ประเคนข้อหาสันธนะ 'วิระชัย'จ้อแจ้งเพิ่มพรึ่บ! 'รองต่อ'สู้เอาคืน3นายพล


เพิ่มเพื่อน    

 

    ตำรวจดอนเมืองคุมตัว "สันธนะ" ฝากขังผลัดแรก ก่อนศาลให้ประกัน 3 แสน ห้ามยุ่งพยานหลักฐาน-ไปนอก รายงานตัว 2 ก.ค. เจ้าตัวโวยออเดอร์พิเศษ เตรียมร้อง "บิ๊กแป๊ะ" เล่นงาน 3 นายพล พร้อมฟ้องกลับ 8 ผู้ค้า "วิระชัย" ปัดกลั่นแกล้ง จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม เจอความผิดเพียบ เผยผู้เสียหายกว่า 100รายแล้ว

    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เวลา 09.09 น. ตำรวจ สน.ดอนเมืองควบคุมตัว พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล ที่ปรึกษาของบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด มาส่งฟ้องฝากขังผลัดแรก ในข้อหากรรโชกทรัพย์ 

    โดยทันทีที่ลงจากรถ พ.ต.ท.สันธนะได้ชูมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมกล่าวว่า "นี่เป็นออเดอร์ ผมเป็นลูกค้าวีไอพีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วเมื่อกี้ขณะที่นั่งรถมา มีคำสั่งพิเศษบอกว่าให้กลับไปที่สถานีตำรวจใหม่อีกรอบหนึ่ง เมื่อคืนผมมีคนของผมดูแลก็เรียบร้อยดี ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง ได้เตรียมหลักทรัพย์มาพร้อม ผมมั่นใจในกระบวนการศาลยุติธรรม ผมไม่ได้กระทำผิดอะไร ถ้าประเทศนี้แผ่นดินนี้คนไม่ได้กระทำผิดแล้วถูกกระทำแบบผม ประชาชนสังคมจะอยู่ได้ไหม มีพ่อค้าแม่ค้า 8 รายมาบอกว่าผมไปรีดเก็บเงินไถเงิน เดือนละ 1,500 บาท เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผมได้รับรายชื่อ 8 เดนนรกแล้ว ผมดำเนินการฟ้องร้องพ่อค้าแม่ค้าพวกนี้กลับแน่ คนอย่างผม ผมดูชื่อ เขาขายอยู่ตรงไหน ร้านไหน ผมไม่เคย ไม่รู้จัก เป็นเรื่องจริงที่ 8 หมายไม่มีผู้เสียหายมันเป็นกระบวนการที่ผิดปกติไปทุกขั้นตอน ผมไม่มีวันยอมพวกคุณ"

    ต่อมาเวลา 10.00 น. นายอภิชาติ ครัวเชื้อ ทนายความของ พ.ต.ท.สันธนะ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อเตรียมยื่นประกัน พ.ต.ท.สันธนะ พร้อมระบุว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์สำหรับยื่นประกันเป็นเงินสด 8 แสนบาท พร้อมยื่นคำร้องไปว่า หากมีการขอออกหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ขอศาลพิจารณาไม่ออกหมายจับ หากมีการแจ้งข้อหาเพิ่มอีก เนื่องจาก พ.ต.ท.สันธนะอยู่ในอำนาจศาลจากการฝากขังครั้งนี้แล้ว ส่วนเรื่องการฟ้องกลับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า 8 รายนั้น ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน แต่ไม่เห็นด้วย อยากให้มีการสู้คดีนี้ให้เรียบร้อยก่อน

    "พ.ต.ท.สันธนะไม่ได้กังวลอะไรหมายจับ แต่จากการสอบสวนเมื่อวันที่ 12 พ.ค. รายละเอียดการบรรยายพฤติการณ์ในหมายจับทั้ง 8 ใบ มีการบรรยายรายละเอียดว่ามีการเรียกเก็บเงิน กรรโชกทรัพย์กี่ครั้ง ซึ่งหมายจับใบหนึ่งเฉลี่ย 25 ครั้ง คดีนี้อัตราโทษสูงสุด 5 ปี ลองเอา 25 คูณ 5 เข้าไปคดีหนึ่งร้อยกว่าปี แล้ว 8 คดี ไม่เป็นพันปี ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากการขัดผู้มีอำนาจของรัฐ ซึ่ง พ.ต.ท.สันธนะให้บันทึกไว้อยู่ในคำให้การว่าเรื่องราวความขัดแย้งเป็นยังไง เหตุเกิดตรงไหน ขัดแย้งกับใครบ้าง พวกเราไม่เคยสังเกตเห็นเหรอว่าตลาดมีตั้งมากมายลักษณะนี้ และเป็นการกระทำที่เกินขอบเขตของกฎหมายหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วเอาอำนาจรัฐใช้กฎหมายมากระทำแบบนี้ ขนาดเป็นคนมีชื่อเสียงเป็นตำรวจเก่ารู้เชิงกันยังโดนแบบนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาจะโดนอย่างไร"  ทนายความของ พ.ต.ท.สันธนะระบุ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.พิเศษ สมชาย ประยูรรัตน์ บิดาของ พ.ต.ท.สันธนะ และกลุ่มผู้ติดตาม ประมาณ 7-8 คน ซึ่งเป็นเพื่อนและผู้ติดตามของ พ.ต.ท.สันธนะ ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ 
ฝากขังสันธนะผลัดแรก

