ตร.ก้นร้อนลุยปราบบ่อน


เพิ่มเพื่อน    


    "จเรตำรวจแห่งชาติ" เต้น! พบหญิงติดโควิดจากกทม.เดินทางไปเล่นบ่อนพนันย่านเทพารักษ์ สั่ง จนท.เร่งตรวจสอบ ลั่นอยู่โรงพักไหนโดนเด้งทันที "กองปราบฯ" ลุยล้างเล่นพนันเมืองกรุงจับผู้ต้องหา 22 รายยึดไพ่-ลูกเต๋าไฮโลอื้อ "ศรีราชา" ไม่หวั่นโควิด แอบเล่นป๊อกเด้งอีก "กทม." เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิดล่าสุด
    เมื่อวันที่ 10 ม.ค. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยหญิงรายที่ 256 ของ กทม.มีไทม์ไลน์เดินทางไปบ่อนการพนันเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการตรวจสอบว่ามีการติดโควิดจากบ่อนพนันพื้นที่ใด หากมีจริงก็ต้องตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหมือนท้องที่อื่น เพราะขณะนี้ยังไม่มีรายงานบ่อนอยู่ท้องที่ไหน หากใครมีเบาะแสแจ้งมาเข้ามาได้ พร้อมตรวจสอบให้ทุกกรณี
    จเรตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ในส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนที่แพร่เชื้อโควิด-19 ใน จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราดหรือไม่นั้น การตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกฎ ก.ตร. มีเวลา 60 วัน ที่คณะกรรมการฯ ต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเหตุผล หากพบว่ามีความผิดจริงก็ต้องลงโทษอยู่แล้ว โดยเราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 
    ขณะที่ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าคณะทํางานสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการกระทําความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บกป. เร่งสืบสวนจับกุมกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนันตามพื้นที่ต่างๆ จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 5 คดี รวมผู้ต้องหา 22 ราย ยึดของกลาง อาทิ ไพ่กว่า 20 สำรับ, ลูกเต๋า,อุปกรณ์สำหรับการเล่นไฮโล 
    พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า การกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนันตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีแหล่งมั่วสุมหรือพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงนี้ จึงสั่งการให้ตำรวจในสังกัดกระจายกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส เข้าตรวจสอบสถานที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ ที่เชื่อว่าจะมีการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อาทิ ย่านบางพลัด, นครไชยศรี,   ปทุมวัน, ชุมชนแปดสิบห้อง และซอยริมทางรถไฟ 3 แขวงบางยี่เรือ 
    "จากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหา 22 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ ส่วนใหญ่จะลักลอบเล่นไฮโลและไพ่รัมมี่ ทั้งนี้ ได้ให้ตรวจสอบทุกพื้นที่ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เบื้องต้นนำตัวผู้กระทำผิดและของกลางทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามท้องที่ต่างๆ" ผบก.ป.กล่าว
    จ.ชลบุรี พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ พลวงษ์ศรี ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนักพนักจำนวน 9 ราย ที่บริเวณห้องเช่าไม่มีชื่อ เลขที่ 244/6 หมู่ 10 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีการมั่วสุมเล่นการพนันอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว 
จับบ่อนป๊อกเด้งศรีราชา
    โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคาะประตูห้องที่ได้รับแจ้ง พอมีคนเปิดประตูออกมาพบนักพนันกำลังล้อมวงนั่งเล่นพนันไพ่ป๊อกแปดป๊อกเก้า จึงแสดงตัวเข้าจับกุมนักพนันทั้งหมด พร้อมของกลางไพ่ป๊อก จำนวน 1 สำรับ เงินสดจำนวน 280 บาท ผ้าปูการเล่นจำนวน 1 ผืน โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเล่นการพนันกันจริง โดยมี นายเซเรรัด กิม อายุ 38 ปี สัญชาติกัมพูชา ยอมรับว่าเป็นเจ้ามือ และนางสมพร สิทธิดำรง อายุ 51 ปี รับเป็นเจ้าบ้าน และนักพนันอีก 7 ราย นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย แจ้งข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนันโดยเอาทรัพย์สินกันและกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
    อย่างไรก็ตาม ในการจับกุมครั้งนี้ มีการวัดอุณหภูมิเบื้องต้นทั้งหมดไม่พบว่ามีอุณหภูมิที่สูงเกินกำหนด จึงนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าทั้งหมดได้รู้จักกัน และได้พักอาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว ในวันหยุดจึงชักชวนกันมาเล่นไพ่กันสนุกๆ โดยลืมคิดว่าอยู่ในช่วงที่มีการห้ามมั่วสุมชุมนุมกัน คิดว่าจะไม่มีอะไร จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
    ด้านศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 22 คน แบ่งได้ 3 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรก ติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ จำนวน 14 ราย เป็นสัญชาติไทย 13 ราย และกัมพูชา 1 ราย ประกอบด้วย เพศชาย 6 ราย อายุ 14, 29, 31, 42, 53 และ 54 ปี เพศหญิง 8 ราย อายุ 25, 29 (2 ราย), 39, 41, 50, 53 และ 61 ปี มีอาการป่วย 9 ราย และไม่มีอาการ 5 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลกลาง 1 ราย, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช 2 ราย, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 1 ราย, โรงพยาบาลเอกชนใน กทม. 9 ราย และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน 1 ราย
