99.5%หนุนมาตรา112 ชี้ก้าวไกลเสี่ยงยุบพรรค


เพิ่มเพื่อน    

 "ซูเปอร์โพล" ตอกย้ำ คนไทยส่วนใหญ่ต้องการให้รักษา ม.112 ไว้ เป็นการปกป้อง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์   "ทิพานัน" ชี้หาก "ก้าวไกล" ยื่นญัตติแก้ไขยกเลิก 112 เข้าข่ายโทษยุบพรรค เหตุถูกครอบงำโดย "ปิยบุตร" คนนอกพรรค

    เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง เสียงของราษฎร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,179 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 26-29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
    สอบถามเสียงของราษฎรต่อประเด็นสำคัญของนักวิชาการ เช่น ปิยบุตร และนักการเมืองบางคน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 99.5 ระบุการใช้กฎหมาย มาตรา 112 ควรอยู่ในเรื่องความมั่นคง ต่อไป รองลงมาคือ ร้อยละ 99.1 ระบุเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่ต้องช่วยกันรักษาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เอาไว้,  ร้อยละ 98.9 ระบุราษฎรกำลังสับสนกับการให้ข้อมูลของนักวิชาการ นักการเมือง เกี่ยวกับสถาบันหลักของชาติ, ร้อยละ 98.7 ระบุเชื่อมั่นว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะช่วยให้ ประชาชนปกป้อง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เอาไว้ได้
    นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.1 ระบุคนที่เดือดร้อนจากการมีกฎหมายมาตรา 112 เพราะมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่จ้องจะทำลายมากกว่า, ร้อยละ 98.0 ระบุมีขบวนการ นักวิชาการ นักการเมือง แหล่งทุนต่างชาติ จ้องทำลาย สถาบันหลักของชาติของคนไทย, ร้อยละ 98.0 ระบุมีขบวนการ นักวิชาการ นักการเมือง แหล่งทุนต่างชาติ จ้องทำลาย สถาบันหลักของชาติ ของคนไทย และร้อยละ 97.4 ระบุควรเพิ่มโทษ ใน กฎหมายมาตรา 112 สำหรับคนที่มีเจตนาโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์
    ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงแกนนำพรรคการเมืองตั้งใหม่ถึง ความชัดเจนในบทบาทปกป้องเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ พบว่า อันดับหนึ่งคือ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี ได้ร้อยละ 44.3 รองลงมาคือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย ได้ร้อยละ 28.3 อันดับสาม ได้แก่ นายกรณ์ จาติกวณิช พรรคกล้า ได้ร้อยละ 18.7 และอื่นๆ ร้อยละ 8.7 ตามลำดับ
    ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลมีมติดำเนินการเพื่อแก้ไขยกเลิกกฎหมายอาญา ม.112 และมี ส.ส.พรรคก้าวไกลบางคนออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและจะไม่ออกเสียงลงมติดังกล่าว และหลังจากนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาฯ พรรคอนาคตใหม่ และเลขาธิการคณะก้าวหน้าก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อว่า ส.ส.ต้องเป็น “ผู้แทน” ของราษฎร มิใช่ “พนักงานของรัฐ” พร้อมแฮชแท็ก “ยกเลิก 112” นั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 29 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ
    ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม ซึ่งหากพรรคก้าวไกลและสมาชิกยังคงดำเนินการยื่นญัตติและลงมติเพื่อแก้ไขยกเลิกกฎหมายดังกล่าวแล้ว ก็จะเป็นการชัดเจน มีผลให้นายปิยบุตรต้องโทษตามมาตรา 108 คือจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 100,00-200,00 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
