‘พรรคเล็ก’เขย่าศึกซักฟอก


เพิ่มเพื่อน    

 

พรรคเล็กเขย่าศึกซักฟอก "ชัช เตาปูน-หมอระวี" ขอฟังฝ่ายค้านก่อน ถ้ามีหลักฐานชัดเจนจะโหวตให้ไม่ได้ ลั่นพรรคเล็กไม่ได้เป็นองครักษ์ปกป้องรัฐมนตรี แต่เป็นองครักษ์ปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติ จะพิสูจน์ให้เห็น ส.ส.ไม่ได้ทำงานเพื่อรัฐมนตรีที่ทุจริต "แรมโบ้" เตือนถ้าอภิปรายพาดพิงสถาบันเจอฟ้อง ม.112 แน่ ขณะที่งานติวเข้มรับอภิปราย "บิ๊กป้อม" ชิลๆ ไร้ปัญหา

    เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค วิปรัฐบาลเชิญรัฐมนตรีที่มีรายชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แกนนำและ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลร่วมสัมมนา “สามัคคีรวมใจ พรรคร่วมรัฐบาล” หัวข้อญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ระหว่างวันที่ 13-14 ก.พ. เพื่อเตรียมข้อมูลและประเด็นที่คาดว่าจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้าน
     โดยกำหนดการวันแรกมีรัฐมนตรีเข้าร่วม ได้แก่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์,  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมทั้งวิปรัฐบาล แกนนำและ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคขนาดเล็ก ประมาณ 100 คน
    สำหรับบรรยากาศในการสัมมนาค่อนข้างราบเรียบ มีรัฐมนตรี ส.ส.ของพรรค พปชร.ที่มาร่วมเป็นส่วนใหญ่ อาทิ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรค, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล, นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยส่งตัวแทนมารับฟัง อาทิ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และวิปรัฐบาล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์, น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์, นายพลพีร์ สุวรรณฉวี เลขานุการนายอนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมทีมงาน ด้านพรรคเล็ก มีนายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท นำทีม ส.ส.ร่วมงาน
    โดยนายชัชวาลล์ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรคในการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เราต้องรอฟังว่าจะมีการชี้แจงอย่างไร ถ้าเชื่อได้ก็ลงให้ แต่ถ้าชัดเจนอย่างที่เขากล่าวหาก็ลงให้ไม่ได้
    เมื่อถามว่าพรรคเล็กจำเป็นต้องมีมติไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายชัชวาลล์ตอบว่า การลงมติเป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่จะพิจารณากันเอง ถือเป็นเอกสิทธิ์พรรคใครพรรคมันที่จะไปพิจารณากัน
    "เราก็ต้องฟังเขาชี้แจงว่าใช้ได้หรือเปล่า ถ้าใช้ได้ก็ลงให้เขา ถ้าฝ่ายค้านมีหลักฐานชัดเจนเราจะลงให้เขาได้อย่างไร ก็จะเป็นการพิจารณาในรัฐมนตรีแต่ละคน" นายชัชวาลล์กล่าว
    ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาทางพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายคนออกมาระบุว่ามีหลักฐานเด็ดที่จะนำมาอภิปราย จนทำให้รัฐมนตรีหลายท่านจะไม่ได้รับการไว้วางใจในการอภิปรายครั้งนี้ ซึ่งพรรคเล็กยังไม่ทราบว่าจะเป็นข้อมูลที่เด็ดจริงหรือไม่ เราก็จะขอฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านก่อน และถ้าสุดท้ายฝ่ายค้านมีข้อมูลที่เด็ดจริง และหากรัฐมนตรีท่านใดไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างกระจ่างชัดเจนและโปร่งใส เราก็ไม่สามารถลงมติสนับสนุนรัฐมนตรีท่านนั้นให้อยู่ในตำแหน่งและทำหน้าที่ต่อไปได้ กลุ่มพรรคเล็กไม่ได้เป็นองครักษ์ปกป้องรัฐมนตรี แต่เราเป็นองครักษ์ปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติ
