคาว ภูเขาเจดีย์ ฟอสซิลไดโนเสาร์ จุดชมวิว โขดหินตามลำน้ำที่มีลักษณะแปลกๆ และไฮไลต์ที่น่าสนใจ ได้แก่ แหล่งดูนกน้ำอ่างเก็บน้ำพระปรง แหล่งดูผีเสื้อ จนได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งดูผีเสื้อแห่งภาคตะวันออกอีกด้วย ตราด-บางตะบูน ป่าชายเลน ซึ่งอุทยานแห่งชาติปางสีดาเป็น 1 ใน 5 ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และยังได้ประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 2 ของประเทศไทย

(วัดเกาะเปริด)

      ผาสุขนิรันดร์ เกาะเปริด จ.จันทบุรี ตั้งอยู่ในเขตวัดเกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่กำลังยอดฮิต แต่ในความจริงคือมีมานาน ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกวัดก็จะคุ้นเคยเป็นอย่างดี สายบุญที่มาวัดแล้วเดินทางต่อไปอีก 300 เมตร ก็จะพบกับจุดชมวิวไฮไลต์ที่ผาสุขนิรันดร์ ติดกับชายทะเล แม้ว่าจะเป็นเกาะ แต่ไม่สามารถเล่นน้ำได้ เพราะคลื่นแรงและมีก้อนหินผาขนาดใหญ่ จากด้านบนมีบันไดไต่ลงไปตามหน้าผา ให้เราได้สัมผัสใกล้ชิดทะเลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย สามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวได้ทุกวัน

(ทางเดินเข้าวัดมณีวงศ์)

 

      วัดมณีวงศ์​ จ.นครนายก ถือว่าเป็นเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่มีอายุกว่า 100 ปี ความโดดเด่นอลังการของวัดแห่งนี้คือ พญานาค ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ทางเข้าซุ้มประตูสีเหลืองทองที่มีรูปปั้นองค์พญานาค 2 องค์ ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ประทับนั่งอยู่บนก้อนศิลา อีกหนึ่งที่คือวิหารเซียนที่ด้านบน ประดิษฐานหลวงพ่อพันล้านพระพุทธรัตน์มณีศรีหทัยนเรศวร์ อีกจุดไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ ความงดงามของงานประติมากรรมรูปปั้นองค์พญานาคที่จะอยู่ภายในถ้ำพญานาคถึง 500 องค์ พร้อมกับสร้างหุ่นจำลองพระอาจารย์เกจิดัง เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาสักการะ รวมถึงเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วย

 

 

                               กลาง

      “ภาคกลาง” ดินแดนที่ราบลุ่ม ที่ตั้งกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ครอบคลุมที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์กลางความเจริญทั้งด้านการค้า การคมนาคม การศึกษา เทคโนโลยี และอื่นๆ และมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ชุมชนอันเก่าแก่ หรือจะออกไปสูดโอโซนท่ามกลางขุนเขาก็มีให้เลือก ตามสไตล์ชิลๆ ขับรถไปเองได้

(สายหมอกบนยอดเขาเทวดา)

      อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี อุทยานแห่งชาติพุเตยเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวในจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ อ.ด่านช้าง มีผืนป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสลับซับซ้อนมีความลาดชันมาก ส่วนที่สูงที่สุดเรียกว่า ยอดเขาเทวดา มีระดับความสูงถึง 1,123 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย มีป่าสนสองใบธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกตะเพินคลี่ ห่างจากหมู่บ้านเล็กน้อย เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุด มีน้ำตกไหลตลอดปี มองจากน้ำตกจะเห็นยอดเขาเทวดา และยังมีแหล่งท่องเที่ยวถ้ำนาคี หมีน้อย ห้อยระย้า และผาใหญ่  น้ำตกตาดใหญ่

