เมินขู่ฟ้องกลับ/สันธนะนัดสื่อจ้อ


เพิ่มเพื่อน    

 

    "รอง ผบ.ตร." ยันเอาผิด "สันธนะ" ตามพยานหลักฐาน เมินเสียงขู่ฟ้องกลับ 8 ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมือง เชื่อแค่เทคนิคต่อสู้คดี พร้อมส่งตำรวจตามคุ้มครองพยาน "บิ๊กโจ๊ก" ซัด "รองฯ ต่อ" ถามใคร 3 นายพลกลั่นแกล้ง เจ้าตัวนัดสื่อพูดคุยชีวิตส่วนตัวที่ห้องพักหรูกลางกรุง 15 พ.ค.นี้ บอกขอแค่บันทึกรายการ งดไลฟ์สด "ตร." ตามรวบลูกน้องได้อีก 1 ราย 

    เมื่อวันจันทร์ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีผู้มีอิทธิพลเรียกรับเงินผู้ค้าในตลาดดอนเมือง กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง และอดีตรองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) ตำรวจสันติบาล ระบุจะดำเนินคดีผู้ค้าทั้ง 8 รายที่แจ้งความเอาผิดตนเองว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเทคนิคการต่อสู้คดี ที่จะมีผลสำหรับการเบิกความในชั้นศาลต่อไป จึงยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นการข่มขู่ผู้เสียหายหรือไม่

    พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ยืนยันการดำเนินคดี พ.ต.ท.สันธนะและพวก เป็นการทำไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอน่าเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริง ส่วนจะเป็นความผิดชัดเจนหรือไม่ต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน

    "ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม พ.ต.ท.สันธนะ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความสมบูรณ์ของพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่ายังไม่สามารถเรียกให้ พ.ต.ท.สันธนะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มได้ในเร็ววันนี้ รวมถึงประเด็นความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องรอการสอบสวนขยายผลก่อน" พล.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าว 

    ถามว่า มีการคุ้มครองพยานที่แจ้งความคดีนี้หรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่าผู้เสียหายที่แจ้งความเอาผิด ตำรวจมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว และหากใครที่รู้สึกไม่ปลอดภัยก็สามารถแจ้งให้ตำรวจเข้าไปช่วยดูแลเพิ่มเติมได้

    ซักถึงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 10 รายที่ออกหมายจับ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์กล่าวว่า จากข้อมูลการข่าวยังไม่พบมีการหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าการหลบหนีออกนอกประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้ที่หลบหนีต้องมีเป้าหมาย เช่น ไปหลบอยู่กับใคร พักอยู่ที่ใด อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเรื่องที่อาจถูกทางการประเทศนั้นๆ ติดตามจับกุมดำเนินคดีฐานหลบหนีเข้าเมืองด้วย

    เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) หนึ่งในคณะทำงานคลี่คลายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่ตลาดใหม่ดอนเมือง กล่าวว่าถึงแม้ศาลจะให้ประกันตัว พ.ต.ท.สันธนะก็ไม่มีผลอะไรต่อการดำเนินคดีในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะประเด็นที่อาจจะมีการไปข่มขู่พยานนั้น หากมีการข่มขู่พยานเจ้าหน้าที่ต้องรายงานต่อศาลให้ทราบ เพื่อใช้ดุลพินิจว่าจะมีการถอนประกันตัวชั่วคราว ซึ่งมีขั้นตอนของกฎหมายอยู่แล้ว

    "ระหว่างนี้พยานทั้งหมดเราได้ใช้มาตรการคุ้มครองพยานอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา พยานทุกคนไม่มีอะไรต้องห่วง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลแล้ว" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว 

    ถามถึงกรณี พ.ต.ท.สันธนะระบุมีตำรวจระดับนายพล 3 นายกลั่นแกล้ง รอง ผบช.ทท.กล่าวว่าไม่ทราบว่าเป็นใคร เราทำไปตามหน้าที่ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ศาลอนุมัติหมายจับเราก็ปฏิบัติตามหมายศาล 

    "การติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 10 คนที่ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้เพิ่มอีก 1 คน ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ จ.สระบุรี ทราบชื่อคือนายต้น อยู่ระหว่างการควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งผมจะไปร่วมสอบปากคำ ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างกระชั้นชิด" รอง ผบช.ทท.กล่าว

    มีรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนชุดคลี่คลายคดีผู้มีอิทธิพลตลาดใหม่ดอนเมืองได้ติดตามจับกุมตัวนายคเณศ เปรมครุฑ หรือต้น อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ได้ที่ จ.นครนายก ซึ่งนายคเณศเป็นบุคคลตามหมายจับลำดับที่ 8 ที่ร่วมกับ พ.ต.ท.สันธนะกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง โดยนำตัวมาควบคุมที่สน.ดอนเมือง เพื่อสอบปากคำและเตรียมที่จะควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาฯ ในวันที่ 15 พ.ค.นี้