พรรคเล็กจะพิสูจน์ให้เห็น
    “การอภิปรายในครั้งนี้ฝ่ายค้านและประชาชนจำนวนมากเห็นว่าคะแนนเสียงในการลงมติของสภาคงไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีได้ ไม่ว่าจะฝ่ายค้านจะมีหลักฐานเด็ดอย่างไร แต่ผมและกลุ่มพรรคเล็กจะพิสูจน์ให้เห็น เพราะ ส.ส.ทุกคนมีหน้าที่เข้ามาทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อรัฐมนตรีที่ทุจริต ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ใครมาบังคับให้ไว้วางใจใครหากรัฐมนตรีคนนั้นไม่มีความน่าไว้วางใจ" นพ.ระวีกล่าว
    นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า จากนี้ไปรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปรายจะได้รายละเอียดหลายสิ่งหลายอย่างจากการที่มาฟังคำแนะนำ ข้อซักถามต่างๆ จาก ส.ส. ถือว่าเป็นสนามซ้อมใหญ่ก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
    เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหากรัฐมนตรีชี้แจงไม่ชัดเจนพรรคเล็กที่อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ยกมือโหวตให้ ประธานวิปรัฐบาลตอบว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับหลายท่านในพรรคเล็ก ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบ่งบอกว่าจะไม่โหวตให้
    ถามอีกว่าในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ควรจะมีมติไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า เราก็ควรจะมีมติ ซึ่งตนจะประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 15 ก.พ. เวลา 11.00 น. และจากนั้นจะนัดประชุมวิปรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 19 ก.พ. ก่อนที่จะไปประชุมพรรค พปชร.ในวันเดียวกัน ทั้งนี้เชื่อว่าทุกพรรคก็คงจะมีแนวโน้มเหมือนกัน หรืออาจจะมีการประชุมพรรคในช่วงเช้าก่อนการลงคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 20 ก.พ.
    เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. มีความน่าเป็นห่วงระดับไหน นายวิรัชตอบว่า สำหรับหัวหน้าตนคิดว่าเบาที่สุด อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีที่ไม่ได้ถูกอภิปรายก็จะต้องขึ้นไปฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อเป็นกำลังใจกันด้วย เราจะไม่ปล่อยให้รัฐมนตรีที่อยู่ข้างบนอยู่แบบเดียวดาย
    ถามอีกว่า หากที่ประชุมจะให้มีการประชุมลับ หากมีการหยิบยกเรื่องสถาบันขึ้นมาพูด ประธานวิปรัฐบาลยืนยันว่า จะไม่มีการประชุมลับ ใครพูดอะไรที่เป็นการส่อให้เห็นถึงการผิดกฎหมายก็ให้ผู้นั้นรับผิดชอบเอง ในนามวิปรัฐบาลคงไม่ขอประชุมลับแน่นอน ปล่อยเลย
    นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจในพรรคมีความเป็นเอกภาพในทิศทางเดียวกัน และในส่วนของพรรคร่วมก็คิดว่าจะเป็นไปในมิติที่ทุกคนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะการที่อยู่ร่วมกันมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่เห็นสิ่งบกพร่องหรือผิดพลาดตรงไหนที่พวกเราจำเป็นต้องลงมติที่แตกต่างกัน สำหรับพรรคเล็ก ก็คิดว่าเขาคงพูดคุยภายในกันเอง และเชื่อมั่นว่ามีวิจารณญาณตามระบอบประชาธิปไตยของเขาในการลงมติโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เอง
จ่อฟ้อง ม.112