      ตลาดโอ๊ะปอย จ.ราชบุรี สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.สวนผึ้ง จุดเช็กอินท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์กับตลาดริมธาร สัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด บรรยากาศที่เงียบสงบ เดินชมวิถีชีวิตพื้นบ้าน ชิมของอร่อยประจำอำเภอ ชิลไปกับบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวและสายลำธาร ช็อปกันเพลินๆ กับสินค้าท้องถิ่น ได้อิ่มท้องกันถ้วนหน้า

(พระศรีเมืององค์ใหญ่)

      วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง ตั้งอยู่ใน ต.อินทประมูล วัดโบราณขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างชึ้นมาในสมัยสุโขทัย เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่มีชื่อว่า พระศรีเมือง ที่มีความใหญ่และมีความยาวถึง 50 เมตร องค์พระนอนมีพุทธลักษณะที่งดงามพระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็น เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านและผู้ที่เดินทางมากราบไหว้

 

                  ตะวันออกเฉียงเหนือ

 

      “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน” นับว่าเป็นภาคที่มีเนื้อที่มากที่สุดของประเทศไทย มีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่สูงหรือที่ราบสูง มีภูเขาอยู่ทั่วไป อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของการปลูกข้าว แหล่งทอผ้าไหมขึ้นชื่อในหลายจังหวัด รสชาติอาหารแซ่บรสจัด และยังผสมผสานไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่มีคุณค่า

      ผาโสก จ.อุบลราชธานี ที่อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อยู่ระหว่างน้ำตกสร้อยสวรรค์และผาเจ๊ก ซึ่งผาโสกนั้นเกิดจากที่บริเวณนี้ส่วนหญ่เป็นหินทราย และถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นร่องน้ำเล็กๆ และแอ่งน้ำลึกถึง 1-5 เมตร ทำให้มีน้ำธรรมชาติไหลมารวมกันก่อนจะไหลลงสู่ด้านล่าง ตรงที่เป็นแอ่งน้ำก็จะมีนักท่องเที่ยวมานั่งแช่น้ำเล่น เบื้องหน้าก็เป็นวิวแม่น้ำโขงสุดฟิน แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำฝน เพราะทางอุทยานก็จะต้องคอยดูว่าน้ำฝนที่ตกมีเพียงพอหรือ เพราะหากไม่มีน้ำก็จะปิด

(หอโหวด ๑๐๑ สูงใหญ่ แลนด์มาร์คใหม่ จ.ร้อยเอ็ด)

        หอโหวด ๑๐๑ จ.ร้อยเอ็ด แลนด์มาร์คใหม่ของร้อยเอ็ดที่พร้อมเปิดให้ไปชมวิวเมือง 360 องศา โดยแนวคิดในการสร้างหอรูปโหวด มากจากโหวดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่า ถือว่าเป็นสัญลักษณ์และภูมิปัญญาของชาวร้อยเอ็ด โดยหอโหวดได้สร้างให้สูง 101 เมตร เทียบเท่ากับตึก 33 ชั้น ด้านในถูกตกแต่งสวยงาม มีพิพิธภัณฑ์เมืองร้อยเอ็ด และมุมชมวิวเมือง รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหาร และจุด Sky Walk ต่อด้วยกิจกรรมการนั่งกระเช้าห้อยลวดสลิง ขึ้นลงหอโหวด ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกด้วย

(หินที่มีลักษณะคล้ายนาคา)

      ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ คนไทยมีความเชื่อ ศรัทธาและผูกพันกับพญานาคมายาวนาน โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดริมโขง เมื่อมีสิ่งที่คล้ายพญานาคปรากฏขึ้น ทุกคนก็อยากเดินทางไปชมตามแรงศรัทธา ซึ่งที่ถ้ำนาคา ผนังถ้ำจะมีลักษณะคล้ายเกล็ดพญานาค หรือเกล็ดงู ที่พันโอบถ้ำ หรือหินในบางส่วนก็มีลักษณะคล้ายกับส่วนหัวพญานาค แต่หากในทางวิทยาศาสตร์ ที่ธรณีวิทยา ซันแครก ที่เกิดจากผิวหน้าหินแตก เพราะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และการกัดเซาะของน้ำ ทำให้หินมีสภาพกลายเป็นรูปดังกล่าว นับว่าธรรมชาติได้รังสรรค์ความสวยงามให้เราได้ชม

