สกัดพีระพันธุ์พปชร.ให้นั่งตามคิว


เพิ่มเพื่อน    

"บิ๊กป้อม" ยันเสียงค้าน "พีระพันธุ์" เข้าพรรคเป็นที่ตัวบุคคล แต่ "สิระ" รับน้องจัดหนัก เหมือนพระบวชใหม่เวลานั่งต้องเรียงตามลำดับพรรษา ส่วน ปชป.นัวเนีย "เทพไท" อัดกรรมการบริหารพรรค หลังก้าวไกลเป็นแชมป์รับเงินบริจาคจากภาษี  "ราเมศ" ตอกกลับพรรคทำงานจริง ไม่ฉาบฉวย พูดจาสนุกสะใจไปวันๆ 
    เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสภายในพรรคพลังประชารัฐที่ดูเหมือนจะคัดค้านตัวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า ไม่มีอะไรหรอก เป็นที่ตัวบุคคล ส่วนจะต้องทำความเข้าใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรระบุ "เดี๋ยวบอกผม เป็นเรื่องของผม" 
    เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะยังเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯ  เพียงคนเดียวหรือไม่ รองนายกฯ ส่ายหัวให้สื่อมวลชนและตอบเพียงว่า  "ถามอยู่นั่นแหละ" แล้วเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที
    นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงนายพีระพันธุ์ว่า ส่วนตัวเห็นว่านายพีระพันธุ์เป็นนักการเมืองอาวุโสจากพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยคือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในพรรคพลังประชารัฐยังไม่มีการหารือกัน และที่สำคัญยังไม่เคยเจอกันกับนายพีระพันธุ์ และเพิ่งจะเข้าเป็นสมาชิกพรรคเปรียบเสมือนพระบวชใหม่ เวลานั่งต้องเรียงตามลำดับพรรษาถึงจะถูกต้อง 
    "ผมเคยเล่นหมากรุก เวลาจะออกตัวเดินเบี้ย เดินขุน ผมต้องดูตาม้าตาเรือด้วย เชื่อว่าคุณพีระพันธุ์คงรู้จักหมากรุกดีพอ"
    เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐยังมีแค่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา คนเดียวใช่หรือไม่ เนื่องจากนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ให้จับตา พปชร.เสนอชื่อนายกฯ 3  คน โดยหนึ่งในนั้นมีนายพีระพันธุ์ด้วย นายสิระกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ต้องใช้ความคิดเห็นคนทั้งพรรค ซึ่งการออกมาแสดงความเห็นของนายไพศาลที่ไม่ใช่คนในพรรค ไม่ใช่สมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ตนถือว่าเราคุยกันในสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ซึ่งยังไม่ถึงเวลาเหลืออีกปีกว่าถึงจะมีการเลือกตั้ง ไม่มีการยุบสภา
    “ขอให้คุณไพศาลไปดูว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงไม่ส่งชื่อคุณพีระพันธุ์เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่แล้ว หากมีความรู้ความสามารถอย่างที่คุณไพศาลพูด” นายสิระกล่าว
    เมื่อถามอีกว่า ภายในพลังประชารัฐมีกระแสต่อต้านนายพีระพันธุ์หรือไม่ นายสิระกล่าวว่ายังไม่ได้เจอกันเลย เพราะยังไม่มีการประชุมพรรค จึงยังไม่รู้ว่าใครจะต่อต้านหรือใครจะสนับสนุน แต่เท่าที่รู้นายพีระพันธุ์เพิ่งจ่ายเงินค่าสมาชิกรายปีและตลอดชีพ 1,000 และ 100  บาทเท่านั้น ไม่มีอะไรเหนือกว่านี้ ตนก็จ่าย 1,000 บาทเข้ามาเป็นสมาชิกเมื่อปี 2562 ตนถือว่าตนอยู่พรรค 3 ปีแล้ว นายพีระพันธุ์เพิ่งเข้ามาสัปดาห์เดียว ถึงได้บอกว่าต้องดูพรรษาด้วย
    นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำโพลให้คะแนนการทำงาน ส.ส.พรรค พปชร.ว่า​ ไม่ได้กังวลอะไร​เพราะรู้จุดประสงค์ของคน​ทำโพลนี้อยู่แล้ว​ โดยชาวบ้านก็รู้อยู่แล้วว่าตัวผู้แทนในพื้นที่เป็นอย่างไร​ เชื่อว่าสังคมมองออกว่าใครทำอะไรเพื่อวัตถุประสงค์​อะไร​ และตอนนี้ ส.ส.ภาคใต้เริ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อน มีความสามัคคีกันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร​ 
    เมื่อถามว่า​ พรรคได้แจ้งถึงรายละเอียดการให้คะแนนหรือไม่​ นายสัณหพจน์​ยืนยันว่า​ไม่มี​ แต่เชื่อว่า ส.ส.ใต้ไม่มีปัญหาสักคน​ เมื่อไหร่​ที่  พล.อ.ประยุทธ์​ยังเป็น​นายกฯ ก็ไม่มีปัญหา​ เพราะคนใต้ยังรัก พล.อ.ประยุทธ์​ และ ส.ส.ใต้มีแต่เพิ่มไม่มีลด จาก 14 คนในตอนนี้ เลือกตั้งเที่ยวหน้าคาดว่า​จะได้ขั้นต่ำ 25 คน​ เนื่องจากกระแสของนายกฯ ทางภาคใต้ดีมาก​ เห็นได้จากล่าสุดที่นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครศรีธรรมราช​เมื่อวันที่​ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ทุกโค้งที่วิ่งไปในเมืองมีแต่คนบอกรักลุงตู่​ ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่อยู่ต่อ​ 
    ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  กรณีพรรคพลังประชารัฐจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ  เป็นเรื่องภายในของพรรคพลังประชารัฐ จะได้ชัดเจนเลย สุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะตัดสินใจอย่างไร ขอให้พรรคพลังประชารัฐเสนอ พล.อ.ประยุทธ์จริงๆ อย่างที่พูดมา อย่าเปลี่ยนเป็นคนอื่นเมื่อสถานการณ์พลิกผัน เพราะเชื่อว่าทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อมีการเลือกตั้ง  หากประชาชนชอบ พล.อ.ประยุทธ์ก็ให้เลือก พล.อ.ประยุทธ์และคณะ แต่ถ้าใครชอบประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันก็ให้เลือกพรรคเพื่อไทย   
    วันเดียวกันนี้ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวมีเนื้อหาระบุว่า "ผมได้ดูข้อมูลยอดเงินการบริจาคภาษีเงินได้ให้กับพรรคการเมืองต่างๆ ประจำปี  2563 พบว่า มีพรรคการเมืองที่ได้รับการบริจาคภาษี ยอดเกิน 1  ล้านบาท มีจำนวน 5 พรรค คือ 1.พรรคก้าวไกล 12,695,739.77 บาท 2.พรรคประชาธิปัตย์ 3,241,639.30 บาท 3.พรรคกล้า 2,532,740.71 บาท 4.พรรคพลังประชารัฐ 2,032,004.08 บาท 5.พรรคเพื่อไทย  1,422,517.81 บาท"
     นายเทพไทระบุอีกว่า "ซึ่งกลุ่มบุคคลที่บริจาคภาษีเงินได้ให้กับพรรคการเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นคนชั้นกลาง หรือเป็นคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นส่วนใหญ่ จากเมื่อก่อนพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแชมป์ในการได้รับบริจาคมาโดยตลอด แต่มาปีนี้พรรคที่เป็นแชมป์ได้รับการบริจาคสูงสุด คือพรรคก้าวไกล ที่มียอดการบริจาคทิ้งห่างพรรคการเมืองอื่นหลายเท่าตัว และที่น่าจับตามองอีกพรรคหนึ่งคือพรรคกล้า ที่มียอดการได้รับบริจาคภาษีสูงเป็นอันดับ 3 มากกว่าพรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐอีก ทั้งที่เป็นพรรคการเมืองก่อตั้งใหม่"
    "จากยอดเงินของการบริจาคภาษี น่าจะเป็นดัชนีหรือนัยทางการเมืองได้ระดับหนึ่ง ที่บ่งบอกว่าคนชั้นกลางที่มีการเสียภาษีเป็นส่วนใหญ่  และคนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เป็นผู้เสียภาษีเงินได้ มีความสนใจและให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกลมากที่สุด"
    "พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นแชมป์การได้รับบริจาคมาโดยตลอดนั้น แต่กลับมียอดบริจาคลดลงอย่างน่าใจหาย น่าจะเป็นสัญญาณทางการเมืองบางอย่าง ที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องทบทวนการทำงานของพรรค ทั้งในเรื่องท่าที จุดยืน และอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค และจะต้องหาคำตอบให้ได้ว่า ทำไมยอดการรับบริจาคของพรรคจากผู้เสียภาษีเงินได้ลดลงไปมากกว่าที่ผ่านมา เพราะข้อมูลจากการบริจาคภาษีเงินได้ของผู้เสียภาษีให้กับพรรคการเมือง จะเป็นผลโพลวัดความนิยมได้ชัดเจนกว่าผลโพลบางสำนักเสียด้วยซ้ำไป” นายเทพไท ระบุ
    ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้นายเทพไทว่า ความนิยมในทางการเมืองคงจะนำมาประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แล้วมาตัดสินในทุกเรื่องคงไม่ได้ ส่วนของพรรคหากติดตามการทำงานด้วยใจที่เปิดกว้าง ท่าที จุดยืน และอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค  คือการทำงานให้ประชาชนและประเทศยึดมั่นผลสำเร็จของงานและความยั่งยืนในอนาคต ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่โกงกิน และไม่คิดล้มสถาบัน เชื่อว่าจะเห็นความจริง และประชาชนก็เห็นว่าพรรคทำงานจริง ไม่ทำงานฉาบฉวย หรือหวือหวา พูดจาให้สนุกสะใจไปวันๆ 
    "หากคิดว่าสิ่งที่พรรคทำไม่ดี หรือไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชนใดๆ เลย ก็ช่วยเสนอให้มีการยกเลิกประกันรายได้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ชาวนา มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ให้ยกเลิกที่ไปสร้างบ้านมั่นคงให้แก่ประชาชนที่ยากจน ให้ยกเลิกการส่งออกที่มียอดเพิ่มขึ้น ให้ยกเลิกพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชน ให้ยกเลิกการพัฒนาระบบชลประทานทั้งหมดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำ และอีกมากมายสิ่งที่ดีที่พรรคทำก็ต้องยกเลิกให้หมด การที่นายเทพไทออกมากล่าวเช่นนี้ก็จะไม่เป็นธรรมต่อพรรค เหมือนพรรคไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ดีเลย" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"