เมียนมาชุมนุมท้าทายคำเตือนกองทัพ ตำรวจเนปยีดอใช้กระสุนยาง


เพิ่มเพื่อน    

ชาวเมียนมาออกมาประท้วงเป็นวันที่ 4 เมื่อวันอังคาร ไม่ระย่อต่อคำเตือนของกองทัพที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ตำรวจเนปยีดอฉีดน้ำสลายม็อบอีกวัน ก่อนอัพเลเวลใช้กระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุม ผู้นำกองทัพยืนกรานต้องยึดอำนาจเพราะเลือกตั้งทุจริต แต่ย้ำรัฐบาลทหารมาคราวนี้จะแตกต่างจากเดิม  นิวซีแลนด์นำร่องชาติแรกระงับการติดต่อทางทหารและการเมือง

ผู้ประท้วงรวมตัวกันที่่นครย่างกุ้งเมื่อวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 โดยไม่ยำเกรงคำเตือนของกองทัพและคำชี้แจงเหตุผลของการยึดอำนาจจากผู้นำทหาร (Photo by Stringer/Anadolu Agency via Getty Images)

    ชาวเมียนมาจากหลากหลายภาคส่วนยังคงออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้านการรัฐประหารและเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้นำทางการเมืองอย่างต่อเนื่องในหลายเมืองเมื่อวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยไม่นำพาคำเตือนของทหารที่ออกคำสั่งห้ามการชุมนุมเกิน 5 คนในหลายพื้นที่ของนครย่างกุ้ง, กรุงเนปยีดอ และอีกหลายเมืองทั่วประเทศที่เกิดการชุมนุมประท้วงของคนจำนวนมาก รวมถึงการประกาศเคอร์ฟิวยามวิกาลระหว่างเวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น.

    ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่เป็นผู้นำรัฐบาลทหารชุดนี้ แถลงต่อประชาชนเป็นครั้งแรกนับแต่ทหารก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่ออ้างเหตุผลความชอบธรรมของการยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน แต่ยังคงไม่สามารถบรรเทากระแสต่อต้านได้

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า เช้าวันอังคาร ชาวเมียนมากลับมารวมตัวกันประท้วงอีกครั้งในหลายพื้นที่ของย่างกุ้ง รวมถึงบริเวณใกล้กับที่ทำการใหญ่ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ผู้ประท้วงถือป้ายต่อต้านรัฐประหาร อาทิ "เราต้องการผู้นำของเรา" โดยหมายถึงนางอองซาน ซูจี และ "ไม่เอาเผด็จการ"

    ที่กรุงเนปยีดอ เหนือขึ้นไปหลายร้อยกิโลเมตร ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดขับไล่ผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ ที่ยืนหยัดต้านทานไม่ยอมล่าถอย "หยุดระบอบเผด็จการทหาร" เสียงฝูงชนร้องตะโกนสู้กับแรงดันน้ำ เวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีและผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ตำรวจปราบจลาจลที่นี่ใช้กระสุนยางกับผู้ชุมนุมเป็นครั้งแรก "พวกเขายิงปืนขึ้นฟ้าก่อน 2 ครั้ง จากนั้นก็ยิง (ผู้ประท้วง) ด้วยกระสุนยาง" ชาวเมียนมาในพื้นที่นั่นบอกกับเอเอฟพี และอ้างด้วยว่าเห็นคนเจ็บหลายคน

    ในคำแถลงทางโทรทัศน์ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ยืนกรานว่าการยึดอำนาจของทหารมีความชอบธรรมเพราะเกิดการทุจริตเลือกตั้ง และยังยืนยันว่าทหารจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่

    เมียนมาเพิ่งจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเอ็นแอลดีของนางซูจีกวาดที่นั่งอย่างถล่มทลายอีกครั้ง แต่กองทัพไม่เคยยอมรับผลการเลือกตั้งโดยอ้างว่ามีความผิดปกติของผู้ลงคะแนน พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จนกระทั่งทหารใช้เป็นข้ออ้างยึดอำนาจและจับกุมนางซูจี พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคและนักเคลื่อนไหวหลายราย และประกาศภาวะฉุกเฉินนาน 1 ปี

    ในคำแถลง ผู้นำทหารยังประกาศด้วยว่า สิ่งต่างๆ จะ "แตกต่าง" จากการปกครองระบอบทหารของเมียนมาแต่ก่อน ที่ครองอำนาจ 49 ปีจนถึงปี 2554 "หลังจากภารกิจของช่วงเวลาฉุกเฉินเสร็จสมบูรณ์ การเลือกตั้งทั่วไปแบบหลายพรรคที่เสรีและยุติธรรมจะถูกจัดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ" พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ให้คำมั่น "พรรคที่ชนะจะได้รับการส่งผ่านหน้าที่ของรัฐตามมาตรฐานระบอบประชาธิปไตย"

    เมื่อวันจันทร์ กองทัพเมียนมาเพิ่งออกประกาศเตือนผ่านสถานีโทรทัศน์ของทางการว่า การต่อต้านการยึดอำนาจนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

    "ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายด้วยขั้นตอนที่มีประสิทธิผลต่อความผิดที่รบกวน, ป้องกัน และทำลายเสถียรภาพของรัฐ, ความปลอดภัยของประชาชนและหลักนิติธรรม" ผู้ประกาศของสถานีเอ็มอาร์ทีวีอ่านแถลงการณ์

    ภายนอกเมียนมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงที่กรุงวอชิงตันภายหลังกองทัพเมียนมามีคำเตือนผู้ประท้วง ว่าสหรัฐยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวพม่า และสนับสนุนสิทธิในการรวมตัวอย่างสงบของพวกเขา รวมถึงการประท้วงอย่างสงบเพื่อสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

    ในวันอังคาร นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกที่ดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อคัดค้านการรัฐประหารของเมียนมา นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศว่า นิวซีแลนด์ระงับการติดต่อระดับสูงทางทหารและการเมืองกับเมียนมา และเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศ "ประณามอย่างรุนแรงต่อสิ่งที่พวกเราเห็นว่ากำลังเกิดขึ้นในเมียนมา"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"