 

      ขอบคุณข้อมูลและภาพ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักอุทยานแห่งชาติ, สำนักงานอุทยานธรณีเพชรบูรณ์, เฟซบุ๊กหอโหวดร้อยเอ็ด, เฟซบุ๊กวัดมณีวงศ์, เฟซบุ๊กโอ๊ะป่อย ตลาดเช้าริมธาร และเฟซบุ๊ก Winged ติดปีก

                                                     

              9 เส้นทางคนโสด คนเดียวก็เที่ยวได้

      การออกเดินทางไปท่องเที่ยวที่เราอยากจะชวนใครสักคนไปด้วย จะชวนเพื่อนก็ติดงาน ติดแฟน หรือเงินไม่มี ข้ออ้างบลาๆ ทำให้คนโสดหลายคนเลือกออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ที่บางครั้งมันก็ไม่ได้แย่ แถมได้เจอมิตรภาพใหม่ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่การเดินทางก็ปลอดภัย ไปสบายๆ อย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทริป 9 เส้นทางคนโสด เที่ยวทั่วไทย ก็น่าสนใจนะ บางทีการออกไปเที่ยวก็อาจจะทำให้ได้ของแถมเป็นคนรู้ใจมาด้วย

      เริ่มกันที่ทริปที่ 1 ล่องเรือ ไหว้พระ หารัก  ที่วัดอรุณราชวราราม หรือวัดแจ้ง กรุงเทพฯ สักการะพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร เดินชมหมู่พระปรางค์ที่งดงามด้วยงานสถาปัตยกรรมไทยผสมจีน ถัดมาอีกหน่อยก็จะเป็นวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) หรือเดินชมพระบรมมหาราชวังก่อนกลับ

(เที่ยวเกาะไข่ จ.ภูเก็ต)

      ทริปที่ 2 Secret Island ไม่ห่างรัก เที่ยวเกาะไข่ จ.ภูเก็ต ที่มีถึง 3 เกาะ ทั้งเกาะไข่นอก, เกาะไข่ใน และเกาะไข่นุ้ย หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ชมปลาสลิดหินลายเสื้อแบบใกล้ชิด พร้อมออกเรือไปดำน้ำดูปะการัง กินอาหารซีฟู้ดสดอร่อย

(นั่งรถไฟลอยน้ำ จ.ลพบุรี ชมวิวกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์)

      ทริปที่ 3 รถไฟขบวนสุดท้าย กับการนั่งรถไฟลอนน้ำ จ.ลพบุรี ชมวิวกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และตลอดสองฝั่งในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แบบไปเช้าเย็นกลับ เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือน พ.ย.2563-ม.ค.2564 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.สายด่วน 1690 หรือเฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือโทรศัพท์ 0-2220-4261

        ทริปที่ 4 โสดไม่ Alone ขึ้นดอยพุยโค ไปอยู่เป็นเพื่อนต้นเดียวดาย ตั้งอยู่ที่บ้านอุมดาเหนือ ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน หนาวนี้ไปกางเต็นท์ก็เข้าท่า ชมทะเลหมอกที่พาดผ่านทิวเขาน้อยใหญ่ในยามเช้าพร้อมวิว 360 องศา 

(วัดร่องขุ่น)

