'จตุพร' สงสัย!หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ฟังธงรัฐบาลหวัง 'กลบ'


เพิ่มเพื่อน    

5 ก.พ. 64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ว่า ศิลปการบริหารอำนาจของคณะทหารไทยปัจจุบัน มักเน้นการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน โดยสร้างเรื่องใหม่ให้สังคมดราม่าเพื่อลืมปัญหาเก่าที่ยังไม่ยุติและล้มเหลวจากการแก้ปัญหาโดยสิ้นเชิง โดยเรียกสั้นๆว่า ศิลปการกลบหมกปัญหาสำคัญไว้ จนทำให้คณะอำนาจทหารอยู่มายาวนานต่อเนื่องถึง 7 ปี

“การกลบเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องที่ไม่ต้องการให้สนใจ ไปให้สนใจในเรื่องอื่นที่ไม่น่าสนใจ ซึ่งเป็นศิลปการเมืองชนิดหนึ่ง เช่น สร้างเรื่องทุจริตใหม่ขึ้นมากลบทุริตเก่า เพื่อให้คนลืมทุจริตเก่าที่ยังไม่ไดแก้ไขให้ยุติ”

นายจตุพร กล่าวว่า เช่นเดียวกับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ในกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีร่วม 10 คนที่คนมักสนใจเป็นเรื่องหลัก แต่กระแสการอภิปรายฯ กลับถูกกลบแทบลบเลือนหายไป ด้วยเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมาหรือพม่า (ชื่อเก่า) เรื่องวัคซีนโควิดจะฉีด 14 ก.พ.แล้วมาบอกใหม่ยืนยันเป็นฉีด มิ.ย.

นอกจากนี้ การใช้กำลังสลายการชุมนุมหน้าสถานทูตพม่าโดยไม่จำเป็น อีกทั้งมาถึงเรื่อง สภ.คลองหลวง นัดผู้ต้องหา 22 คนซึ่งเป็นนักศึกษา เยาวชน นักจัดกิจกรรมการเมืองไปรับทราบข้อหาคดี ท่ามกลางปลุกกระแสจะถูกนำตัวไปศาลเพื่อฝากขัง จึงจำต้องติดตามลุ้นกัน

อีกอย่าง กรณีการจับเสี่ยโป้ โป้อานนท์ คดีการพนันค้างเก่า 31 คดี กลายเป็นกระแสความสนใจในเรื่องแปลกๆอีกเรื่องที่กำลังดราม่ากัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิดกระแสย้อนทวนถึงคดีหวย 30 ล้านบาทกาญจนบุรีเกิดขึ้นอีก พร้อมกับมีการดราม่าเรื่องลุงพล-นายไชย์พล วิภา กรณีความตายของน้องชมพู บ้านกกกอก

"เรื่องราวเหล่านี้ จะนำมากลบการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้ง 10 รัฐมนตรี และความล้มเหลวสิ้นเชิงของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อีกอย่างสังคมไทยให้ความสนใจดราม่าเรื่องแปลกๆ อาจทำให้ลืมความหิวได้ช่วงขณะหนึ่ง ทั้งที่จริงปัญหาหลักๆ รัฐบาลยังไม่ได้แก้ไขเลย"

นอกจากนี้ วันที่ 8-12 ก.พ.นี้ จะเป็นวันสมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกเทศบาลทั่วประเทศ จึงเป็นปรากฎการณ์ใหม่ให้คนมุ่งไปสนใจการเลือกตั้งท้องถิ่น และประเด็นการเมืองใหญ่จะหายจากความสนใจของประชาชน ซึ่งสะท้อนถึงกระแสดราม่ามาเบี่ยงเบนความสนใจ ชนิดสร้างข่าวกลบข่าวการเมือง

นายจตุพร เชื่อว่า ปรากฎการณ์ที่ สภ.คลองหลวง ที่ตำรวจทำขึงขังเป็นพิเศษนั้น มีความเป็นไปได้ทุกมิติ ทั้ง นศ.-เยาวชนถูกควบคุมตัว เพราะมีเสียงเรียกร้องจากคนชั้นสูงบางฝ่ายให้จัดการ นศ.กลุ่มนี้เด็ดขาดเสียที

