หน่วยกู้ภัยอินโดนีเซียพยายามกู้กล่องบันทึกการบินของโบอิ้ง737-500 สายการบินศรีวิชัยแอร์ที่ดิ่งทะเลชวาพร้อม 62 ชีวิตเมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่เผยนักบินไม่ได้ประกาศเหตุฉุกเฉินหรือแจ้งปัญหาทางเทคนิคก่อนเครื่องตก

    เครื่องบินโดยสารของศรีวิชัยแอร์ลำนี้ดิ่งลงจากความสูงราว 10,000 ฟุตในเวลาไม่ถึง 1 นาทีก่อนตกสู่ทะเลชวานอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตา หลังจากเครื่องทะยานขึ้นจากสนามบินในกรุงจาการ์ตาได้ราว 4 นาทีเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 9 มกราคม ถึงวันจันทร์เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถอธิบายสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินอายุใช้งาน 26 ปีลำนี้ตกได้ แต่พวกเขาสามารถระบุพิกัดของกล่องดำทั้ง 2 กล่องได้แล้วและกำลังทำการค้นหา

    นูร์คาโย อูโตโม คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า บันทึกการสนทนาระหว่างหอควบคุมการจราจรทางอากาศกับลูกเรือลำนี้เป็นการสื่อสารแลกเปลี่ยนตามปกติ และไม่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างที่เครื่องบินลดระดับลงอย่างรวดเร็ว "มันเหมือนกับการสนทนาปกติ ไม่มีสิ่งใดน่าสงสัย" เขากล่าวกับเอเอฟพี "ไม่มีการพูดคุยถึงเหตุฉุกเฉินหรืออะไรทำนองนั้น"

    อูโตโมกล่าวอีกว่า ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า มีความเป็นไปได้มากที่เครื่องบินยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนที่จะดิ่งลงทะเล แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุทำให้เครื่องบินตก

    เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 62 คน โดยมีผู้โดยสารเพียงครึ่งลำ ซึ่งรวมถึงเด็ก 10 คน สื่อของอินโดนีเซียกล่าวว่า กัปตันของเที่ยวบินนี้ชื่ออัฟวาน พ่อลูกสามอายุ 54 ปี เป็นอดีตนักบินกองทัพอากาศมีประสบการณ์บินนานหลายสิบปี

    ปฏิบัติการค้นหาและเก็บกู้ใช้กำลังคนราว 2,600 คนและพร้อมกับเรือหลายสิบลำและเฮลิคอปเตอร์หลายลำ สามารถเก็บชิ้นส่วนศพ, เศษซากโลหะและข้าวของเครื่องใช้ของผู้โดยสารได้จากทะเลที่มีความลึกเพียง 23 เมตร ถุงบรรจุศพที่เก็บกู้ได้ถูกนำส่งห้องเก็บศพของตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจากลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอที่เปรียบเทียบกับญาติ

    ช่วงสายวันจันทร์ เจ้าหน้าที่สามารถระบุชื่อผู้เสียชีวิตรายแรกได้แล้ว คืออ็อกกี บิสมา พนักงานต้อนรับบนเครื่องวัย 29 ปี โดยยืนยันจากลายนิ้วมือเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของรัฐบาล.