‘น้องทอน’ติดสินบนช่วยราชการ


เพิ่มเพื่อน    

"สกุลธร” เข้าพบตำรวจกองปราบฯ ตามหมายเรียกคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน 20 ล้านเพื่อเช่าที่ดินที่สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ชี้ความผิดสำเร็จแล้ว หาก กก.บริษัทมีส่วนรู้เห็น "สมพร-ธนาธร" อาจถูกดำเนินคดีด้วย ผบก.ป.ยันมีหลักฐานเพียงพอเอาผิดสุกลธรได้ หากบุคคลอื่นเกี่ยวข้องต้องถูกออกหมายเรียกเช่นกัน

    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) วันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด น้องชายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบตำรวจตามหมายเรียก หลังชุดสืบสวนกองปราบฯ สอบสวนขยายผลพบว่านายสกุลธรมีความผิดในการทุจริตการร่วมกับผู้ต้องหาที่ถูกพิพากษาไปก่อนหน้าในคดีติดสินบนเจ้าพนักงานเพื่อเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญาคดีทุจริตได้มีคำพิพากษาจำคุกนายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และนายสุรกิจ ตั้งวิทูวณิช พนักงานบริษัทเอกชน สองผู้ต้องหารับเงินสินบนเพื่อจัดหาที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้กับนายสกุลธร ปัจจุบันได้ออกจากเรือนจำมาแล้วเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
     โดยทั้งคู่ได้ให้การเป็นประโยชน์ ประกอบกับพนักงานสอบสวนมีคำพิพากษาซึ่งระบุชัดเจนว่า นายสกุลธรจ่ายเงินสินบนจำนวน 20 ล้านบาทเพื่อต้องการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ย่านชิดลม ต่อมาจากการตรวจสอบพยานหลักฐานจนแน่ชัดแล้วพบว่านายสกุลธรมีพฤติกรรมการกระทำผิดจริง จากการสั่งจ่ายเช็คเงินสดให้กับเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ราย พนักงานสอบสวนกองปราบฯ จึงได้เรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดี
    จากแนวทางการสอบสวนประกอบกับคำพิพากษาของศาลพบว่า การกระทำของนายสกุลธรสำเร็จไปแล้ว เพราะมีการจ่ายเงินสินบนไปแล้วจำนวน 20 ล้านบาท จึงมีความผิดตามกฎหมาย ทางกองปราบฯ กำลังพิจารณาข้อกฎหมายด้วยว่าการกระทำของนายสกุลธรนั้น กรรมการบริหารบริษัทคนอื่นๆ รู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะการกระทำของนายสกุลธรทำในนามบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด หากพบว่าเป็นความผิด กรรมการบริหารก็อาจจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ซึ่งรวมถึงนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายสกุลธรด้วย
    ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม  ผบก.ป. ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อทำการสอบปากคำนายสกุลธรด้วยตัวเอง กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียกนายสกุลธรให้มารับทราบข้อกล่าวหากรณีติดสินบนเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชน และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สิทธิบริษัทนายสกุลธร เช่าที่ดินย่านชิดลมโดยไม่ต้องผ่านการประมูลว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเดียวคือ “ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน” ตามกฎหมายอาญา ม.144 หลังจากนี้อยู่ที่นายสกุลธรจะให้การหรือต่อสู้คดีอย่างไร ซึ่งตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
    "แต่ยืนยันมีหลักฐานพอสมควรจึงออกหมายเรียกได้ ส่วนการออกหมายเรียกกรรมการบริหารของบริษัทรายอื่นๆ ที่มีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มาสอบปากคำในฐานะพยานด้วยหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ว่านายสกุลธรจะให้การอย่างไร และมีหลักฐานไปถึงใครบ้าง โดยขณะนี้ยังเป็นการออกหมายเรียกนายสกุลธรเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องหรือถูกพาดพิงถึง ก็จะต้องดำเนินการออกหมายเรียกด้วยเช่นกัน" พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าว
    ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามนานกว่า 4  ชั่วโมง นายสกุลธรเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้ส่วนตัวไม่จำเป็นต้องชี้แจงอะไร เพราะสิ่งที่ทำเชื่อว่าทำถูกต้อง คือการช่วยเหลือราชการ ซึ่งวันนี้มาตามหมายเรียกโดยตนได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อีกทั้งไม่รู้จักและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นการส่วนตัว ส่วนรายละเอียดการให้การ นายสกุลธรไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน
    ด้าน พ.ต.อ.สัณห์เพ็ชร หนูทอง ผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม กล่าวว่า เบื้องต้นนายสกุลธรปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยจะขอทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจงแล้วส่งกลับมาให้พนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"