ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ออกคำสั่งแซงก์ชันแบบเจาะจงกับบรรดาผู้นำทหารของเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร โดยตัดการเข้าถึงกองทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และสละอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมีรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ยืนอยู่ด้านหลัง

    ในการแถลงด้วยตนเองที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า เขาได้อนุมัติคำสั่งฝ่ายบริหารสำหรับการคว่ำบาตรรอบใหม่กับผู้ที่รับผิดชอบต่อการก่อรัฐประการยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนในเมียนมา ขณะเดียวกัน ก็เรียกร้องซ้ำอีกครั้งให้พวกนายพลยอมวางอำนาจและปล่อยตัวผู้นำพลเรือน

    "วันนี้ ผมเรียกร้องอีกครั้งให้กองทัพพม่าปล่อยตัวผู้นำทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยและนักเคลื่อนไหวที่กำลังถูกควบคุมตัวไว้ในทันที รวมถึงอองซาน ซูจี และประธานาธิบดีวิน มยิน" ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าว "ทหารต้องสละอำนาจ"

    ไบเดนกล่าวด้วยว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ให้พวกนายพลสามารถเข้าถึงกองทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ ในสหรัฐได้ และจะเปิดเผยการคว่ำบาตรชุดใหม่ในเร็ววันนี้

     "ผมได้อนุมัติคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ที่ทำให้เราสามารถแซงก์ชันพวกผู้นำทหารที่สั่งการรัฐประหาร, ผลประโยชน์ทางธุรกิจของพวกเขา รวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิด ได้ในทันที" ประธานาธิบดีไบเดนกล่าว และว่า รัฐบาลสหรัฐจะระบุเป้าหมายการแซงก์ชันรอบแรกในสัปดาห์นี้

    "เรากำลังจะกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวด เรากำลังอายัดทรัพย์สินในสหรัฐที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลพม่า ในขณะที่ยังคงให้การสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพ, กลุ่มประชาสังคม และด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนพม่าโดยตรง" ไบเดนกล่าวโดยย้ำว่า สหรัฐจะไม่จำกัดความช่วยเหลือโดยตรงที่ให้แก่ภาคประชาสังคมหรือกลุ่มมนุษยธรรม

    พวกนายพลซึ่งรวมถึงพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต่างโดนรัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรทางการเงินและการเดินทางอยู่ก่อนแล้ว จากกรณีการปราบปรามชาวมุสลิมโรฮีนจาเมื่อปี 2562

    การคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐอาจพุ่งเป้าที่บริษัททั้งหลายที่กองทัพพม่าถือหุ้นด้วย ซึ่งลงทุนในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ธนาคาร, อัญมณี, ทองแดง, โทรคมนาคม และเสื้อผ้า

    เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐอาจเพิ่มแรงกดดันพวกนายพลพม่ามากขึ้นด้วยการประสานความร่วมมือกับชาติพันธมิตรให้ร่วมดำเนินการ.