11ก.พ.64 -จากกรณีมีผอ.โรงเรียนชักปืนหน้าเสาธง เพราะพัวพันเรื่องชู้สาวกับลูกศิษย์ หรอกรณีครูกล้อนผมนักเรียน ที่ดูเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ  กระทบกับภาพลักษณ์ความปลอดภัยในโรเรียน ตลอดจนแลจรรยาบรรณของครูโดยรวม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวในกรณีนี้ว่า เรื่อองความปลอดภัยในสถานศึกษา  ขณะนี้สถานศึกษายังเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนอย่างแน่นอน แม้จะมีกรณีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นกับนักเรียนอย่างรายวัน แต่ตนไม่ต้องการให้มองว่าปัญหาความรุนแรงเหล่านี้เป็นปัญหาที่กระจายตัวอยู่ทุกโรงเรียน ซึ่งปัญหาการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลเท่านั้นจึงไม่ต้องการให้มองว่าโรงเรียนทุกแห่ง จะมีความรุนแรงเหมือนกันทั้งหมด เพราะทุกอาชีพไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารโรงเรียนหรือข้าราชการครู ต่างก็ล้วนมีพฤติกรรมกระทำผิดจรรยาบรรณเช่นเดียวกัน ดังนั้นตนจึงไม่ต้องการให้นักเรียนเหมารวมว่าโรงเรียนทุกแห่งไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย อีกทั้งที่ผ่านมาการแก้ปัญหาคุกคาทางเพศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รณรงค์การแก้ปัญหานี้อย่างเข้มข้น 

นานณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ (ศคพ.) ที่ตั้งขึ้นได้ดำเนินการเอาผิดทางวินัยแก่ครูและผู้บริหารที่กระทำความผิดจรรยาบรรณแล้วหลายราย รวมถึงการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงทันทีเมื่อการเกิดเหตุขึ้น และต้องสรุปผลการสืบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ห้ามประวิงเวลาในการช่วยเหลือ ซึ่งการวางแนวทางที่เข้มข้นของ ศธ.นี้จะเป็นตัวอย่างไม่ให้เกิดการกระทำความรุนแรง หรือ การคุกคามทางเพศนักเรียนเกิดขึ้นอีก ส่วนประเด็นเรื่องครูกล้อนผมนักเรียนนั้น ขณะนี้ศธ.อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎระเบียบ ศธ.เรื่องทรงผมเรียนอยู่ ดังนั้นโรงเรียนจะต้องทำความเข้าใจกับนักเรียนในเรื่องนี้ให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตนขอปลุกครูและผู้บริหารโรงเรียนทุกคน จะต้องตระหนักและใส่ใจปัญหาของนักเรียนทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการคุกคามทางเพศ หรือการแสดงออกทางความเห็นต่างให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของ ศคพ. พบว่า เรื่องร้องเรียนในช่วง มกราคม-กุมภาพันธ์ 2564มีการร้องเรียนจำนวน 5 เรื่อง เป็นเรื่องเชิงชู้สาว 3 เรื่อง โดยได้ให้ผู้ที่ถูกร้องเรียน ออกจากราชการไว้ก่อน 2 เรื่อง ส่วนอีก 1 เรื่องนั้น ผู้ถูกร้องเรียนขอลาออกเอง และยังมีเรื่องพฤติกรรมหลอกลวง ฉ้อโกง 1 เรื่อง มีคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว และมีเรื่องเกี่ยวกับทรงผมนักเรียน 1 เรื่อง ซึ่งได้มีการตักเตือนแล้ว