ท่องเที่ยวกีฬาสัมผัสเสน่ห์4จังหวัดฝั่งอ่าวไทยไปกับคาราวานแรลลี่


เพิ่มเพื่อน    


โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่กลุ่มจัรงหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ด้วยกิจกรรมคาราวานแรลลี่ 4 จังหวัด ซึ่งเริ่มช่วงแรกตั้งแต่ ชุมพร ไปจนถึง สุราษฎร์ธานี และช่วงสอง นครศรีธรรมราช ถึง พัทลุง ออกสตาร์ทกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน พฤษภาคม มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกันมากมายไม่ว่าจะจากจังหวะใกล้เคียง  หรือ ภาคอื่นๆ ที่ขับรถทางไกลตรงมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
    นายวีระ ทองพิจิตร ปลัดจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายฑิฆัมพร สุทธิอุดมรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสมชาย เสมมณี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชุมพร ร่วมในพิธีปล่อยคาราวานแรลลี่ ซึ่งจุดสตาร์ทอยู่ที่ ลานหน้าโรงแรมมรกต ตำบลท่าตะเภา อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร  มีรถเข้าร่วมขบวนกว่า 60 คัน โดยทริปการท่องเที่ยวคาราวานแรลลี่ครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก เป็นเส้นทางจากจังหวัดชุมพร ถึง สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 3-6 พฤษภาคม 2561 และอีกช่วงสุดท้าย คือ เส้นทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึง พัทลุง ระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2561 


    จังหวัดชุมพร ชื่อนี้ ปรากฎมาตั้งแต่ปี พุทธศักราช 1098 ในตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช ฉบับของหอสมุดแห่งชาติ เมืองชุมพรนั้นมีฐานะเป็นเมืองสิบสองนักษัตรของนครศรีธรรมราช ใช้รูปแพะเป็นตราเมือง เป็นเมืองหน้าด่านฝ่ายเหนือ เพราะอยู่ทางตอนบนของภาคใต้ ชุมพร คือประตูสู่ภาคใต้ และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเมืองหนึ่ง ปัจจุบันแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ชุมพรเป็นจังหวัดเล็กๆ หลายคนอาจคิดว่าเป็นแค่ทางผ่านเวลาลงภาคใต้ แต่ที่จริงแล้วสถานที่น่าสนใจให้แวะชมอยู่ตลอดเส้นทาง โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรมชุมชน ธรรมชาติ และการผจญภัย ดังคำขวัญประจำจังหวัดที่ว่า 
    "ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไรกาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก" 
    ซึ่งบอกถึงทรัพยากรที่สำคัญของจังหวัดชุมพรที่ส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของชาวชุมพร โดยปัจจัยที่สำคัญด้านการเกษตรที่มีชื่อเสียง เช่น กาแฟ ผลไม้หลากหลาย ทั้งทุเรียน มังคุด กล้วย และการท่องเที่ยว ที่มีแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หาดทราย ชายทะเล เช่น หาดทรายรี แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และจิตวิญญาณ ที่สำคัญ ได้แก่พระธาตุสวี ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร ให้เป็นที่รู้จักสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ให้มาเที่ยวจังหวัดชุมพรมากยิ่งขึ้น สร้างรายได้ให้กับชาวจังหวัดชุพรมากขึ้นเช่นเดียวกัน
    และกิจกรรมนี้ เกิดขึ้นได้ ก็ต้องขอบคุณกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ที่สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ และหน่วยงานที่่รับผิดชอบ ได้เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน


    จุดหมายแรกของ คาราวาน คือ โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ที่ ในหลวง รัชกาล ที่ 9 พระราชทานเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตเมืองชุมพร ซึ่งเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของชาวชุมพรในช่วงฤดูมรสุม จากอุทกภัยพายุไต้ฝุ่นซีด้า และ พายุลินดา เมื่อปี 2540 โดยทรงมีพระราชดำริให้ขุดคลองหัววัง-พนังตัก เพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำท่าตะเภาออกสู่ทะเล ซึ่งแล้วเสร็จก่อนพายุลินดาเข้าเพียงวันเดียวช่วยประชาชนรอดพ้นจากอุทกภัยได้ทันท่วงที จากนั้นจึงทรงมีพระราชดำริเพิ่มเติมด้วยการให้ขุดลอกแก้มลิงหนองใหญ่เพื่อกักเก็บน้ำ การขุดคลองเพิ่มเติม และติดตั้งประตูระบายน้ำ รวมถึงระบบเตือนภัย 
    ในเมื่อส่วนหนึ่งของคำขวัญของจังหวัดชุมพร คือ "ขึ้นชื่อรังนก" ดังนั้น คาราวาน นี้ก็ต้องมีแวะไป ศูนย์เรียนรู้ครบวงจรเรื่องนกนางแอ่น ของ คุณ ฉลอง-คุณจันทร์ธิภา คงลิขิต เจ้าของธุรกิจ ตี๋บ้านนก นั่นเอง