    ส่วนกลุ่มที่ 2 อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 2 ราย และกลุ่มที่ 3 จากการคัดกรองเชิงรุกอีก 6 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมใน กทม. (15 ธ.ค.2563-10 ม.ค.2564) มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 419 คน
    วันเดียวกัน สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร เผยแพร่ข้อมูลไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเขต กทม. จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย 1.ผู้ป่วยรายที่ 264 ชาย อาชีพค้าขายออนไลน์ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ (วินเพชรเกษม 42) แล้วนั่งแท็กซี่ไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS จากบางหว้า-สยาม ไป Kerry สาขาสยาม ซ.10 ส่งของให้ลูกค้าบริเวณลานเชื่อมสยามพารากอน-สยามเซ็นเตอร์ ครั้งละ 2-3 คน (ใส่หน้ากากตลอด) ไปรับแฟนที่ตลาดท่าพระ และไปงานเลี้ยงแถวสาทร 2.ผู้ป่วยรายที่ 265 ชาย อาชีพพนักงานทำความสะอาดร้านมะรุมพลาซ่า แถวเคหะพระราม 2 มักจะเดินทางด้วยรถเมล์สาย 147 และ 101 แล้วแต่วัน โดยมีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง 3.ผู้ป่วยรายที่ 266 หญิง ทำงานที่ร้านมะรุมพลาซ่า บางแค มักจะเดินทางไปทำงานด้วยรถแท็กซี่ และมีประวัติซื้ออาหารทานใน ซ.เพชรเกษม 67
    4.ผู้ป่วยรายที่ 267 หญิง ทำงานอาชีพนักร้องที่ร้านมะรุมพลาซ่า บางแค มีประวัติไปที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค บริเวณซูเปอร์มาร์เก็ต 1 ชม. หลังจากไปตรวจหาเชื้อ 5.ผู้ป่วยรายที่ 268 หญิง พนักงานร้านมะรุมพลาซ่า บางแค มีประวัติไปทำงานที่ร้านดังกล่าว รับประทานอาหารที่ร้านครัวหัวป่า ถ.พุทธมณฑลสาย 1 และไปเคาต์ดาวน์ปีใหม่ที่บานจอดรถร้านมิลโรส เดินทางใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก 6.ผู้ป่วยรายที่ 269 หญิง พนักงานร้านมะรุมพลาซ่า ประวัติไม่ได้ไปไหน อยู่ที่ห้องพัก มีลงมาซื้ออาหารและเข้าร้านสะดวกซื้อในละแวกที่พัก
ไทม์ไลน์ป่วยโควิด กทม.
     7.ผู้ป่วยรายที่ 270 หญิง พนักงานร้านมะรุมพลาซ่า บางแค โดยสารรถแท็กซี่จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ไปทำงานทุกวัน และมีประวัติไปบ้านญาติแถวพุทธมณฑลสาย 3 ส่วนรายที่ 8 ผู้ป่วยรายที่ 271 หญิง นักศึกษา จ.ระยอง มีประวัติไปตลาดปูน จ.ระยอง สถานีขนส่งหมอชิต 2, ร้านหมูจุ่มใต้สะพานพระราม 8, วัดตุ๊กตา จ.นครปฐม, วัดพนัญเชิงฯ จ.พระนครศรีอยุธยา และร้านเฉินหลงกุ้งย่าง แถวบางกะปิ และ 9.ผู้ป่วยรายที่ 272 ชาย อาชีพค้าขายอาหารทะเล มีประวัติไปรับอาหารทะเลแถวเขตบางขุนเทียน ไปขายต่อที่เจ้นวน ตลาดแม่พ่วง ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ก่อนแวะกลับบ้านพักแถวบางขุนเทียน โดยจะแวะรับประทานอาหารตามสั่งหน้าปาก ซ.พันท้ายนรสิงห์
    "รายที่ 273-278 เป็นผู้ป่วยจากต่างจังหวัดที่เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลของ กทม. โดยการแจ้งข้อมูลการสอบสวนโรค จะรายงานข้อมูลที่ไม่พาดพิงถึงบุคคล ก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ เป็นตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 10" สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.ระบุ 
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวถึงกรณีมีการแชร์หรือส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือเฟกนิวส์ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ขอเรียนให้ทราบว่าที่ผ่านมายังคงพบมีการนำเข้า ส่งต่อ หรือแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อมูล ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะข้อความในลักษณะที่ทำให้ประชาชนและสังคมเกิดความสับสน ตื่นตระหนก ในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยกตัวอย่าง เช่น มีเฟกนิวส์หลอกว่า Line Official ที่ชื่อว่า Away Covid-19 หลอกลวงขอข้อมูลจากผู้ใช้บริการ ห้ามเพิ่มเพื่อนเด็ดขาด แต่ได้รับการยืนยันจากผู้พัฒนาแล้วว่าข้อความที่แชร์ดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง ไม่มีการหาผลประโยชน์ใดๆ จากผู้ใช้บริการ
    การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (2) 
    โดยสำหรับผู้แชร์หรือส่งต่อข้อความในลักษณะดังกล่าว มีความผิดฐานเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่น่าจะเกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนฯ มาตรา 14 (5) ทั้งสองอนุมาตรา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    "ฝากเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่า อย่าซ้ำเติมประชาชนด้วยการสร้างข่าวปลอมในลักษณะดังกล่าว ให้หยุดการกระทำนั้นเสีย ทุกภาคส่วนกำลังเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า ก่อนจะแชร์หรือส่งต่อข้อความใดๆ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะอาจตกเป็นเหยื่อ หรือถูกหลอกลวง หรืออาจไปสร้างความสับสน เกิดความตื่นตระหนกแก่ผู้อื่น ซึ่งอาจเป็นความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำและปรับ" โฆษก สอท.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"