ยืนกรานขอ5วันซักฟอก ‘พปชร.-ปชป.’ฟัดกันนัว


เพิ่มเพื่อน    

  "ชวน” กรีด ส.ส.ทุกคนเป็นผู้ใหญ่ รู้อะไรพูดได้ในศึกซักฟอก แค่อภิปรายเกินเวลาก็เจอ ปชช.วิจารณ์ "แรมโบ้" ขู่ฝ่ายค้านหากไม่ทบทวนพูดจาบจ้วงสถาบันเจอ ม.112 ทันที “สมคิด”ย้ำขอเวลา 5 วันซักฟอก แนะรัฐบาลทำการบ้านอย่าทำการเมืองแบบโบราณ ตั้งองครักษ์พิทักษ์ รมต. ด้าน ส.ส.พปชร.ซัด ปชป.อย่าตีตราจองเป็นเจ้าของพื้นที่ ลั่นไม่ฮั้วทางการเมือง ขณะที่ ส.ส.ปชป.โต้กลับอย่าดูถูก ปชช. อย่ายกหางตัวเอง แจง "เทพไท" โดนคดีอาญาจากการเลือกตั้งนายก อบจ.ไม่เกี่ยวกับพรรค

         ที่รัฐสภา วันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ยังไม่สามารถตกลงกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และจะมีการหารืออีกครั้งในวันที่ 5 ก.พ.นี้  ว่า นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ได้นัดไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้มีแผนรองรับหากตกลงกันไม่ได้ แต่ขอให้มีการพูดคุยกันก่อน อย่าเพิ่งไปสมมุติฐานว่าจะมีปัญหา ไม่ว่าใครจะรู้สึกอะไรก็ตาม แต่ในสภาจะพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักประชาธิปไตย
    ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากมีบางประเด็นที่สุ่มเสี่ยงก็สามารถประชุมลับได้นั้น นายชวนกล่าวว่า การประชุมมีกฎเกณฑ์ สมาชิกทุกคนรับรู้กระบวนการ เพราะเป็นปีที่ 2 ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทุกคนทราบดีว่าอะไรพูดได้หรือไม่ได้ และเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว
    เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ขอให้ฝ่ายค้านนำหลักฐานเอกสารและคลิปวิดีโอที่จะอภิปรายมาแสดงก่อนทำให้ฝ่ายค้านกังวลข้อสอบจะรั่ว นายชวนกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องนำมาแสดง เพราะมีข้อบังคับอยู่แล้ว แต่ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน สิ่งสำคัญใครก็ตามที่ทำอะไรเกินขอบเขตประชาชนจะรับรู้ แค่สมาชิกพูดเกินเวลาคนเขาก็ส่งข้อความมาวิจารณ์แล้ว คนเขาติดตามพฤติกรรมของผู้แทนอยู่
    นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เห็นด้วยกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เตือนฝ่ายค้านอภิปรายเกินขอบเขตต้องรับผิดชอบเอง ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งหากฝ่ายค้านจะมีการอภิปรายพาดพิงสถาบัน โดยในวันจันทร์ที่ 8 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 ศูนย์บริการประชาชน (ก.พ.) เดิม ตนพร้อมผู้ช่วยรัฐมนตรีจะมีการประชุมคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (สสอ.) ร่วมกับฝ่ายกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ และเตรียมความพร้อมของฝ่ายกฎหมาย ที่หากพบว่าระหว่างการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีการอภิปรายพาดพิง จาบจ้วง บิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีอันเป็นเท็จต่อสถาบัน จะแจ้งความดำเนินคดีในมาตรา 112 ทันทีไม่เว้นหน้าว่าเป็นพรรคไหน บุคคลไหนก็ตาม ดังนั้นจึงควรระมัดระวัง อย่าพาดพิงถึงสถาบันเด็ดขาด ขอเตือนสติไว้ก่อนที่จะโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย
    “ทางที่ดีไม่ควรนำเรื่องสถาบันมาอภิปรายจะดีกว่า เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ผมยังไม่มั่นใจว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายให้อยู่ในกรอบของกฎหมายได้หรือไม่ โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าชอบพูดพาดพิงสถาบันไม่เลิก ก็อาจใช้เวทีการอภิปรายมาพูดพาดพิง จาบจ้วงสถาบันได้ ดังนั้นขอให้ฝ่ายค้านทบทวนอีกครั้ง เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าอาจจะทำเกิดความขัดแย้งทั้งในสภาและนอกสภาได้ แต่หากพรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่ทบทวน และพบว่าการอภิปรายที่มีคำพูดพาดพิงจาบจ้วงสถาบัน ผมและผู้ช่วยรัฐมนตรี พร้อมฝ่ายกฎหมาย จะร่วมกันแจ้งความดำเนินคดีมาตรา 112 เช่นเดียวกัน” นายสุภรณ์กล่าว