    จากนั้นเวลา 12.27 น. พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้นำคำร้องฝากขัง พ.ต.ท.สันธนะยื่นต่อศาล ซึ่งได้เตรียมคำร้องมา 8 คำร้องตามหมายจับ แต่ได้นำคำร้องทั้งหมดไปแก้ไขรวมเป็นคำร้องเดียว โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่า ตั้งแต่ เม.ย.2559-2561 ต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหากับพวกรวม 11 คน ได้ร่วมกันเรียกเก็บเงินเป็นรายเดือนจากผู้ค้าเครื่องสำอางอาหารเสริมบำรุงสุขภาพในตลาดใหม่ดอนเมือง ร้านละ 1,000-3,000 บาท โดยผู้ต้องหาจะแบ่งหน้าที่กันทำ เรียกเก็บเงินช่วงปลายเดือนของทุกเดือน มีการเรียกเก็บค่าจอดรถยนต์เดือนละ 700 บาท ค่าจอดรถจักรยานยนต์เดือนละ 300 บาท มีพฤติกรรมเป็นการข่มขู่คุกคามผู้ขาย จนทำให้เกิดความว่าจะเกิดอันตรายหากไม่ยอมจ่ายเงินดังกล่าว 

    จากการสอบสวน ขณะนี้มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 9 คดี และมีคดีที่ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สันธนะ 8 คดี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 337, เหตุเกิดที่ตลาดใหม่ดอนเมือง อาคารแอร์พอร์ต พลาซ่า แขวงเเละเขตดอนเมือง กทม. กระทั่งวันที่ 12 พ.ค.2561 เจ้าพนักงานตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหานี้ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1015/2561 ลงวันที่ 11 พ.ค. 2561 ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ได้ที่บ้านพักบิดาย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา โดยชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อหา

    ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องทำการสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 50 ปาก รอผลตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือและประวัติการต้องโทษผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ 12 วัน ตั้งแต่ 13-24 พ.ค.นี้

    ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีการกระทำเป็นขบวนการ มีผู้เสียหายจำนวนมาก ทางการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามผู้เสียหายและพยาน ประกอบกับการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหากับพวกเคยถูกจับกุมในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวพาไปในเมือง หมู่บ้านฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และร่วมกันมีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครอง โดยในการจับกุมพบว่าผู้ต้องหากับพวกมีการครอบครองอาวุธปืนมากถึง 5 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนถึง 70 นัด อันมีลักษณะเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง หากศาลให้ประกันตัวเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี ทั้งผู้ต้องหามีการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันหลายคดี มีผู้เสียหายมากกว่า 127 รายได้มาแจ้งความดำเนินคดีไว้ 

    ทั้งยังมีความผิดเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ที่เป็นข้อหาหนักและมีอัตราโทษสูง ซึ่งเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคล จนพยานบุคคลและผู้เสียหายเกิดความเกรงกลัว เพราะเคยถูกกลุ่มผู้ต้องหาข่มขู่ให้จ่ายเงิน นอกจากนี้ ผู้ต้องหาเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 20 คน กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ผู้ต้องหาอาจสั่งการให้ลูกทีมในพื้นที่ทำร้ายหรือข่มขู่ผู้เสียหายและพยานในคดีนี้ อันอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงได้ ดังนั้นการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาล

    ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขัง พ.ต.ท.สันธนะ ผู้ต้องหาได้
    ต่อมา นายอภิชาติ ครัวเชื้อ ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 3 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว พ.ต.ท.สันธนะ ระหว่างฝากขัง ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วมีคำสั่งอนุญาต ให้ พ.ต.ท.สันทนะประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้ผู้ต้องหารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ร้องบิ๊กแป๊ะฟัน 3 นายพล

    พ.ต.ท.สันธนะให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับการปล่อยชั่วคราวว่า ตั้งแต่พนักงานสอบสวนพาออกจาก สน.ดอนเมือง ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ โดยมีการสั่งการถ่วงเวลา อ้างว่ารอเอกสารคำร้องฝากขังพร้อมมีคำสั่งพิเศษมาให้ใช้เครื่องพันธนาการคุมตัวตนอย่างแน่นหนาโดยใส่กุญแจมือ จนใกล้จะมาถึงศาลอาญาก็มีโทรศัพท์คำสั่งพิเศษโทร.มาอีกว่าให้เอาตัวตนกลับไปยัง สน.ดอนเมือง ตนจึงแจ้งคนควบคุมตัวไปว่าขณะนี้คุณได้ควบคุมตัวตนพร้อมเอกสารเข้ามาในเขตอำนาจศาลเเล้ว หากคุมตัวตนกลับไม่แน่ว่าจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ คนควบคุมเลยจำเป็นต้องนำตนไปควบคุมที่ศาลอาญา 

    "ถ้ามีโทรศัพท์เข้ามามันจะเพี้ยนไปหมด คดีนี้มันมีเหตุที่จะมีการสั่งการเป็นระยะให้มีเหตุเปลี่ยนแปลงกันตลอด ผมก็ไม่อยากให้ผู้ปฏิบัติเดือดร้อน เสียงนั้นมันมาจากสวรรค์หรือนรก สั่งมาทำไป อย่าให้คุณเดือดร้อน เดี๋ยวไอ้เสียงนั้นไว้เจอกับผมดีกว่า ว่าใครมันจะเสียงดังกว่ากัน ตอนนี้ผมหวังพึ่งศาลยุติธรรมเป็นที่สุด" พ.ต.ท.สันธนะระบุ

    ส่วนความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลฝ่ายรัฐนั้น เริ่มต้นจาก 3 นายพลตำรวจ ตอนนี้ขยับเป็น 5 นายพลที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบมุ่งเป้าหมายมาที่ตน โดยจะทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ทราบว่าใครคือนายพลที่มีปัญหากับตน 3 คน ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่รุนแรง เลือกปฏิบัติกับตน ความอับอายน่าจะเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำกับตน ทั้งนี้ ที่บอกว่าตนกร่าง โวยวายเป็นคาแรคเตอร์นั้น ยอมรับ ไม่ยอมใคร ไม่เคยรีดไถใคร ไม่มีใครเคยมาฟ้องตน จะมีก็ตำรวจกลุ่มนี้เท่านั้น โดยหลังจากนี้ หากมีตำรวจมาปฏิบัติกับตนอย่างไร จะโต้กลับโต้ในทางกฎหมาย เพราะเชื่อในศาลยุติธรรม

    โดยหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ พ.ต.ท.สันธนะ ระบุว่าจะขอกลับบ้าน ไปพักผ่อนสักครึ่งวัน จากนั้นเดินเข้าไปที่รถตู้สีดำ ที่มี พ.ต.อ.(พิเศษ) สมชาย บิดา นั่งอยู่ พร้อมกับนั่งลงกราบลงที่ตักพร้อมสวมกอดก่อนเดินขึ้นรถอีกคันกลับไป

    ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกประชุมพนักงานสอบสวนสืบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีการปรามปราบผู้มีอิทธพล ทั้งในส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกับ พ.ต.ท.สันธนะ ฐานความผิดร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หลังจากมีผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมืองแจ้งความเพิ่มอีก 22 คน

    พล.ต.อ.วิระชัยเปิดเผยว่า นอกจาก 8 ข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สันธนะ แล้ว ยังมีอีกหลายข้อหาที่เตรียมจะแจ้งเพิ่ม ถึงแม้ว่าจะผัดฟ้องฝากขังแล้วยังสามารถดำเนินการได้ เพราะมีการกระทำความผิดต่อเนื่องต่างกรรมต่างวาระอีกจำนวนมาก ขณะนี้มีผู้เสียหายมายืนความเสียหายแล้วมากกว่า 100 ราย ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นพศิลป์ ภู่สาระ รองผู้บังคับการสืบสวนนครบาล เป็นหัวหน้าทีมในการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาที่เหลือ ทราบว่าขณะนี้ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับที่เหลือได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ตามต่างจังหวัดตามแนวตะเข็บชายแดน จึงได้ประสานกับด่านตรวจคนเข้าเมืองสกัดกั้นการหลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด

    ส่วนกรณี พ.ต.ท.สันธนะจะแจ้งความเอาผิดกับผู้เสียหายที่แจ้งความนั้น ขอให้ความมั่นใจกับผู้เสียหายในคดีนี้ และให้ความมั่นใจกับพยานว่าทุกคนจะไม่ถูกดำเนินคดี ใครก็ตามที่ฟ้องกลับผู้เสียหายที่แท้จริงบุคคลผู้ฟ้องจะเป็นผู้ผิดกฎหมายเสียเองในฐานแจ้งความเท็จ และเบิกความเท็จหรือฟ้องคดีอันเป็นเท็จ  เพราะยืนยันว่าเป็นผู้เสียหายจริง อย่างไรก็ตาม ที่พ.ต.ท.สันธนะระบุว่าถูกกลั่นแกล้งนั้น ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับการพิพาทกับใครทั้งสิ้น แต่ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มีตามข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์คดีนี้ จึงเกิดจากความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"