      ทริปที่ 5 ตะลุยไหว้พระ 9 วัด ชมความงาม ขอพรให้เราอยู่คู่กัน จ.เชียงราย เพราะเป็นจังหวัดที่วัดสวยและทรงคุณค่า เพราะมีวัฒนธรรมผสมผสานทั้งไทย ชนเผ่าต่างๆ จีน และเมียนมา อาทิ วัดร่องเสือเต้น วัดห้วยปลากั้ง วัดร่องขุ่น วัดพระแก้ว วัดมิ่งเมือง วัดดอยงำเมือง วัดพระธาตุดอยตุง วัดพระธาตุดอยจอมทอง วัดป่าสัก เป็นต้น

      ทริปที่ 6 ล่องเรือทำบุญ ถ้ามีคุณก็คงดี จ.อยุธยา เดินทางง่าย ใกล้เมืองกรุง มีจุดบริการล่องเรือไหว้ 9 วัด หรือจะนั่งเรือรอบเกาะชมเมืองเก่าในอดีตที่มีจัดเป็นแพ็กเกจให้เลือกหลากหลาย

      ทริปที่ 7 พัทยา ล่องเรือยอชต์ จอดเรือรัก จ.ชลบุรี ไม่ต้องกลัวเหงาอีกต่อไป เพราะคุณจะมีเพื่อนล่องเรือไปด้วย สร้างมิตรภาพใหม่ๆ ชมวิวของท้องทะเลเมืองพัทยา และไม่ต้องห่วงว่าราคาจะแพง เพราะเราก็สามารถเลือกใช้บริการเรือยอชต์ที่พร้อมพาออกไปสัมผัสประสบการณ์ดีๆ หรือไปลั้ลลาต่อในยามค่ำคืน นั่งชิลๆ รับลมที่ร้านอาหารหลากหลายสไตล์

      ทริปที่ 8 หลงเธอไม่ได้ มาหลงฮักเชียงคาน จ.เลย สายชิลต้องไม่พลาด เพราะไม่ว่าจะมากี่ครั้ง เชียงคานก็ยังอบอุ่นไปด้วยผู้คนที่น่ารัก บ้านเรือนริมฝั่งโขง และบรรยากาศถนนคนเดินในยามค่ำคืนที่เงียบสงบ อาหารอร่อย ตื่นเช้าไปชมทะเลหมอกที่ภูทอก หรือแวะไปชมวิวบนสกายวอล์ก สายลุยไปชมความสวยของดอกพญาเสือโคร่งได้ที่ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่ตอนนี้กำลังผลิบานเป็นสีชมพูกลางหุบเขา

(อุทยานธรรมเขานาในหลวง Cr.ท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี)

      ทริปที่ 9 ไม่มีเน็ตก็ปิดหน้าจอ มามองหน้าเธอ ทริปสโลว์ไลฟ์ จ.สุราษฎร์ธานี หากที่นี่ก็คงไม่พลาดที่จะเที่ยวทะเล แต่แท้จริงแล้วที่สุราษฎร์ธานีมีมุมที่สงบแถมยังสโลว์ไลฟ์อีกด้วยนะ อย่างอุทยานธรรมเขานาในหลวง ไฮไลต์คือ เจดีย์ลอยฟ้าพระพุทธศิลาวดี ที่สร้างสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร จะลัดเลาะไปตลาดน้ำประชารัฐ บางใบไม้ เดินเล่นยามเย็นๆ ที่สะพานแขวน วัดเขาพัง ก็เข้าท่านะ

      ประเทศไทยไม่ได้มีแค่ 9 เส้นทางคนโสดที่เราได้บอกเล่าถึงเท่านั้น แต่ยังเที่ยวได้ทั้งกับแก๊งเพื่อน ครอบครัว หรือจะจูงมือคนรักไปก็ได้ เพราะในหลายจังหวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ ทำให้เมืองไทยไม่ว่าจะเที่ยวฤดูไหนก็เที่ยวได้ทั้งปีเลย.

 

นครพนม เมือง3ที่สุด มาแรงฉุดไม่อยู่!!!