เย้ยองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี
     นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กรณีพรรคร่วมรัฐบาลประกาศตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี รวมทั้งการออกมาดิสเครดิตฝ่ายค้านเพื่อลดความน่าเชื่อถือ อยากเตือนไปยังฝ่ายรัฐบาลว่าไม่จำเป็นต้องมานั่งลดความน่าเชื่อถือฝ่ายค้าน สู้เอาเวลาไปทำข้อสอบรวมทั้งทำการบ้าน เพื่อมาตอบคำถามของฝ่ายค้านดีกว่า เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำมาเสียเวลาเปล่าๆ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พี่น้องประชาชนรอฟังฝ่ายค้านอภิปรายความบกพร่องของรัฐบาลที่ผ่านมาทำอะไรดี-ไม่ดีอย่างไรบ้าง เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน จะมาลดความน่าเชื่อถือฝ่ายค้านอย่างไรไม่มีผล เพราะประชาชนเขารู้ว่าเป็นการทำงานเพื่อเอาใจรัฐมนตรีเท่านั้นเอง
    "อยากเตือนบรรดาองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี ว่าให้ไปทำการบ้าน ให้เตรียมตัวตอบคำถามของผู้อภิปรายเท่านั้นเอง ไม่อยากให้รัฐบาลทำการเมืองแบบโบราณ เพราะโลกมันยุคใหม่แล้ว รัฐมนตรีควรฟังข้อมูลแล้วมาตอบคำถามของฝ่ายค้าน ส่วน ส.ส.รัฐบาลที่มีหน้าที่ยกมือประท้วงเพื่อเอาใจนายเท่านั้นให้คิดให้ดีเพราะประชาชนจับตามองอยู่ หากทำไม่ดีก็ไปตอบคำถามประชาชนเองว่าเป็น ส.ส.เพื่ออะไร"
     นายสมคิดกล่าวด้วยว่า พรรคฝ่ายค้านจะมีการหารือกันในเรื่องวันอภิปรายว่าควรที่จะเป็นกี่วัน ฝ่ายค้านขออภิปราย 5 วันและลงมติในวันที่ 6 แต่รัฐบาลให้เพียง 4 วัน และลงมติ 1 วัน คาดว่าจะมีการยื่นขอเสนอไปที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาอีกครั้ง
    นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคพปชร.ส่งตัวแทนคือ นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ลงรับสมัครเลือกตั้งซ่อมในเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช แทนนายเทพไท เสนพงศ์ ว่า เป็นเพราะตนเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การที่พรรคส่งตัวแทนผู้สมัคร นั่นหมายความว่าพรรคไม่สนับสนุนให้มี การตีตราจองว่าใครเป็นเจ้าของพื้นที่ และยืนยันว่าจะไม่มีการฮั้วกันทางการเมือง แต่เป็นการเพิ่มช่องทางตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับประชาชน 30 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชต้องเผชิญกับคำว่าพรรคของเรา คนของเรา มาโดยตลอด คนภายนอกอาจมองว่าพื้นที่นี้มีแต่พรรคการเมือง พรรคเดียวเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่สถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว ในสนามเลือกตั้ง ไม่มีใครเป็นเจ้าของพื้นที่ที่แท้จริงนอกจากพี่น้องประชาชน
     "เราต้องให้ความเคารพต่อคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน แม้ว่าเขาไม่ได้เลือกเรา แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะต้องพ่ายแพ้ในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เราไม่เคยตีโพยตีพาย แต่เราต้องใช้สถานการณ์ดังกล่าวในการคิดทบทวนและปรับปรุงตัวเราเอง เราเชื่อว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้รับคือคะแนนบริสุทธิ์ที่พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจเลือกตัวแทนของเขาแล้ว และคือผู้ให้โอกาสเราได้ทำงานตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจนั้น โดยเราพร้อมที่จะยอมรับกติกาที่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" นายสัณหพจน์กล่าว
โต้ พปชร.อย่าดูถูก ปชช.
