เปิดปีใหม่มาได้สักพัก คนเราก็อยากได้อะไรใหม่ๆ  ให้เข้ามาในชีวิต และความต้องการก็เปลี่ยนไปตามกระแสที่เปลี่ยนไป จึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ ให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค และในปี 61 นี้มีหลายอุตสาหกรรมที่คิดว่าน่าจะเป็นดาวเด่นที่ได้รับความนิยมจากยุคปัจจุบัน และสามารถสร้างมูลค่าได้มหาศาล

            อุตสาหกรรมศิลปะและหัตถกรรม ที่เป็นสินค้าหมวดหมู่งานฝีมือและหัตถกรรมของประเทศไทย โดยจากข้อมูลศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ อุตสาหกรรมดังกล่าวสร้างมูลค่าถึง 87,306 ล้านบาท ในปี 2557 ทั้งนี้เมื่อนำมาผนวกกับทิศทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยในปัจจุบันแล้ว อุตสาหกรรมศิลปะและหัตถกรรมจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่น

            อุตสาหกรรมความงามและแฟชั่น เนื่องจากตอนนี้ต้องยอมรับว่าความนิยมของสังคมไทยโดยเฉพาะวัยรุ่นมีหลากหลาย แต่หนึ่งในนั้นคือความงามและแฟชั่น ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่เปิดรับกระแสจากต่างประเทศมาตลอดเวลา แถมไทยก็ยังมีอุตสาหกรรมความงามขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีมูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท ในปี 2558 ขณะที่ความสนใจของวัยรุ่นเป็นเรื่องความงามและแฟชั่นแล้ว กระแสความนิยมของกลุ่มคนวัยกลางคนก็ทำให้อุตสาหกรรมสุขภาพและความเป็นอยู่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

            ส่วนด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างอุตสาหกรรมการขนส่งและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีท่องอวกาศ ก็กำลังมาแรง โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีที่กระทบต่อการขนส่งเชิงพาณิชย์ ทำให้หลายประเทศให้ความสนใจกับรถยนต์พลังงานทางเลือก หรือรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มากขึ้น แต่สิ่งที่ประเทศไทยยังขาดตอนนี้ อาจจะเป็นเรื่องความง่ายต่อการเข้าถึงอุตสาหกรรมนั้นๆ อยู่ เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ ดังนั้นไทยควรรสร้างระบบนิเวศและวางโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้พร้อม

            ทั้งนี้ ด้านพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปอย่างที่ว่า ทำให้อุตสาหกรรมค้าปลีกอาจจะคึกคักนักในบางราย เนื่องจากผู้บริโภคหันมาซื้อผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น จนทำให้มูลค่าการซื้อขายออนไลน์เติบโตขึ้นมากกว่า 100% แต่ก็เป็นอีกช่องทางที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมค้าปลีกจะปรับตัวได้ โดยต้องมีการสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์  หรือแม้แต่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

            ถึงอุตสาหกรรมไหนจะขึ้น-จะลง แต่กระแสการท่องเที่ยวก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง และยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเป็นประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆ ประเทศด้วย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงยังคงสร้างรายได้และได้รับความนิยมเป็นด้านต้นๆ  ของตาราง โดยในปี 2561 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถึง 3.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.7 ล้านล้านบาทในปี 2560 ที่ผ่านมาอีกด้วย

            และอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่อยู่ในกระแสของโลกเสมอมา ก็คืออุตสาหกรรมสถาปัตยกรรมและการตกแต่ง ที่กำลังได้รับความสนใจ คือ เมืองสีเขียว และอีกหนึ่งกระแสสำคัญ คือ การออกแบบแบบมัลติฟังก์ชัน เพื่อรองรับการใช้งานอย่างหลากหลายรูปแบบ และตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกเพศ ทุกวัย

            ซึ่งในหลายๆ อุตสาหกรรมก็ต้องการช่องทางเพื่อนำเสนอ สื่อและความบันเทิง จึงยังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ยิ่งสมัยนี้โซเชียลมีเดียก็ถือว่าเป็นสื่อชนิดหนึ่งเช่นกัน โดยในปี 2560 มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กถึง 76% ของผู้ใช้สื่อทั้งหมด รองลงมา คือ อินสตาแกรม 51% และทวิตเตอร์ 42% โดยผู้บริโภคให้ความสนใจกับไลฟ์ทีวีและเสพข้อมูลบนหน้าจอมากขึ้น จนทำให้บทบาทสื่อและการโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนแปลงไป

            และอุตสาหกรรมสุดท้ายที่ตอบสนองคำว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง อุตสาหกรรมอาหาร จึงมีกระแสที่นำโด่งมาตลอดซึ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ ที่สร้างมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2560 กระแสอาหารออร์แกนิก และบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ทำให้ธุรกิจอาหารที่จะเกิดในปี 2561 ต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจควบคู่กัน

            ซึ่งเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมดาวเด่นในปีใหม่นี้ส่วนใหญ่จะตอบสนองวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ซึ่งบางอย่างก็อาจจะทำให้อุตสาหกรรมเดิมๆ นั้นได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังมีช่องทางให้ปรับตัวได้อยู่ ซึ่งหากใครช้าก็อาจจะตายได้ นี่ไม่ได้พูดถึงแค่ผู้ประกอบการรายย่อยๆ  เพราะรายยักษ์ใหญ่ก็ต้องตอบสนองกับกระแสด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็หายไปเหมือนหลายๆ รายที่เป็นตัวอย่างผ่านมา

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า