ฝ่ายค้านนัดถกซักฟอก5มค.


เพิ่มเพื่อน    


    "ชวน" ลั่นจะรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไว้ให้มั่นคง "ฝ่ายค้าน" นัดพรรคร่วมแบ่งประเด็นซักฟอกนายกฯ 5 ม.ค. "พท." จวกรัฐบาลกู้เงิน 2 ล้านล้าน แต่ประเทศยังวิกฤติ ขอ "บิ๊กตู่" ลาออกเป็นของขวัญปีใหม่ "แรมโบ้" ย้อนเจ็บกู้มาเยียวยาดีกว่ากู้มาโกงเหมือนอดีต "โตโต้" นำการ์ด wevo ขายกุ้งกลางสนามหลวง เจอ ตร.รวบ 16 คน ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินห้ามมั่วสุมชุมนุม
    เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงการทำงานในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรตลอดทั้งปี 2563 ที่ผ่านมาว่า ในฐานะนักการเมือง มีความผูกพันกับระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ก็รักและผูกพันกับระบอบนี้ตลอดมา และจะพยายามรักษาระบอบนี้ไว้ให้มั่นคงให้ได้ ซึ่งได้ให้คำมั่นต่อ ส.ส.ในคราวรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า สภาเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ออกกฎหมายบังคับคนทั้งประเทศ ดังนั้น ส.ส.จะต้องเคารพกฎหมายเป็นแบบอย่างให้ประชาชน และการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาก็จะพยายามรักษาความเป็นกลาง ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายในการทำหน้าที่
    "สำหรับการทำหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ในปี 2564 มีการนับเวลาต่างจากปฏิทิน เพราะจะต้องนับเป็นสมัยประชุม ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสมัยการประชุมสามัญที่ 2 ประจำปี 2563 ปีที่ 2 ซึ่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 28 ก.พ.2564 และจะเริ่มสมัยการประชุมสามัญที่ 1 ประจำปี 2564 ปีที่ 3 ในช่วงเดือน พ.ค.2564 ซึ่งตลอดปี 2563 ก็ได้รับความร่วมมือจาก ส.ส.ในการทำหน้าที่ได้ดีระดับหนึ่ง" ประธานรัฐสภากล่าว
    ขณะที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์เนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า 2563 และวันขึ้นปีใหม่ 2564 มีใจความว่า ปีที่ผ่านมารัฐบาลใช้เงินภาษีและกู้หนี้ไปเกือบ 2 ล้านล้านบาทในระยะกว่า 1 ปี แต่ผลที่ได้ไม่ว่าก่อนหรือหลังโควิด-19 ยังคงเป็นปัญหาในปัจจุบัน และยังไม่สามารถสร้างความหวังให้กับประชาชนทั้งประเทศได้ ทำให้มีผลกระทบไปถึงผู้ประกอบการทั้งเล็กและใหญ่ให้หมดความเชื่อมั่น ซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นต้องมาจากฐานแห่งความจริงของการบริหารที่จับต้องได้ ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2564 ไม่ว่ารัฐบาล หรือพรรคการเมืองจะเป็นอย่างไร แต่ประชาชนต้องมีอนาคตและมีความเป็นอยู่ที่ดี
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์พยายามล้างคราบเผด็จการสืบทอดอำนาจ โดยการใช้นโยบายประชานิยมที่ห้ามคนอื่นทำ แต่รัฐบาลประยุทธ์ทำไม่เป็น เลยกลายเป็นมาตรการที่ประชาไม่นิยม ปี 2564 ปีฉลูไม่น่าจะเป็นปีวัวเชื่อง แต่จะเป็นกระทิงดุ ไล่ขวิดรัฐบาล ทั้งโควิด-19 ระลอกใหม่โจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลแก้ไม่ตก คนจะตกงานเกือบ 10 ล้านคน คนจนจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจ คณะราษฎรเตรียมยกระดับขับไล่ ท่าทีของสหรัฐอเมริกา ยุโรปและองค์กรสากลระหว่างประเทศ จะกดดันอย่างหนักต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขยกเลิกกฎหมายที่ไม่เป็นสากล ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้ภาคการเกษตร ปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ฝุ่นพิษ PM 2.5 รัฐบาลไปต่อลำบากมากขึ้นทุกขณะ
จี้'บิ๊กตู่'ลาออกของขวัญปีใหม่
    “ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้จากรัฐบาล VERY กู้ ตู่ไม่รู้ล้ม คือ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ให้โอกาสประเทศชาติและประชาชนได้เดินหน้า ให้คนมีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ” รองหัวหน้าพรรค พท.กล่าว   
    นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรค พท. กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในส่วนของพรรคมีความพร้อมอย่างมาก ระหว่างนี้แต่ละพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะไปเตรียมข้อมูลต่างๆ ในวันที่ 5 ม.ค.64 จะได้มีการประชุมร่วมกันอีกครั้งว่าพรรคใดจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเรื่องใดบ้าง 
    นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ประเด็นอภิปรายหลักๆ เช่น เรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลบริหารงานล้มเหลว ผิดพลาด มุ่งไปที่การเอื้อประโยชน์ให้โครงการใหญ่ๆ ในอีอีซี เรื่องปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น รวมถึงกรณีการปล่อยปละละเลย และอาจมีการทุจริตของเจ้าหน้าที่กรณีแรงงานต่างด้าว กรณีการขยายสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 
    "ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็สามารถอภิปรายไปถึงรัฐมนตรีคนอื่นที่เกี่ยวข้องได้ด้วย เช่น กรณีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็จะเกี่ยวข้องไปถึงรัฐมนตรีหลายท่าน อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นต้น" นายยุทธพงศ์กล่าว
    อย่างไรก็ตาม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้พรรคเพื่อไทยทันทีว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของโควิด-19 และที่ผ่านมานายกฯ และรัฐบาลได้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบมากมายหลายโครงการจนประชาชนพึงพอใจ และอยู่ระหว่างดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกมากมาย พร้อมกับแนวทางป้องการแพร่กระจายไวรัสสู่ประชาชนอย่างเต็มที่
    นายสุภรณ์กล่าวว่า ขอความเป็นธรรมให้กับนายกฯ และรัฐบาลด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องเข้าใจในสถานการณ์ของประเทศที่เกิดขึ้นด้วย อย่าคิดแค่ด้านเดียว และนำมาตำหนินายกและรัฐบาล ซึ่งนายกฯ หรือคนทั้งประเทศหรือใครก็ไม่อยากให้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นอุบัติภัยไวรัสและเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เกิดที่ไทยเพียงแห่งเดียว การใช้เงินกู้จึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อปกป้องรักษาชีวิตลมหายใจของคนไทยที่มีค่าที่สุด รวมถึงการเยียวยาเพื่อดำรงเศรษฐกิจความเป็นอยู่ปากท้องของพี่น้องคนไทยทุกคนด้วย
    "การกู้เงินมาทุกบาทสตางค์เพื่อผลประโยชน์คนไทยทั้งแผ่นดินทั้งนั้น รัฐบาลนี้กู้มาเยียวยาให้ประชาชนดีกว่ารัฐบาลในอดีตที่กู้มาโกงกิน กู้มาเพื่อกอบโกยเอาใส่เงินกระเป๋าตนเองและบริวารพวกพ้องของตนเอง อย่างไหนประเทศชาติเสียหายมากกว่ากัน" ผู้ช่วย รมต.ประจำนายกรัฐมนตรีกล่าว
    ส่วนนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยจะเน้นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์นั้น รัฐบาลไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และพร้อมที่จะชี้แจง โดยเฉพาะการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์มีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย 
    "จะเน้นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีปัญหา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่เคยมีปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเหมือนรัฐบาลในอดีต ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร เปรียบเสมือนทองแท้ไม่กลัวไฟลน ซึ่งเท่าที่ผมตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าคงมีการหยิบยกเรื่องเดิมๆ มาอภิปราย ไม่น่าจะมีข้อมูลใหม่อะไรมากนัก รัฐบาลแข็งแกร่ง คงสั่นคลอนได้ยาก ที่สำคัญเสียงสนับสนุนยังเหนียวแน่น ไม่น่ากังวล แต่อยากให้ทุกฝ่ายมาร่วมมือกันทำงานให้ประชาชนดีกว่า เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย" นายธนกรกล่าว