 


    มาชุมพรทั้งที่ ก็ต้องไม่พลาดที่จะแวะไปที่เนินเขาริมหาดทรายรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสรณสถาน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มาสักการะขอพร "เสด็จเตี่ย" และฟังเสียงประทัดแก้บนที่ดังสนั่นอยู่เป็นระยะ รับประกันความสนั่นรับรองยิ่งกว่าที่ไหนๆที่เจอะเจอมาแน่ แล้วค่อยไปเดินทอดน่อง ริมหาด และชมเรือรบหลวงชุมพร เรือตอร์ปิโด ขนาดใหญ่ที่ปลดประจำการแล้ว ซึ่งนำบขึ้นมาตั้งโชว์อยู่ใกล้ๆอนุสรณ์สถาน


    บ่ายแก่ๆ คาราวานแรลลี่ ของเรา มีโปรแกรมไปศึกษาวิธีการผลิตกาแฟถ้ำสิงห์ และชิมกาแฟโรบัสต้าเข้มๆ เพิ่มความตื่นตัว ก่อนขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่เขามัทรี ซึ่งมีจุดชมวิว 360 องศา มองเห็นปากน้ำ ทะเล วิถีชุมชนริมน้ำจากมุมสูง เรือประมงแล่นเข้าออก ถ่ายรูปรัวๆกันที่นี่ ฟินที่สุดแล้ว
    เช้ารุ่งขึ้น กลับมสตาร์ทกันใหม่ และแวะไหว้สักการะ วัดพระบรมธาตุสวี ที่เป็นดังศูนย์รวมจิตใจของประชาชนที่นี่และพื่นที่ใกล้เคียง แล้วออกเดินทางสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานีทันที ซึ่งวันนี้จุดแวะต่างๆจะเอาใจผู้ที่ชอบเข้าวัดเข้าวาเป็นพิเศษ 
    จาก วัดพระบรมธาตุสวี ก็ต่อกันด้วย วัดพระบรมธาติไชยาราชวรวิหาร ปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ชองช่างศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็แวะไปเยี่ยมชม สวนโมกขพลาราม สถานที่ปฏิบัติธรรมทที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝันว่าจะได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนสักครั้ง 


    สวนโมกขพลาราม ชื่อเรียกทางการคือ วัดธารน้ำไหล จัดตั้งโดย ท่านพุทธทาสภิกขุ เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พุทธศาสนา ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
    ก่อนเข้าที่พักที่ โรงแรมนิภาการ์เด้น ก็ไปหาจุดชมวิวชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอีกสักที ที่พระธาตุศรีสุราษฎร์ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาท่าเพชร หาที่สงบๆสโลว์ไลฟ์คลายเหนื่อย


    เช้ารุ่งขึ้นทางคณะคาราวานแรลลี่ ลุยต่อออกสักการะ ศาลหลักเมือง สุราษฎร์ธานี สถาปัตยกรรมศรีวิชัย สายๆ ชมธรรมชาติและอุดหนุมชุมชน ที่ ตลาดน้ำประชารรัฐบางใบไม้ ล่องเรือชมอุโมงค์ธรรมชาติที่จากทางจาก ต่อด้วยแวะชมธรรมชาติทิวทัศน์ปากน้ำตาปี บน สะพานศรีสุาษฎร์ สะพานที่สูงที่สุดของจังหวัด ตาดีจะเห็นโอเอซิสของเหล่านกกระยางและนกปากห่าง คาดว่ารวมกันอยู่อาจถึงพันตัวเลยก็เป็นได้ นี่ถ้ามีเวลา จะแวะค้างคืนในเขื่อนรัชชประภา หรือ กุ้ยหลินเมืองไทย สักหน่อย เห็นไหม อเมซิ่งไทยแลนด์ ยังมีที่เที่ยวอีกมาก ที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง หรือต้องไปซ้ำให้ได้อีกสักหน  
    พฤหัสฯ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นี้ จะเป็นช่วงที่เหลือของ กิจกรรมคาราวานแรลลี่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ซึ่ง กองคาราวานแรลลี่ จะปิดจ็อบ ด้วยอีก 2 จังหวัดที่เหลือ คือนครศรีธรรมราช กับ พัทลุง ลองติดต่อทางท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัด อาจร่วมกิจกรรมได้ทัน ข่าวดีคืองานนี้ฟรีสำหรับทุกท่าน ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"