เตรียมพร้อม“เรารักกัน”


เพิ่มเพื่อน    

     รัฐบาลได้ออกอีกหนึ่งมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 กับมาตรการ “ม.33 เรารักกัน” ซึ่งรอบนี้เป็นมาตรการเพื่อเยียวยาผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันสังคมโดยเฉพาะ โดยรัฐบาลเห็นว่ากลุ่มนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และเป็นความร่วมมือของ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                สำหรับวัตถุประสงค์หลักของมาตรการ ม.33 เรารักกัน คือ ต้องการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยรัฐบาลจะจ่ายเยียวยารายละ 4,000 บาท และคาดว่าจะมีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เข้าข่ายได้รับสิทธิ์รับวงเงินเยียวยาในครั้งนี้ทั้งสิ้น 9.27 ล้านคน โดยรัฐบาลจะใช้งบประมาณดำเนินการอยู่ที่ 3.71 หมื่นล้านบาท

                โดยจะมีการเปิดให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.ม33 เรารักกัน.com และตรวจสอบการรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.-7 มี.ค.2564 และในวันที่ 8-14 มี.ค.2564 ธนาคารกรุงไทยจะตรวจสอบข้อมูล และประมวลผลคัดกรอง โดยในวันที่ 15-21 มี.ค.2564 ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ยืนยันตัวตนบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง และในวันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย.2564 รัฐบาลจะเริ่มโอนวงเงินเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง สัปดาห์ละ 1,000 บาท โดยจะโอนทุกวันจันทร์ โดยผู้ได้รับสิทธิ์วงเงินเยียวยาดังกล่าว จะสามารถใช้จ่ายได้ระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-31 พ.ค.2564 โดยระยะเวลาจะเท่ากับโครงการเราชนะ

                สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ตามมาตรการ ม.33เรารักกันนั้น จะต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และต้องเป็นผู้มีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท ณ เดือน ธ.ค.2563 ต้องไม่เป็นแรงงานต่างด้าว ต้องไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย

                สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อสรุปเกี่ยวกับหลักการในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าผู้ประกันตนจะต้องได้รับการเยียวยาทุกคน เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และเป็นการช่วยเหลือทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

                ขณะที่ “มาตรการเราชนะ” นั้น กระทรวงการคลังได้เริ่มมีการโอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิ์กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้ง 13.8 ล้านราย เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว โดยสัปดาห์แรกจะใช้งบประมาณรวมกว่า 9.4 พันล้านบาท สำหรับจ่ายให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี จะได้รับเงินจากมาตรการเราชนะ 700 บาท และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีรายได้ตั้งแต่ 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จะไดรับเงินในส่วนนี้เพิ่ม 675 บาท

                ซึ่งกระทรวงการคลังเองยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจากมาตรการเราชนะ ที่สมทบเงินให้วันแรก 675 บาท และ 700 บาท จะมียอดใช้จ่ายเท่าใด  นั่นเพราะธนาคารกรุงไทยได้แจ้งขอปิดปรับปรุงระบบการใช้สิทธิ์ชั่วคราว ประมาณ 5 ชั่วโมงในวันดังกล่าว

                โดยธนาคารกรุงไทยแจ้งว่า หลังจากเปิดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้สิทธิ์ตามมาตรการเราชนะวันแรก (5 ก.พ.) พบว่าระบบการใช้สิทธิ์ขัดข้องในส่วนของแอปพลิเคชันถุงเงิน และระบบ EDC โดยพบว่ามีความผิดปกติจากการทำรายการที่ซ้ำซ้อนกันได้จำนวน 2.5 หมื่นคน ไม่ถึง 0.7% ของจำนวนผู้ใช้จ่ายทั้งหมด โดยมีการใช้จ่ายเกินวงเงินสิทธิ์ประมาณ 17 ล้านบาท หรือเกือบ 0.7% ของยอดใช้จ่าย

                โดยรายการที่มีการใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อนกัน ธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างตรวจสอบและแยกแยะรายการที่ผิดปกติ โดยจะดำเนินการโอนเงินให้แก่ร้านค้าในส่วนที่มีการใช้สิทธิ์อย่างถูกต้อง ตรงตามเงื่อนไขมาตรการก่อน ส่วนรายการที่เป็นการใช้จ่ายไม่ตรงตามสิทธิ์ โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบางกลุ่มมีการใช้จ่ายซ้ำซ้อนกัน จนเกินวงเงินจากสิทธิ์ที่ได้รับในมาตรการเราชนะ ซึ่งเท่ากับเป็นการใช้วงเงินตามสิทธิ์ที่ได้รับล่วงหน้านั้น กรุงไทยจะทำการตรวจสอบและดำเนินการปรับปรุงรายการให้ถูกต้อง และปรับปรุงการใช้สิทธิ์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรการเพื่อป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและร้านค้าต่อไป

            อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามดูกันต่อถึงความพร้อมของระบบที่ไม่เพียงแค่ช่วงลงทะเบียนเท่านั้น แต่ยังต้องดูถึงความพร้อมของระบบในการรับ-จ่ายเงินหลังจากได้รับวงเงินสิทธิ์โดยเฉพาะในส่วนของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะรัฐบาลได้ให้สวัสดิการต่างๆ ผ่านบัตรหลายส่วน หากระบบไม่มีความพร้อม และไม่ชัดเจน อาจจะเป็นปัญหาตามมาอีกได้.

ครองขวัญ รอดหมวน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"