    เมื่อถามว่าเป็นห่วงบรรยากาศการอภิปรายที่ ส.ส.พลังประชารัฐและพรรคร่วมบางส่วนเตรียมประท้วงทันทีหากมีการพูดถึงสถาบัน นายอนุชากล่าวว่า คิดว่าเรื่องนี้ทุกคนต่างรู้หน้าที่ ส.ส.ต้องรู้ว่าอะไรคือกฎเกณฑ์ที่ทำได้หรือทำไม่ได้ในการอภิปรายตรงนี้ทุกคนต้องระมัดระวัง และนึกถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องการประท้วงหรือทำให้การอภิปรายสะดุดไม่เป็นไปอย่างราบรื่น และประชาชนที่เป็นคนฟังก็จะเป็นคนตัดสินว่าอะไรเป็นสิ่งที่ควรหรือไม่ควรพูดอย่างไร
    ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความพร้อมในการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจากข่าวจะตกเป็นเป้าถูกล็อบบี้คะแนนโหวตน้อยสุด ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ข้อมูลที่เราจะหักล้างข้อกล่าวหามากกว่า และเพื่อนสมาชิกที่เป็นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในสภาเองก็นั่งฟังดูข้อมูลที่เราอภิปรายตอบโต้หักล้างไปว่าสิ่งที่เราพูดนั้นน้ำหนักของใครมีมากกว่ากัน ตนเชื่อว่าในสิ่งที่มีข่าวต่างๆ ออกไปไม่ใช่เรื่องจริง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องของรัฐบาลและมติแต่ละพรรค ไม่น่ามีประเด็นอะไร
    นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี  และประธานคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (สสอ.) กล่าวว่า ทีมวอร์รูมนอกสภาที่มีคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีจากทุกกระทรวงทุกพรรคการเมืองประชุมร่วมกันไปแล้ว 2 ครั้ง โดยในวันอภิปรายจะใช้ห้องวอร์รูมที่อาคารรัฐสภา ชั้น 4 ห้องของนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อประสานงานการทำงานของคณะทำงาน
    ทั้งนี้ ในการสัมมนาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันเดียวกันนี้ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมาร่วม 10 คน เพื่อมาประสานงานกับนายวิรัชและนายทศพล เพ็งส้ม ฝ่ายกฎหมายพรรค พปชร. เพื่อมาพูดคุยกันในประเด็นข้อกฎหมาย ว่าในกรณีที่พรรคการเมืองและ ส.ส.อภิปรายพาดพิง จาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบันในทางเสียหาย เราจะดำเนินการคดีตามมาตรา 112 ทันทีโดยไม่รอเวลา ยืนยันว่าเราจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือว่าญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เราได้บอกผู้นำฝ่ายค้านและพรรคฝ่ายค้านว่าเป็นญัตติที่กระทบหัวใจคนไทยมากที่สุด
    ขณะที่นายสิระเตือนไปยัง ส.ส.ฝ่ายค้าน หากผู้ใดอภิปรายพาดพิงถึงสถาบันตั้งแต่คำแรก จะประท้วงจนไม่ได้อภิปราย แต่หากมีข้อสงสัยหรือมีคำถามในการตรวจสอบรัฐบาล สามารถทำได้ตามกระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี แต่จะไม่ยอมเปิดโอกาสให้จาบจ้วงสถาบัน พร้อมย้ำว่า หากมีการกล่าวพาดพิงถึงสถาบัน จะไม่ยอมและจะไม่มีทางได้อภิปรายแน่นอน ทั้งนี้ ขอชื่นชม ส.ส.พรรคก้าวไกล 9 คนที่ไม่ลงชื่อในญัตติ ซึ่งถือว่ายังมีจิตสำนึกในการปกป้องสถาบัน
ตอกกลับเพื่อไทย
    วันเดียวกันนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีร่วมคณะจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่กลัวการอภิปรายของฝ่ายค้าน แต่ในทางกลับกันมีการพยายามที่จะส่ง ส.ส.ของพรรครัฐบาลมาขอเจรจากับขุนพลของพรรคฝ่ายค้าน มาขอข้อมูลว่าจะอภิปรายเรื่องใด หรือการขอร้องว่าให้อภิปรายแบบไม่รุนแรงมากนัก