      นครพนมเมืองรองมาแรงด้านการท่องเที่ยวไม่มีแผ่วปลาย ยืนยันจากการเติบโตไม่หยุด ทั้งตัวเลขนักท่องเที่ยว โรงแรม ที่พักริมน้ำโขง ร้านอาหาร เศรษฐกิจในจังหวัด ตลอดจนเส้นทางบินสู่จังหวัดนครพนมที่เปิดใหม่เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้คนกรุงเดินทางไปเยี่ยมเยือน ซึมซับความงดงามของเมืองนี้ ทำให้ก้าวสู่จังหวัดแม่เหล็กดึงดูดนักเดินทางอันดับต้นๆ ของภาคอีสาน

      เมืองที่สงบงามริมแม่น้ำโขงทางภาคอีสาน มี 3 สถานที่สำคัญของ จ.นครพนม ที่สวยงามที่สุด ถือเป็นเดสติเนชันใหญ่ให้ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมาเยือนจังหวัดนี้

      วัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนชาวไทยและลาว ซึ่งเวลานี้ทุกฝ่ายร่วมใจผลักดันสู่มรดกโลก

      สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 สะพานที่สวยงามที่สุด เชื่อมโยงสัมพันธ์นครพนม-คำม่วน สปป.ลาว ถือเป็นเส้นทางเศรษฐกิจเชื่อมไปยังลาว จีน เวียดนาม ที่สั้นที่สุด ถ้าพ้นวิกฤติโควิด เส้นทางข้ามพรมแดนเปิด เมืองรองนี้จะยิ่งคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านและชาวจีนเดินทางเข้ามามากขึ้น 

      และ ทิวทัศน์ธรรมชาติริมฝั่งโขง งดงามที่สุด โดยเฉพาะเทือกเขาหินปูนฝั่งลาวที่ทอดยาวมีให้ชมไม่รู้เบื่อ มีเส้นทางจักรยานริมโขงที่ยาวที่สุดกว่า 60 กิโลเมตร เหล่านักปั่นต้องมาเช็กอินสักครั้งในชีวิต นี่เป็น 3 ที่สุดของนครพนมที่รอสร้างความสุขที่สุด

      ยังไม่หมดแค่นี้ แลนด์มาร์คศักดิ์สิทธิ์ริมฝั่งแม่น้ำโขงเมืองนครพนมก็เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ด้วยผูกพันกับตำนานพญานาค ซึ่งทั้งชาวนครพนมและคนไทยศรัทธาให้ความเคารพนับถือมาก นั่นคือ ประติมากรรมพญาศรีสัตตนาคราชสีทองอร่ามสวยสะกดตา แต่ละวันคนเดินทางมากราบไหว้ขอพรกับพญาศรีสัตตนาคราช ทั้งเรื่องธุรกิจ หน้าที่การงาน ไปจนถึงขอให้มีโชคมีลาภ สมหวังสำเร็จแล้ว มีการถวายบายศรีและฟ้อนรำแก้บน เป็นภาพแห่งความศรัทธา

      นครพนมวันนี้ช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ผลกระทบจากโควิดทำให้ศาสนสถานสำคัญระดับโลก เช่นที่พุทธคยา อินเดีย ไปสักการะไม่ได้ ที่นี่เป็นทางเลือกใหม่ในการแสวงบุญที่นครพนม มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์พุทธศาสนา อย่างวัดพระธาตุพนม บรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า มาห่มผ้าองค์พระธาตุ ซึ่งเชื่อว่าเป็นบุญใหญ่ ถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุพนม 7 ครั้งจะได้เป็นลูกพระธาตุ เป็นสิริมงคลกับชีวิต แล้วไปสักการะพญาศรีสัตตนาคราช 7 อันสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยเสริมดวง รับทรัพย์ นครพนมจังหวัดเดียวยังมี 7 พระธาตุมงคลประจำวันเกิดที่ตั้งตามอำเภอต่างๆ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"