ล็อกเป้ารอถล่มรัฐบาล แต่ถ้าไร้หมัดน็อกก็ชกลม


เพิ่มเพื่อน    

      ความมันส์ทางการเมืองก่อนปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรกลางเดือนกุมภาพันธ์ ก็คือการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

      ซึ่งวันจันทร์ที่ 25 ม.ค.64 เวลา 09.30 น. พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลกับ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา โดยเบื้องต้นวิปรัฐบาลเคาะปฏิทินออกมาแล้วว่าจะให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเวลา 4 วัน 4 คืน คือช่วง 16-19 ก.พ. และลงมติในวันเสาร์ที่ 20 ก.พ.2564

      ก่อนหน้านี้ 1-2 วัน มีกระแสข่าวหลุดออกมาจากห้องประชุมลับแกนนำฝ่ายค้านที่ประชุมกันไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่รัฐสภา ข่าวบอกว่าในห้องประชุมลับดังกล่าวมีการกางชื่อรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอกไว้ร่วม 11 คน

      ตามข่าวพบว่า รอบนี้ "พี่น้อง 3 ป." คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ-พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อยู่ในโผทั้งหมดเหมือนปีที่แล้ว แต่ต้องไม่ลืมว่าซักฟอกปี 2563 ทั้ง "บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก" แม้จะมีชื่อถูกยื่นซักฟอก แต่ถึงเวลาจริงๆ พรรคร่วมฝ่ายค้านกลับมีปัญหากันเองในเรื่องคิวการอภิปราย จนทำให้ทั้งสองคนไม่โดนซักฟอกหนักๆ ในห้องประชุมมากนัก โดยเฉพาะพลเอกประวิตรที่ไม่ถูก ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายถึงเลยแม้แต่คนเดียว ท่ามกลางกระแสข่าวฝ่ายค้านมวยล้มต้มกันเอง เพราะพรรคเพื่อไทยตลบหลังพรรคก้าวไกล จนเกิดการแฉกันเองกลางรัฐสภา

      โดยประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ตามข่าวบอกว่า ฝ่ายค้านล็อกเป้าเตรียมถล่มพลเอกประยุทธ์อย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่อง “ปัญหาโควิดระบาดรอบสอง” ในฐานะเป็นประธาน ศบค. อีกทั้งยังเป็น รมว.กลาโหม คุมความมั่นคง-ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่กลับปล่อยให้เกิดปัญหาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน และปัญหาเรื่องการลับลอบเปิดบ่อนการพนัน ซึ่งทั้งสองกรณีกลายเป็นต้นตอโควิดระบาดรอบสอง และมีข่าวว่าฝ่ายค้านจะพุ่งเป้าอภิปรายเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจจากผลพวงการออกมาตรการต่างๆ มาแก้ปัญหาโควิด โดยฝ่ายค้านก็จะเน้นแต่เรื่องที่จะดิสเครดิตรัฐบาลได้ แต่บางเรื่องที่โดนใจประชาชน เช่น โครงการคนละครึ่ง ก็จะไม่แตะ เพราะขืนไปแตะจะเสียคะแนนนิยมเอง ส่วน พล.อ.ประวิตร ข่าวว่าจะถูกซักฟอกกรณีเป็นรองนายกฯ ดูแลกระทรวงแรงงาน จึงต้องโดนด้วยจากปัญหาแรงงานเถื่อนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ น่าจะมีหลายเรื่อง เช่น ปมสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นต้น

      ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ข่าวว่ามีชื่อตามโผฝ่ายค้านก็เช่น จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์-อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข โดยจุรินทร์และอนุทินจะถูกอภิปรายเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิดในส่วนของงานในความรับผิดชอบของกระทรวงตนเอง

      ส่วนคนอื่นๆ ก็เช่น สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย-นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ประเด็นเรื่องสมัยเป็นนายก อบจ.สงขลาซึ่งถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดี และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจที่ อ.จะนะ สงขลา-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาฯ เรื่องการบริหารงานในกระทรวง-ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เรื่องนโยบาย ส.ป.ก. เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูรายชื่อและประเด็นที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง 25 ม.ค.

      กระนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น หากฝ่ายค้านอภิปรายแบบน้ำท่วมทุ่ง ไม่มีประเด็นที่หนักแน่น ขาดการทำการบ้านที่ดีพอ ได้แต่พูดลอยๆ กล่าวหาโจมตีแบบตีกิน แต่ขาดข้อมูลหลักฐานมาอภิปรายสนับสนุน แล้วยิ่งหากการอภิปรายสุดท้าย ประชาชนเห็นชัดว่าน่าจะมีการซูเอี๋ย-มวยล้มกับ รมต.บางคน จนอภิปรายกัน 4 วัน 4 คืน แต่ไร้หมัดน็อก

      ก็อาจทำให้ศึกซักฟอกที่จะมีขึ้น แทนที่จะเป็นเวทีซึ่งทำให้รัฐบาลเสียเครดิต ขาดความน่าเชื่อถือจากประชาชน สุดท้ายอาจกลายเป็นเวทีฝังกลบทางการเมืองพรรคฝ่ายค้านกลางสภาเองก็ได้ ใครจะไปรู้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"