    “ภายหลังการอภิปรายฝ่ายค้านเดินหน้าต่อในการยื่นหลักฐานการทุจริตของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อส่งต่อให้ศาลการเมืองเพื่อเดินหน้าเอาผิด เชื่อว่าจบการอภิปรายอาจมีรัฐมนตรีตกเก้าอี้ หนักสุดคือติดคุก รวมทั้งตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย ขอให้ประชาชนติดตามการอภิปรายครั้งนี้ให้ดี แล้วประชาชนจะทราบว่าคำว่าเสียสละเข้ามาทำงานเพื่อประเทศไม่มีจริง” นพ.ชลน่าน กล่าว
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบโต้ว่า กรณีที่บอกว่าหลังอภิปรายจะมีรัฐมนตรีต้องติดคุกและตกเก้าอี้นั้น ที่ผ่านมาตนเห็นแต่รัฐมนตรีในสมัยพรรคเพื่อไทยที่ต้องติดคุกเพราะคดีโกงจำนำข้าว อย่างไรก็ตาม การอภิปรายครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมที่จะชี้แจงทุกเรื่อง มั่นใจว่ารัฐบาลบริหารงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกอย่างยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่มีการแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อประโยชน์ของตัวเองตามที่ นพ.ชลน่านกล่าวหา
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในงานสัมมนารัฐมนตรีเตรียมสู้ศึกซักฟอก ซึ่งวิปรัฐบาลได้เชิญ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมทีมงานสาธารณสุข มาซักซ้อมข้อมูลเพื่อเตรียมที่จะให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 การจัดซื้อวัคซีนที่จะเป็นเป้าถูกอภิปราย รวมถึงคำพูดของปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุก่อนหน้านี้ว่าจะมีวัคซีนโควิดฉีดเข็มแรกในประเทศไทยวันที่ 14 ก.พ.  
    ทั้งนี้ ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมได้สอบถามกันอย่างหนักหน่วง พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า หากฝ่ายค้านอภิปรายว่าเรื่องนี้รัฐมนตรีอาจจะลืม แต่ประชาชนเขาไม่ลืม จำเป็นต้องอธิบายให้ได้ ซึ่งคาดว่าประเด็นเหล่านี้จะเป็นเนื้อหาที่พรรคก้าวไกลพุ่งเป้าอภิปราย เพราะเป็นภาพรวมที่จะพูดถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคน นอกจากนั้นวิปรัฐบาลแสดงความกังวลเนื้อหาในการอภิปรายของพรรคก้าวไกลมากกว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพราะว่ารู้ข้อสอบ แต่วิปรัฐบาลพอจะเดาทางได้ว่าพรรคเพื่อไทยจะพูดอะไรบ้าง
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ แม้ว่าจะไม่ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ได้ส่งทีมงานมาร่วมรับฟัง พร้อมรายงานข้อมูลต่างๆ ไปที่นายกรัฐมนตรีโดยตรง ทั้งนี้ วิปรัฐบาลไม่เป็นห่วงเนื้อหาที่จะพาดพิงนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่า ส.ส.ทุกคนพร้อมที่จะลุกขึ้นประท้วงให้นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมงานสัมมนาว่า ที่มาร่วมงานในวันนี้เพราะเขาให้มาก็มา ไม่มีอะไร เรียบร้อย  พรรคเล็กไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี รัฐบาลต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานสัมมนาเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเย็นว่า เป็นไปอย่างคึกคัก ภายหลังบรรดารัฐมนตรีและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดินทางมาสมทบ อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ มีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมชาติ มาร่วมสัมมนา
       โดยก่อน พล.อ.ประวิตรจะพูดกับที่ประชุม ได้มีการฉายวีดิทัศน์การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ 3 ป. และการทำงานตั้งแต่สมัยรับราชการจนถึงการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วย.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"