อย่างไรก็ตาม ยังมีกระแสมาตรการเยียวยาโควิดเพิ่มประเด็นขึ้นมาใหม่ไม่มีทีท่ายุติ รวมทั้งการประชุมกรณีเบี้ยผู้สูงอายุที่ลากยาวทำให้อึมครึมย่อมเป็นอีกกระแสมากลบสถานการณ์การเมืองของรัฐบาล โดยเรื่องและกรณีเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้น ก็ยังเป็นกระแสให้เป็นข่าวใหญ่ ก่อดราม่าในสังคมได้อย่างกว้างขวาง ประชาชนสนใจและนายกรัฐมนตรีก็มาเล่นบทข่าวกลบข่าวอีก ทั้งที่การบริหารความสุขไม่น่าเป็นเรื่องเลย

ดังนั้น การจับนิสัยคนไทยในการเบี่ยงเบนความสนใจ โดยสร้างเรื่องราวใหม่กลบปัญหารัฐบาลบริหารงานไม่สำเร็จ เปรียบเป็นความสนใจแบบดราม่าน้ำเน่า ซึ่งต้องศึกษาคณะอำนาจทหารใช้ศิลปบริหารความเข้าใจพฤติกรรมคนไทยอย่างยิ่ง

“ลักษณะการเบี่ยงเบนความสนใจนั้น ต้องการให้คนไทยสนใจแต่เปลือก โดยการเมืองแบบปกติไม่เคยจำเป็นต้องปฎิบัติเช่นนี้เลย ดังนั้น จึงสะท้อนว่า ศิลปทางอำนาจของคณะทหารชุดนี้ไม่ธรรมดาเลย”

ส่วนความบาดหมางไม่พอใจของ ปชป. กับ พปชร. คงไม่มีผลถึงขั้นให้ ปชป.ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ขณะที่การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 3 นครศีธรรมราช จะเป็นการชิงชัยแบบยกตนข่มกันในทางการเมือง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นขัดแย้งเกิดการแตกหักและแยกทางกัน 

นายจตุพร กล่าวว่า ตนเห็นว่าทางการเมืองนั้น ต้องคิดอ่านกันถึงปัญหาหลักและแท้จริงที่มีความน่าเชื่อถือ อีกอย่างตนไม่ทราบว่าข้อมูลอภิปรายฯของฝ่ายค้านจะมีอนุภาพแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการอภิปรายฯครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ที่ใครพูดได้เก่ง ได้นานกว่ากัน แต่อยู่ที่การเน้นเนื้อหาข้อมูลการอภิปรายฯ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายล้มรัฐบาล

“การอภิปรายฯ ต้องไม่ไว้วางใจ เนื้อหาต้องจับให้มั่น คั้นให้ตาย ตรงประด็น ข้อมูลต้องใหญ่ จนคนฟังไม่อาจอยู่ที่บ้านได้ ต้องลุกออกมา นั่นคือเป้าหมายการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทั้งผมเชื่อว่า การอภิปรายฯครั้งนี้ควรเป็นจุดเปลี่ยนอย่างสำคัญ”

อย่างไรก็ตาม การจะได้อภิปรายฯหรือไม่ หรือ มี ส.ส.ฝ่ายค้านถอนชื่อจากญัตติเพื่อล้มการอภิปรายฯนั้น ทั้งหมดนี้ในกระดานการเมืองไทยเป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าได้อภิปรายฯแล้ว ตนเชื่อว่า จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองได้ จึงควรติดตามและเฝ้ามองสายตามหภาคเพื่อให้เห็นการเมืองทั้งกระดาน

“สภาพบ้านเมืองยังอยู่ในเหตุการณ์แบบดราม่า น้ำเน่าอีกนาน เพราะเรื่องที่เป็นเรื่อง ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเรื่องราวใหม่ แล้วมาเบี่ยงเบนการเมืองปัญหาหลักและสำคัญ”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"