    ขณะที่ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวตอบโต้นายสัณหพจน์ว่า อย่าดูถูกประชาชน เพราะการที่พรรคการเมืองใดได้รับการเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ติดต่อกัน ไม่ใช่พรรคการเมืองตีตราจอง แต่เป็นเพราะเสียงของประชาชนจองพรรคนั้น และไม่มีผู้แทนในพื้นที่ หรือพรรคการเมืองใดจะจองได้ หากประชาชนไม่เอาด้วยก็ไม่มีทางได้รับความไว้วางใจ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้นมีหลายเขตที่ต้องดูกันยาวๆ อย่าพยายามยกหางตัวเอง กลองที่ตีเสียงดังดีคือหนังแท้ กลองที่ตีได้ครั้งเดียวคือหนังเปื่อย  
    น.ส.ศิริภากล่าวว่า ส่วนเรื่องฮั้วกันในทางการเมือง พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันจะทราบดี และเมื่อถึงวันเลือกตั้งก็จะรู้ว่าใครฮั้วกับพรรคไหน 74 ปีที่ผ่านมาพรรค ปชป.เป็นหลักให้กับประเทศ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มุ่งมั่นทำงาน เคารพเสียงประชาชน เป็นความภูมิใจของประชาชนที่มีส่วนเป็นเจ้าของพรรค เมื่อคัดเลือกคนที่ไปลงเลือกตั้งก็ต้องแน่นอนได้ว่าเป็นคนของพรรคและเป็นคนของประชาชน ดังนั้นอย่าดูถูกความรักความศรัทธาของประชาชน ในอนาคตจะมีอีกหลายพรรคที่เราจะรู้ได้ว่าเป็นพรรคที่ยั่งยืนหรือฉาบฉวยหรือไม่
    นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พปชร.หลายคนร่วมกันแถลงพาดพิงประชาธิปัตย์ว่า ความจริงการส่งผู้สมัครของแต่ละพรรคในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว การจะมาบิดเบือนว่าโดยมารยาททางการเมือง ปชป.ไม่ควรส่งลงในเขตนี้ โดยอ้างว่าเคยทุจริตนั้น เป็นการบิดเบือน เพราะนายเทพไท เสนพงศ์ ถูกตัดสิทธิ์เป็นคดีศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนคดีอาญาที่ศาลตัดสินเป็นเรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2556 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค และคดีนายเทพไทยังไม่ถึงที่สุด อยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ คดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับพรรค และไม่เกี่ยวข้องกับคดีเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราชแต่อย่างใด
    "ส.ส.พปชร.คนหนึ่งบอกว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทุจริตในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พปชร.ได้ที่หนึ่งในเขตนี้ไปแล้ว บิดเบือนใส่ร้ายพรรค เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช ไม่ได้มีการทุจริต ถ้าทุจริต กกต.คงไม่ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ ประเด็นนี้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย เพราะเป็นการใส่ร้าย อย่าเล่นการเมืองแบบสามหาว ผู้ใหญ่ในพรรค พปชร.ควรเตือนบุคคลเหล่านี้" นายราเมศกล่าว
    ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มีนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค และ กก.บห. เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
    โดยที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยได้ให้? กก.บห.แสดงความคิดเห็นหากจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัคร? จากนั้นใช้วิธีการโหวตลงมติด้วยการลงคะแนนลับ โดย พล.อ.ประวิตรได้ออกจากห้องประชุมเพื่อให้ กก.บห.ได้ตัดสินใจเอง
    ทั้งนี้ ที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นด้วยให้ส่งนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเห็นว่าต้องรักษาพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเอาไว้? ขณะที่เสียงที่โหวตไม่เห็นด้วยให้เหตุผลว่าเพราะต้องการเสถียรภาพการทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลให้คงอยู่อย่างราบรื่น
     นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช .... แถลงถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะ กมธ.ว่า ที่ประชุมมีมติดังนี้ มาตรา 256 (1) ว่าด้วยจำนวนสมาชิกในการเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามร่างเดิมที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอคือ กำหนดให้ใช้จำนวนหนึ่งในห้าของสมาชิกสองสภา สำหรับมาตรา 256 (3) ว่าด้วยการออกเสียงเห็นชอบในวาระที่หนึ่งรับหลักการ ที่ประชุมเห็นชอบให้ใช้เสียงเห็นชอบต้องไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสองสภา
     ส่วนมาตรา 256 (6) ว่าด้วยคะแนนเห็นชอบในวาระที่สาม ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบกำหนดคะแนนเสียงให้ความเห็นชอบในวาระที่สามจำนวนสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสองสภา และมาตรา 256 (7) ที่ประชุมเห็นชอบให้คงไว้ตามร่างเดิมของรัฐบาลคือ เมื่อมีการลงมติในวาระที่สามแล้ว ให้รอไว้ 15 วัน แล้วจึงนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และให้นำความในมาตรา 81 มาใช้บังคับโดยอนุโลม.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"