    วันเดียวกัน พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า ในวันที่ 15 พ.ค.61 เวลา 14.00-16.00 น. ขอเชิญสื่อมวลชน มาร่วมพุดคุยถึง "ชีวิตส่วนตัว" ของตนเอง นอกเหนือจากกรณีมีคดีความที่ถูกกล่าวหาในปัจจุบัน โดยขอนัดหมายพบกันที่ห้องพัก ณ แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ ราชดำริ โดยการพูดคุยดังกล่าวจะเป็นแบบกันเอง และบันทึกรายการเท่านั้น ขอความร่วมมือให้งดไลฟ์สดสื่อโซเชียลทุกรูปแบบ 

    นายอภิชาติ ครัวเชื้อ ทนายความของ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวถึงการแจ้งข้อหา พ.ต.ท.สันธนะเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่มีหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนให้ไปรับทราบแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ยังพยายามที่จะยัดเยียดข้อหามาอีก ก็มีความจำเป็นจะต้องฟ้อง เพราะที่ผ่านมาเหมือนกับว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่เกินจากกฎหมายไป ซึ่งจะฟ้องใครบ้างนั้นตอนนี้ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน

    "เรื่องการฟ้องกลับข้าราชการระดับนายพล 3-5 คนนั้น ตอนนี้ พ.ต.ท.สันธนะยังไม่มีการสั่งการกับทางทนายแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องพูดคุยกันก่อน เพราะต้องพิจารณาดูด้วยว่ามีความจำเป็นถึงขั้นนั้นหรือไม่" นายอภิชาติกล่าว

    ทนายความ พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า ในส่วนแนวทางการต่อสู้คดีกรรโชกทรัพย์ 8 หมายนั้น ตอนนี้ยังอยู่ในกระบวนการฝากขังผัดแรก ซึ่งพนักงานสอบสวนยังมีระยะเวลาให้อีก 4 ผัด จำนวน 48 วันในการยื่นฟ้อง แนวทางการต่อสู้คดีจึงต้องดูรายละเอียดคำฟ้องก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำฟ้องหรือไม่  ก่อนที่จะหาประเด็นไปหักล้างคำฟ้อง 

    "การร้องขอความเป็นธรรมในชั้นพนักงานสอบสวนคงไม่ยื่นร้องขอความเป็นธรรม เพราะยื่นไปคงไม่ได้อะไร แต่หากมีการส่งความเห็นพร้อมสำนวนไปยังอัยการแล้ว ก็ต้องดูพนักงานสอบสวนว่ามีความเห็นอย่างไร หากเห็นว่าไม่ถูกต้องก็จะต้องร้องขอความเป็นธรรมไปยังพนักงานอัยการ ให้สั่งพนักงานสอบสวนสอบเพิ่มในประเด็นก่อนที่จะมีการสั่งคดี" ทนายความ พ.ต.ท.สันธนะกล่าว

    ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง หลังจากที่มีคำสั่งให้รื้ออาคารพลาซ่าริมน้ำตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่มีร้านค้าอยู่ภายในอาคารได้ทยอยขนของออกมาทั้งหมด และได้รื้ออาคารบางส่วนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยด้านนอกรอบอาคารมีเชือกล้อมไว้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกเนื่องจาก อยู่ในระหว่างรื้อถอน

    ผู้ประกอบการซึ่งเช่าอาคารพลาซ่าริมน้ำรายหนึ่งกล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วอาคารนี้ไม่ค่อยมีการขายของ แต่จะเช่าไว้สำหรับเก็บสินค้าที่ขายเท่านั้น เนื่องจากมีหน้าร้านอยู่ด้านหน้าตลาดใหม่ดอนเมือง ซึ่งหลังจากมีคำสั่งให้รื้อถอน ผู้ประกอบการรายต่างๆ ก็ทยอยย้ายของออกจากพื้นที่เช่าของตนเองและนำของไปเก็บที่ร้าน

    ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผลิตภัณฑ์เมจิกสกินว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 333 ราย หากรวมมูลค่าความเสียหายจะสูงถึงกว่า 194 ล้านบาท โดยขณะนี้ได้เร่งดำเนินการและออกหมายเรียกผู้ที่รีวิวสินค้าชนิดนี้จำนวน 21 ราย ซึ่งมีผู้มาเข้าพบแล้วจำนวน 7 ราย คาดว่าในสัปดาห์นี้จะมีดารา ศิลปิน  รวมถึงเน็ตไอดอลเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอย่างแน่นอน 

    "ในวันที่ 15 พ.ค.จะเปิดเผยรายชื่อผู้ที่จะต้องเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งผู้ถูกหมายเรียกจะต้องเดินทางเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนภายในระยะเวลา 7 วัน หากยังไม่เดินทางเข้าพบ เจ้าหน้าที่ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากผู้ที่ถูกออกหมายเรียกยังไม่เดินทางมาพบอีก เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป" รอง ผบ.ตร.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"