ยื่นกกต.ยุบก้าวไกลหนุน3นิ้ว เด้งตร.เซ่นป้ายโจมตีสถาบัน


เพิ่มเพื่อน    

“ณฐพร” มือยุบพรรคโผล่ กกต. ยื่นยุบก้าวไกล เผยฐานความผิดหนุนม็อบ 3 นิ้วป่วนเมือง ประกันตัวผู้ต้องหา ม.112 มีพฤติกรรมปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ยันหลักฐานชัดเจนครบถ้วน "พิธา" ด่าเลอะเทอะ ขู่ฟ้องกลับ คุก 5 ปี ด้าน "ผบช.ภ.3" ชิงโกนผมธำรงวินัย พร้อมสั่งเด้งผู้กำกับ สภ.ภูเขียว โทษฐานปล่อย 3 นิ้วแขวนป้ายโจมตีสถาบัน

     เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาวินิจฉัยกรณีพรรคก้าวไกลมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 จากกรณีการแสดงความเห็นทางการเมือง การเข้าร่วมกับผู้ชุมนุม และการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมือง ถือเป็นการกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
    รวมทั้งกรณีพรรคก้าวไกลยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112, ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ตลอดจนการลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับไอลอว์ ซึ่งการกระทำของพรรคก้าวไกลถือเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 45 และมาตรา 92 (2) (3) จึงขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยและเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค
     นายณฐพรเผยว่า ที่มายื่นร้องเนื่องจากพรรคก้าวไกลมีการกระทำใน 2 ประเด็น ยุยงส่งเสริม สนับสนุนให้มีการชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และมีการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 มีการเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งการกระทำเหล่านี้ตนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานมานาน และมีหลักฐานครบทั้งหมด จึงมายื่นให้ กกต.พิจารณา และศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัย
    เขายืนยันว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการตรวจสอบการทำงานของพรรคการเมือง ในฐานะประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 51 กำหนด ส่วนที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการประกันตัวผู้ต้องหาและการเสนอแก้ไขกฎหมายเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ
    "ผมขอถามกลับว่าหากผมไปหมิ่นประมาทแม่ของคุณธนาธร  ส.ส.พรรคก้าวไกลจะประกันตัวให้ผมหรือไม่"
    นายณฐพรกล่าวว่า การแก้ไขมาตรา 112 การเป็นนักการเมืองจะทำอะไรก็ต้องศึกษาว่ามาตราดังกล่าวมีผลร้ายต่อประเทศและประชาชนอย่างไร และกฎหมายมาตรานี้ไม่ใช่เพิ่งมี แต่มีมานานแล้ว และทั่วโลกก็มีกฎหมายคุ้มครองประมุข เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาชุมนุมกัน ซึ่งการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ไม่ใช่เพียงเรื่องการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเพื่อขอแก้ไขกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีการโยงใยไปถึงการล้มล้างระบอบการปกครองซึ่งเรามีหลักฐาน
    “พฤติกรรมหลายๆ อย่างที่ทำมา มันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างเช่นหัวหน้าพรรคก้าวไกลยื่นประกันตัวทนายอานนท์ นำภา ที่ละเมิดต่อมาตรา 6 ของกฎหมายอาญา ซึ่งการไปประกันตัวบุคคลพวกนี้ถือว่าละเมิดหรือไม่ แม้จะอ้างว่าศาลยังไม่ตัดสิน แต่ความผิดซึ่งหน้ามันชัดเจนว่าทำผิด และยังมีการละเมิดสิทธิบุคคลอย่างกรณีสถาบันถูกละเมิดอย่างแรง กรณีการฉีกพระบรมฉายาลักษณ์"
    นายณฐพรกล่าวว่า บอกได้เลยที่มายื่นวันนี้หลักฐานชัดเจน ไม่มีหลักฐานที่เคลือบคลุม อันไหนที่ต้องตีความกันเราไม่ยื่น เอกสารหลักฐานต่างๆ เราขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเรื่องการโอนเงิน ก็มีหลักฐานว่าพวกที่ชุมนุมได้เงินจากใคร ใครโอนเงินให้ ใครจ่ายเงินให้ จ่ายเงินที่ไหน เรามีหลักฐานครบทุกอย่าง ทั้งนี้ เราเชื่อว่าเราจะพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าที่เรายื่นไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่มีหลักฐานเพียงพอ
