9 ก.พ.64 - นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตำหนินายกฯ ในการจัดหาวัคซีนและยังมองว่าสุดท้ายคนไทยจะได้วัคซีนทั้งช้าทั้งแพง ในยามวิกฤตินายกฯ ต้องกล้าตัดสินใจ โดยระบุว่าการที่นายกฯออกมาชี้แจงเรื่องการจัดหาวัคซีนนั้นเพื่อทำความเข้าใจให้กับสังคมที่มีบางส่วนโดยเฉพาะฝ่ายค้านที่ยังเกิดความสงสัยอยู่ ทั้งนี้การจัดหาวัคซีนนายกฯย้ำแล้วว่าจะต้องปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยืนยันจัดหาให้ครอบคลุมสำหรับคนทุกกลุ่มอย่างแน่นอน

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังคาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีวัคซีนทยอย
เข้ามาจาก 2 แห่ง คือ ซิโนแวค ประเทศจีน และ วัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า โดยช่วงต้นที่เข้ามาก่อนจะมาจากซิโนแวค ที่ไทยได้สั่งซื้อไปจำนวน 2 ล้านโดส ออกใบสั่งซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม ไปแล้ว

นายพิธาควรใจเย็นๆและไม่ต้องเป็นห่วงว่านายกฯจะทอดทิ้งประชาชนและประชาชนจะไม่ได้ฉีดวัคซีน เพราะนายกฯเข้าใจความรู้สึกของประชาชนดี รวมทั้งเป็นห่วงประชาชนมากเป็นอันดับหนึ่งไม่แพ้นายพิธา แต่การนำวัคซีนเข้ามานั้นนายกฯย้ำอยู่เสมอว่าจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน 

ทั้งนี้ตนเองมองว่าถ้านายพิธาเป็นห่วงประชาชนจริงก็ควรลงมือทำอะไรเพื่อประชาชนบ้างในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่เอาเวลามาคิดแต่เรื่องทางการเมือง และตำหนินายกฯ รัฐบาล ที่ทำงานหนักในขณะนี้

"วันๆสมองไม่คิดทำอะไร ขยันแต่ขุดคุ้ยเอาเรื่องเก่าๆที่นายกฯและรัฐบาลชี้แจงไปแล้วมาเล่าข่าวขยายผลใส่ร้ายป้ายสี เพื่อโจมตีนายกฯหวังตีกินทางการเมือง คนประเภทนี้เรียกว่า มือไม่พายชอบเอาเท้าราน้ำ เป็นหัวหน้าพรรคชื่อ ก้าวไกล แต่สมองความคิดกลับ คิดแต่ก้าวถอยหลังลงคลองเล่นการเมืองน้ำเน่าเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น วันๆดีแต่ใช้น้ำลายในปาก เพื่อทำลายคนอื่นทางการเมือง ซึ่งนายกฯไม่เคยคิดออกมาตอบโต้ เพราะอยากให้ประชาชนเป็นคนตัดสินนักการเมือง หรือพรรคการเมืองประเภทนี้ ชอบอวดตนเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ยังใช้สไตล์การเมืองแบบไดโนเสาร์เต่าล้านปี เล่นการเมืองเหมือนคนโง่ๆไร้จิตสำนึกไม่มีความคิดทำประโยชน์อะไรเพื่อประเทศชาติประชาชนเลย เสียดายความรู้ความสามารถที่สุด" นายสุภรณ์กล่าว