ปลดกระท่อม พ้นยาเสพติด


เพิ่มเพื่อน    


    "คอท่อม" เฮ! สภาฯ ผ่านฉลุยปลดล็อกพืชกระท่อมยกเลิกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ มีผลบังคับใช้ 90 วันหลังประกาศในราชกิจจาฯ ระบุจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ใช้ในชีวิตประจำวันตามวิถีดั้งเดิม ลดภาระงานงบประมาณของรัฐในการจับกุมและดำเนินคดี รวมทั้งส่งเสริมเป็นพืชเศรษฐกิจ
    ที่รัฐสภา เวลา 10.30 น. วันที่ 27 มกราคม มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ.... 
    โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธาน กมธ. กล่าวรายงานว่า ตามที่ที่ประชุมสภาฯ ได้พิจารณารับหลักการณ์ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ บัดนี้ กมธ.ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยสรุปได้ดังนี้ กมธ.ได้ใช้ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา และมีข้อสังเกตท้ายรายงานเพื่อให้สภาฯ พิจารณาคือ 1.ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีความมุ่งหมายเพื่อยกเลิกพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมจะบริโภคได้โดยไม่มีความผิดและไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เว้นแต่จะนำไปผสมสารเสพติดชนิดอื่น จะทำให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกที่ดีได้รับการยอมรับจากสังคมว่าไม่ใช่ผู้ติดยาเสพติด
    2.ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะบังคับใช้ภายใน 90 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่ง กมธ.แก้ไขให้เหมาะสมจากเดิมที่กำหนดไว้ 180 วัน โดยการยกเลิกโทษพืชกระท่อมจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ใช้ในชีวิตประจำวันตามวิถีดั้งเดิม ลดภาระงานงบประมาณของรัฐในการจับกุมและดำเนินคดี รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมพืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ เพราะพืชกระท่อมคือสมุนไพรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีศักยภาพที่ควรนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดกับประเทศ โดยเฉพาะเกษตรกร จึงควรผลักดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลโดยเร็ว
    3.เมื่อร่าง พ.ร.บ.ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ประชาชนผู้นิยมบริโภคพืชกระท่อมอาจจะเข้าใจผิด ว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน อาจเกิดการใช้พืชกระท่อมอย่างเสรีทันที และอาจถูกจับกุมในช่วงที่กฎหมายยังไม่มีผล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ 
    4.ระยะเวลาใช้บังคับของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้มีการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อมขึ้นมาอีกฉบับหนึ่งเพื่อให้มีมาตรการควบคุมการใช้พืชกระท่อม หลังจากยกเลิกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว โดยร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม กมธ.เห็นว่าไม่ควรมีข้อจำกัด เหมือนที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เพราะพืชกระท่อมเป็นยาสมุนไพรที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แต่กำหนดไม่ให้เกิดการใช้ในเด็กและเยาวชน และการปลูกที่มีความเท่าเทียมกัน เป็นต้น ส่งเสริมด้านการแปรรูปให้เกิดประโยชน์ ผลิตยาสมุนไพรแก้โรคต่างๆ ให้เป็นธุรกิจที่ส่งออกได้ทั่วโลก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
    ต่อมาเป็นการอภิปรายของสมาชิกอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมาตรา 2 ประเด็นการกำหนดเวลาบังคับใช้กฎหมายภายหลังการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน โดยมีสมาชิกบางส่วนอยากให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ในทันที โดยนายสมศักดิ์ได้ชี้แจงว่า การกำหนดระยะเวลา 90 วัน เพื่อให้เวลากับการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ที่เป็นกฎหมายรองในการควบคุมการใช้พืชกระท่อม ไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึง รวมถึงไม่นำไปใช้ผิดประเภทหรือนำไปผสมกับยาเสพติดชนิดอื่น ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับการแก้ไขของ กมธ.ให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาด้วยคะแนน 326 ต่อ 5 เสียง
    จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ....ด้วยคะแนน 319 ต่อ 7 เสียง และดำเนินตามกระบวนการเพื่อออกเป็นกฎหมายต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"