    "ยืนยันว่าการยื่นยุบพรรคก้าวไกลในวันนี้ไม่ได้โกรธแค้นส่วนตัวกับใคร แต่ทำในฐานะประชาชนที่มีหน้าที่ที่รวบรวมพยานหลักฐานมานาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อนการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญผมก็ยื่นเสนอศาลรัฐธรรมนูญทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เราเอากฎหมายเป็นหลัก บ้านเมืองมีกฎหมาย ถ้าเรายกการบังคับใช้กฎหมายให้คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ก็จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องจ้องยุบพรรค แต่มีกฎหมายชัดเจนว่าการทำหน้าที่ ส.ส. ไม่ใช่จ้องล้มล้างสถาบันเพื่อจะเอาใจคนใดคนหนึ่ง" นายณฐพรกล่าว
    ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนี้ว่า เลอะเทอะ ได้ติดตามข่าวและได้อ่านเอกสารคำร้องที่นายณฐพรได้ส่งให้ กกต.แล้ว ไม่มีอะไรจะพูดอะไรมาก นอกจากคำว่าเลอะเทอะและไร้สาระ
    "คุณณฐพร โตประยูร ชื่อคุ้นๆ เพราะเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินที่ดินคลองจั่นเกือบ 500 ล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนระบอบสืบทอดอำนาจ คสช. และเขาก็ยังเป็นคนเดียวกับที่เคยยื่นให้ยุบพรรคอนาคตใหม่คดีอิลลูมินาติด้วย ซึ่งในคดีนั้นก็จบลงที่ศาลวินิจฉัยไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากไม่ได้มีการล้มล้างการปกครองหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองแต่อย่างใด"
    นายพิธากล่าวว่า ตนและพรรคกำลังพิจารณาฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายณฐพร ในความผิดมาตรา 101 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ในข้อหาที่ว่า ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
    วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีมีกลุ่มราษฎร ผู้จัดค่าย “ราษฎรออนทัวร์” นำป้ายข้อความที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปสถาบัน แขวนทับป้ายชื่อสถานีตำรวจภูเขียว จ.ชัยภูมินั้น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภูเขียว จ.ชัยภูมิ มาปฏิบัติราชการ ณ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยให้ขาดจากตำแหน่งและหน้าที่สังกัดเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และมีคำสั่งมอบหมายให้ พ.ต.อ.ปราโมทย์ สิมหลวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ รักษาราชการแทนในตำแหน่งดังกล่าว
    ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้กำชับไปหลายรอบแล้ว แต่ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังบกพร่อง เราก็ไม่อยากต้องลงโทษกันแบบนี้ตลอดเวลา เพราะที่ผ่านมามีการกำชับและอบรมแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่เรียบร้อย เราปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้ ในเมื่อย้ำหลายครั้งแล้วถ้าใครทำงานไม่ได้ก็เปลี่ยนหน้าที่
     ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้มีคำสั่งย้ายด่วนผู้กำกับการ สภ.ภูเขียว เนื่องจากผู้กำกับการไร้จิตสำนักความเป็นตำรวจ ไร้ซึ่งระเบียบวินัย และไร้ซึ่งแผนเผชิญเหตุ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด ซึ่งขณะเกิดเหตุผู้กำกับการไม่รายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงถึงการปล่อยปละละเลยและหย่อนยาน
     โดยในวันเดียวกันนี้ ตนจะเดินทางไปที่ สภ.ภูเขียว เพื่อกำกับติดตาม และสั่งการให้ดำเนินคดีกลุ่มราษฎรทุกคนที่ชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินและฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ รวมถึงข้อหาอื่นๆ ทั้งนี้ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระเบียบวินัย เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาไร้ระเบียบวินัย ตนในฐานะผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จึงต้องโกนหัวเพื่อธำรงวินัย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"