ผงะ!จับ3มือบึ้มจามจุรีฯ การ์ดอาชีวะ‘แก๊งชู3นิ้ว’


เพิ่มเพื่อน    

 

"นครบาล" รวบ 3 อาชีวะฟันเฟืองฯ ปาระเบิดปิงปองหน้าอาคารจามจุรีสแควร์เมื่อกลางเดือน ม.ค. จนมีตำรวจ-สื่อมวลชนบาดเจ็บ 5 ราย แจ้ง 5 ข้อหาหนัก ก่อนส่งศาลฝากขัง พร้อมเร่งขยายผลโยงบึ้มอีก 4 คดีหรือไม่ "เด็กก้าวไกล" ฉุน ตร.ไม่มาแจง "กมธ.พัฒนาการเมือง" โวยนายกฯ ต้องรับผิดชอบ

    ที่ สน.ปทุมวัน วันที่ 29 ม.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 และ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สปพ. แถลงข่าวการจับกุมนายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรี อายุ 30 ปี, นายพรชัย ประกาพวง อายุ 24 ปี และนายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ กรณีร่วมกันก่อเหตุปาวัตถุระเบิดแรงดันต่ำใส่ตำรวจควบคุมฝูงชนขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมอยู่บริเวณหน้าอาคารจามจุรีสแควร์ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการชุมนุมทำกิจกรรมหลายสถานที่ เริ่มตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อเนื่องมาที่ สน.พญาไท สามย่านมิตรทาวน์ และหน้าอาคารจามจุรีสแควร์ ผู้ชุมนุมได้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นต้องเข้าดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย จำนวน 6 คน ต่อมาเวลา 18.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดที่หน้าอาคารจามจุรีสแควร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย สื่อมวลชน 1 คน และเจ้าหน้าที่อาคารจามจุรีย์สแควร์ 1 คน
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาใต้ออกหมายจับ โดยศาลเห็นว่ามีหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีผู้เกี่ยวข้องจำนวน 3 คน จึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมทั้ง 3 คน โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพที่เป็นประโยชน์ต่อคดี
    "ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมและเป็นสมาชิกของอาชีวะฟันเฟืองประชาธิปไตย โดย 2 คนเป็นอดีตนักศึกษาสถาบันอาชีวะ อีก 1 คนยังศึกษาอยู่ รวมทั้งสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุปาระเบิด ซึ่งอ้างว่าทำระเบิดกันเอง จุดประสงค์ที่ปาต้องการไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่" ผบช.น.กล่าว
    พ.ต.อ.กำธรเสริมว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบวัตถุพยานประกอบไปด้วยเศษชิ้นส่วนแก้ว ตะปู คราบเขม่าวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่ง จากการวิเคราะห์เป็นระเบิดแสวงเครื่องจัดทำขึ้นเอง หรือที่เรียกว่าระเบิดปิงปอง ใช้การขว้างปาเสียดสีทำให้เกิดระเบิดได้ รวมถึงการตรวจสถานที่อื่นๆ มีลักษณะคล้ายกัน มีดินวัตถุระเบิดแรงต่ำ หรือที่เรียกว่าดินเทา เศษตะปู เศษแก้ว เหมือนกันทั้ง 4 คดี ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ อนุสรณ์สถานที่ 14 ตุลา  หน้ากองฉลากเก่า และที่หน้าอาคารจามจุรีสแควร์
    จากนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุระเบิดทั้ง 4 แห่ง มีลักษณะเหมืนกันหลายกรณี ส่วนจะยืนยันว่าทั้ง 4 เหตุคนทำจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
    มีรายงานจากชุดสืบสวนระบุว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาครั้งนี้  นายวีรยุทธทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ มีนายพรชัยเป็นผู้ซ้อนท้ายและเป็นคนปาวัตถุระเบิดแรงดันต่ำ ส่วนนายณัฐสุตเป็นผู้ที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดมาให้นายพรชัย ในวันเกิดเหตุนายณัฐสุตได้ขี่รถจักรยานยนต์ประกบนำทางมา
    ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันคุมตัวนายพรชัย, นายวีรยุทธ และนายณัฐสุต ผู้ต้องหาคดีปาระเบิดจามจุรีสแควร์มาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.-9 ก.พ.2564 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร
    โดยพนักงานสอบสวนแจ้ง 5 ข้อกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร และร่วมกันทำ ซื้อ มีใช้ สั่ง นำเข้า ค้า หรือจำหน่ายด้วยประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ จากการสอบสวนแล้วผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
    ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
    ที่รัฐสภา วันเดียวกัน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีคณะกรรมาธิการฯ เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบถามกรณีการจับกุมผู้สื่อข่าวสำนักข่าวประชาไท ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ช่วงการสลายการชุมนุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเลื่อนการเชิญเป็นครั้งที่ 5
    นายปดิพัทธ์กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้มีมติเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวคือ พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม รองผบก.น.4 แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเเจ้งขอเลื่อนนัดถึง 4 ครั้ง กรณีที่เกิดขึ้นเช่นนี้เกิดจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.คําสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงส่งผลให้สภาไม่มีอำนาจตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ และทำให้อำนาจของคณะกรรมาธิการฯ ถูกตัดทอนเเละลดบทบาท จึงเป็นความกังวลของคณะกรรมาธิการฯ ในการลดทอนบทบาท เเละให้อำนาจแก่รัฐมนตรีหรือฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นปัญหาจากผลพวงโดยตรงของรัฐธรรมนูญ 2560
    "ผมจะนำเรื่องนี้หารือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเมื่อผู้ชี้แจงไม่มาและกรรมาธิการไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จะต้องมีการยื่นตีความการใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ ใหม่อีกหรือไม่ รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชา คือนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ยังไม่ดำเนินการอะไร" ส.ส.พรรคก้าวไกลรายนี้ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"