    นอกจากนี้ สำหรับพรรคก้าวไกลหากยังคงเดินหน้าดำเนินการยื่นญัตติและลงมติเพื่อแก้ไขยกเลิกกฎหมายดังกล่าว ก็อาจจะเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 28 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” ทำให้ต้องได้รับโทษยุบพรรคการเมืองตามมาตรา 92 (3) และคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองจะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 92 วรรคท้าย
    "จากการแสดงออกของนายปิยบุตรเองนั้น แสดงให้เห็นลักษณะของการเผด็จการทางความคิด และเป็นที่น่าเสียดายที่นายปิยบุตรไม่สามารถควบคุมโทสจริตของตนเองได้จนมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้พรรคการเมือง และ ส.ส.ดำเนินการแก้ไขยกเลิกกฎหมายอาญา ม.112 ในสภา"
    น.ส.ทิพานันกล่าวว่า    หากไล่ตามไทม์ไลน์ นายปิยบุตรก็กลับไปกลับมาในประเด็นดังกล่าว และหยุดเคลื่อนไหวแก้ไขยกเลิกกฎหมายเพื่อดำรงความเป็น ส.ส.ของตัวเองไว้ ดังนี้ เมื่อ 17 ม.ค. 2555 นายปิยบุตรในฐานะนักวิชาการได้เข้าร่วมลงชื่อในคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 และเคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าวมาโดยตลอด 27 มี.ค.2561 เมื่อเข้ามาเป็นนักการเมือง ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่เพื่อสมัครเป็น ส.ส. ก็ประกาศหยุดเคลื่อนไหว และเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ขอยืนยันว่าจะไม่นำเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาเกี่ยวข้องกับพรรค และไม่นำไปผลักดันในพรรค” ต่อมา 8 เม.ย.2561 ยืนยันอีกครั้งโดยนายธนาธรว่า หากเป็นนายกฯ ไม่คิดแก้ ม.112 แม้นายปิยบุตรเคยเคลื่อนไหวก็ตาม
    ต่อมาเมื่อนายปิยบุตรไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งแล้ว นายปิยบุตรก็กลับมาเคลื่อนไหวการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอีก และยังพยายามชี้นำ ครอบงำ ส.ส. ให้ผลักดันแก้ไขกฎหมายดังกล่าวด้วย โดยเมื่อ 14 ม.ค.64 ได้ออกมาโพสต์ข้อความยอมรับเองว่า “กลางเดือนมีนาคม 2561 สมัยผมเริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ผมยอม “กลืนเลือด” ตัดสินใจขัดแย้งกับมโนธรรมสำนึกของผมอย่างสิ้นเชิงมาแล้ว ด้วยการประกาศว่า ไม่มีนโยบายแก้ 112 ทั้งนี้ ก็เพื่อขจัดอุปสรรคขัดขวาง ให้พรรคก่อตั้งได้ ให้พรรคได้ไปต่อ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้ เพื่อฝ่าแรงเสียดทานจนไปสู่การลงเลือกตั้งได้ และด้วยหวังว่าเขาจะปรานีให้พรรคอนาคตใหม่ได้ต่อสู้ทางการเมือง
    "คำพูดตามไทม์ไลน์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่านายปิยบุตรก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หายใจไปวันๆ เพื่อตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์ เงินทอง อำนาจ ด้วยหรือไม่" น.ส.ทิพานันกล่าว
    เฟซบุ๊ก “กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG” ซึ่งเป็นเพจเครือข่ายม็อบ 3 นิ้ว โพสต์ข้อความโจมตีนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ไม่ขอร่วมลงชื่อแก้ ม.112 กับพรรคว่า การออกมาแสดงออกของนายคารมต่อกรณีนี้ เป็นที่ชวนสงสัยว่า แท้จริงแล้วนายคารม รวมไปถึง ส.ส.ที่ได้เข้ามาเป็นผู้แทนในสภา แต่กลับไปสนับสนุนให้กฎหมายที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาชน และประชาธิปไตยสามารถดำรงอยู่ได้อีกทั้งพรรคการเมืองที่ยังสนับสนุนกฎหมายนี้ ...ยังกล้าเรียกว่าตนเองเป็นพรรคประชาธิปไตยได้อยู่หรือไม่? หรือเป็นเพียงพรรคที่มีเพื่อรับใช้ศักดินา กดหัวปิดปากประชาชนต่อไป
    นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักโทษคดี 112 ทำจดหมายเปิดผนึกขอให้กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและ ส.ส.ทุกท่านสอบสวนพฤติกรรม ของนายคารม พลพรกลาง ที่ไม่ยอมรับมติพรรค เพื่อกำจัดให้พ้นไปจากพรรคก้าวไกลในที่สุด ทั้งนี้ ขอได้โปรดดำเนินการโดยทันที และแจ้งผลการสอบสวนในทุกขั้นตอนให้ทราบด้วย.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"