มหาเธร์ชนะ!ผู้นำอายุมากสุดในโลก


เพิ่มเพื่อน    

 

     ล็อกถล่ม เสือเฒ่า "มหาเธร์ โมฮัมหมัด" ชนะการเลือกตั้งทั่วไปมาเลเซียอย่างผิดคาด  เตรียมเป็นผู้นำอายุมากที่สุดในโลกด้วยวัย 92 ปี หลังจากนำกลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้านโค่นรัฐบาล "นาจิบ ราซัค" กวาดที่นั่ง ส.ส.เกินครึ่งสภา ฝ่ายความมั่นคงไทยยันนโยบายไม่เปลี่ยนแปลง 

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียในวันเดียวกันนี้ หลังจากกลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้านที่เขาเป็นแกนนำสามารถชนะเลือกตั้งได้ ส.ส. รวมถึง 113 ที่นั่ง จากสภาผู้แทนราษฎร 222 ที่นั่ง ขณะที่รัฐบาลผสมบาริซัน เนชันแนล (บีเอ็น) ที่พรรคองค์การสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ของนาจิบ เป็นแกนหลัก ได้ ส.ส. รวมกันเพียง 79 ที่นั่ง จากที่เคยมี ส.ส.ถึง 133 ที่นั่ง

    นาจิบประกาศยอมรับผลการเลือกตั้งว่าเป็นเจตจำนงของประชาชน แต่เขาไม่ได้ยอมจำนนอย่างชัดเจน โดยกล่าวว่าพระราชาธิบดีจะตัดสินพระทัยว่าจะมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีพรรคการเมืองใดชนะเสียงข้างมากแบบพรรคเดียว 

    เสียงข้างมากในสภาไม่ว่าโดยพรรคเดียว หรือโดยการจับมือเป็นพันธมิตรกัน ต้องมี ส.ส.อย่างน้อย 112 ที่นั่ง กลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้าน สัญญาแห่งความหวัง หากรวมกับพรรคพันธมิตรขนาดเล็กอีก 1 พรรคจากเกาะบอร์เนียว ก็จะมี ส.ส.เพิ่มเป็น 121 ที่นั่ง 

    หลังจากเกิดความสับสนเมื่อช่วงเช้า ที่สมเด็จพระราชาธิบดียังไม่โปรดเกล้าฯ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ก็ยืนยันว่า เขาน่าจะได้เข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น 

    มหาเธร์เคยเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลผสมบีเอ็นยาวนานถึง 22 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2524 จนกระทั่งลงจากตำแหน่งในปี 2546 เขาเป็นเสมือนครูของนาจิบ ซึ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2551 แต่นับจากเกิดเรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชันในกองทุนวันเอ็มดีบีที่นาจิบก่อตั้งและกำกับดูแล ที่เกิดคำกล่าวหายักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์ มหาเธร์ได้ออกมาวิจารณ์และเคลื่อนไหวต่อต้าน จนถึงขั้นจับมือกับฝ่ายค้านที่เขาเคยปราบปราม และได้รับการเสนอให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน จนสร้างประวัติศาสตร์โค่นรัฐบาลผสมบีเอ็นซึ่งครองอำนาจมานาน 61 ปีได้ในที่สุด 

     ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งมาเลเซียว่า ยืนยันนโยบายระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซียจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องรอดูท่าทีของรัฐบาลชุดใหม่มาเลเซียก่อนว่าจะมีท่าทีอย่างไร ขณะที่การพูดคุยสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นโยบายจะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นการพูดคุยระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความสงบสุข ส่วนปัญหาภาคใต้ คิดว่าไม่น่าเกิดปัญหาอะไร หลังจากจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของมาเลเซียแล้ว จะพูดคุยหารือกับ รมว.กลาโหมมาเลเซียคนใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครมารับตำแหน่ง สำหรับนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า มองปรากฏการณ์นี้อย่างไรหลังจากนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพราะนายนาจิบ ราซัค นายกฯ มาเลเซีย ถูกดำเนินคดี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เราไม่ได้ติดตามอะไร เป็นเรื่องของประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนขอแสดงความคิดดีกับการชนะการเลือกตั้งของนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ในครั้งนี้ด้วย

     "การเปลี่ยนขั้วการเมืองของมาเลเซียนี้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และกระทบกับประเทศไทย เพราะท่านมหาเธร์ โมฮัมหมัด กับประเทศก็เป็นมิตรที่ดีต่อกัน และเราก็ดีกับทุกคน" พล.อ.ประวิตรกล่าว

     พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ไม่ห่วงผลการเลือกตั้งมาเลเซีย แม้อาจเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เบื้องต้นคณะพูดคุยฝ่ายไทยต้องสงวนท่าที รอติดตามสถานการณ์และผลให้ชัดเจนว่าพรรคใดจะได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องของการแข่งขันทางการเมือง มั่นใจไม่ว่าจะเป็นพรรคใดเข้ามาบริหารประเทศก็จะไม่กระทบต่อการพูดคุยสันติสุขฯ ไม่กระทบโรดแมป เพราะถือเป็นนโยบายระหว่างประเทศ ซึ่งทุกพรรครัฐบาลที่เข้ามาดำรงตำแหน่งต้องให้การสนับสนุนตามหลักสากลในแนวทางสันติวิธี เพราะปัจจุบันทั่วโลกได้เข้าสู่โหมดสันติภาพ ขอให้ประชาชนอย่ากังวลหรือคาดการณ์ล่วงหน้า เพราะสันติวิธีถือเป็นแนวทางที่ต้องดำรงอยู่และดำเนินต่อไป 

    นายภูมิธรรม เวชยชัย  รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เป็นบทเรียนสำคัญที่ผู้มีอำนาจในประเทศควรได้พึงตระหนัก ก็คือการใช้อำนาจอันไม่มีขีดจำกัดที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึก และความต้องการอันแท้จริงของประชาชน และไม่สามารถตอบสนองการแก้ปัญหาที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ได้ เมื่อถึงวันที่ประชาชนได้รับโอกาสในการแสดงออก จะตัดสินใจบนพื้นฐานความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา ดังนั้นหากรัฐบาลของคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองเข้ามาด้วยวิธีพิเศษตลอดเวลา 4  ปี ที่บริหารประเทศไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่พึงพอใจของประชาชน เช่น เหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่รอวันปะทุหรือแสดงออก ถ้าท่านมีความมั่นใจ และอยากรู้ว่าประชาชนคิดอย่างไรกับรัฐบาลของท่านจริงๆ ต้องรีบจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว แล้วท่านจะได้รับคำตอบด้วยตัวท่านเองจะได้ไม่ต้องคิดนั่งมโนเอาเอง 

     ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอแสดงความยินดีจากใจจริงแก่ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ต่อการกลับมาอย่างสง่างามอีกครั้ง พลังของประชาชนชาวมาเลเซียได้ออกเสียงอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขายังคงจดจำตำนานที่ยิ่งใหญ่ และความเป็นผู้นำของท่านยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของพวกเขาไม่เสื่อมคลาย จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ ดร.มหาเธร์อย่างใกล้ชิดในอดีต มั่นใจว่าท่านจะนำพาแนวร่วมแห่งความหวังและประเทศมาเลเซียไปสู่อนาคตที่งดงาม ความคิดและวิสัยทัศน์ภายใต้การนำของท่าน จะเป็นแรงผลักดันและสร้างอาเซียนให้กลับมาตื่นตัวและยิ่งใหญ่อีกครั้ง เชื่อว่าชาวไทยทุกคนรู้สึกนึกคิดและเคารพ ดร.มหาเธร์ เฉกเช่นเดียวกันกับผม

    ขณะที่นายสุทิน วรรณบวร  อดีตนักข่าวการเมืองอาวุโส แนวร่วมกลุ่ม กปปส. เมื่อครั้งชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวสวนกลับนายทักษิณว่า เคยถ่ายรูปกันหุ่นนายทรัมป์มาหลอกควายว่าได้สัมผัสทรัมป์ วันนี้พอมหาเธร์ชนะเลือกตั้ง ยังไม่ทันฟอร์มรัฐบาล ยังไม่ทันสาบานตน ทวีตข้อความมาแสดงความยินดีอ้างความสนิทสนมเป็นส่วนกับเขาอย่างหน้าไม่อาย ไม่ได้เจียมว่าเป็นสัมภเวสีหนีคุก ไม่สำเหนียกว่ามาเลย์เขาเลือกมหาเธร์ไล่คนโกง

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้บ่งบอกว่าในที่สุดไม่สามารถทัดทานความรู้สึกของประชาชนได้ แน่นอนประชาชนเขาใช้การเลือกตั้งในการแสดงออกถึงความต้องการหรือไม่ยอมรับบางอย่าง หรือต้องการความเปลี่ยนแปลง ประชาชนเขามองว่ารัฐบาลมีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชันจึงแสดงออกมาผ่านการเลือกตั้ง

    เมื่อถามว่า หากเทียบกับเมืองไทยจะมีการแสดงออกอย่างนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตรงนี้ก็เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ให้ดูว่าถ้ามันมีบางสิ่งบางอย่างที่ประชาชนไม่ยอมรับ สุดท้ายจะสะท้อนออกมาในการแสดงออก ไม่เฉพาะเมืองไทย ก็ทุกประเทศ ก็ต้องรู้ว่ามันถึงจุดหนึ่งก็จะเป็นอย่างนี้ได้ ส่วนประเทศไทยจะเกิดแบบนี้ได้หรือไม่ ตนไม่ทราบได้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่เลย แต่ตรงนี้มันก็เป็นอุทาหรณ์ว่าหากประชาชนมีความข้องใจ ไม่พอใจ จะไปคิดว่าใช้กลไกรัฐ ใช้ไม่ได้เสมอไปหรอก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"