ตำรวจรวบ 16 การ์ด wevo
    ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในปัจจุบันที่หลายฝ่ายพยายามจุดกระแสคนรุ่นเก่าคนรุ่นใหม่ ตนถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะประเทศไทยวันนี้จะเดินไปข้างหน้าได้ต้องมีทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่เดินคู่กันไป ขอฝากสังคมไทยว่าประเทศไทยจะเดินต่อไปวันข้างหน้า ขอให้ใช้ทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ในการเดินคู่ไปด้วยกันด้วยความคิดที่หลากหลาย ด้วยความคิดนอกกรอบของคนรุ่นใหม่ บวกกับประสบการณ์ของคนรุ่นใหญ่ ในการที่ทำให้สังคมไทยเดินไปข้างหน้าได้ ดังนั้นถ้าใครต้องการสร้างสงคราม หรือเจเนอเรชั่นวอร์ ขอให้หยุดและเลิกความคิดนั้นเสีย เพราะเด็กอย่างเดียวก็ไปไม่รอด ผู้ใหญ่อย่างเดียวก็ไปไม่รอด เด็กทั้งผู้ใหญ่ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ต้องจับมือและเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน
    วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่ม wevo เดินทางมาบริเวณสนามหลวง เตรียมจัดกิจกรรมขายกุ้งเคาต์ดาวน์ โดยนำกุ้งน้ำหนักรวมประมาณ 5 ตัน มูลค่ากว่า 8 แสนบาทมาด้วย ทว่าในเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) นำโดย พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 รักษาราชการแทน ผบก.น.1 พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้เข้าเจรจากับทางนายปิยรัฐให้ยุติกิจกรรม โดยยืนยันว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ ห้ามให้มีการขายของเด็ดขาด พร้อมกระชับพื้นที่ล้อมรถเครื่องขยายเสียงของกลุ่ม wevo เอาไว้
    ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามได้อ่านประกาศแจ้งกลุ่ม wevo ว่า การกระทำดังกล่าวฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ทางกลุ่มดังกล่าวไม่ยอมออกจากพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าคุมตัวนายโตโต้พร้อมการ์ดจำนวนหนึ่งขึ้นรถไปดำเนินคดีที่ สน.ชนะสงคราม
    อย่างไรก็ดี ระหว่างที่มีการกระชับพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามปิดประตูสนามหลวง ทางกลุ่ม wevo ได้พยายามยื้อแย่งประตู เนื่องจากต้องการให้เพื่อนที่อยู่ด้านในและจะนำสิ่งของออกมาก่อน ทำให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น โดยระหว่างชุลมุนมีหญิงรายหนึ่งถูกถีบจนหงายท้อง ​
    การ์ดอาสาหญิงรายหนึ่งออกมาระบุว่า ระหว่างที่ตำรวจจะปิดประตู ทางการ์ดได้แจ้งว่าจะเข้าไปเอาของและให้เพื่อนที่ยังอยู่ด้านในออกมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม จึงมีการยื้อแย่งประตูกันทำให้ตนล้มลง ขณะล้มลงก็เห็นรองเท้าคอมแบตถีบมาที่บริเวณใบหน้าตนจนเลือดออก หลังจากนี้จะนำหลักฐานทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอไปแจ้งความดำเนินคดี
    มีรายงานว่า ตำรวจได้นำตัวนายปิยรัฐและพวกจำนวนหนึ่งไปควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1)​ เพื่อแจ้งข้อหากล่าวหาขัดคำสั่งห้ามมั่วสุม ชุมนุม ทำกิจกรรมแออัดเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีโทษคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท 
    ส่วนกลุ่ม wevo ได้ย้ายมาจัดกิจกรรมขายกุ้งเคาต์ดาวน์ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัวแทน โดยบรรยากาศมีประชาชนสนใจเดินทางมาต่อแถวซื้อกุ้งก้ามกรามที่ทางกลุ่มเปิดขายกิโลละ 359 บาทจำนวนมาก โดยทางผู้จัดกิจกรรมได้จัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ การเว้นระยะห่าง ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปการดำเนินคดีครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืน 16 คน แบ่งเป็นที่สนามหลวง 12 คน และที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาอีก 4 คน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"