รวบแก๊งเจ๊เพชร ค้าแรงงานเถื่อน เจ้าหน้าที่มีเอี่ยว


เพิ่มเพื่อน    

 ตร.ทลายเครือข่าย "เจ๊เพชร" เอเยนต์รายใหญ่ขนแรงงานเมียนมาเข้าเมืองผิดกฎหมายส่งตลาดกลางกุ้งมหาชัย ต้องจ่ายค่าดำเนินการ 6,000-12,000 บาทต่อคน ระบุบางเครือข่ายมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ฝากขังเรือนจำกลางบางขวางรวม 4 ราย  

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 15 กุมภาพันธ์  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ร่วมแถลงผลการปฏิบัติงานในการกวาดล้างขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายพร้อมกันทั่วประเทศ
    โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีการแพร่ระบาดมาจากแรงงานต่างด้าวในจังหวัดสมุทรสาคร ผลการสอบสวนโรคพบว่ามีสาเหตุมาจากคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งให้กวาดล้างขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวอย่างเด็ดขาด ตำรวจจึงได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
    ผบ.ตร.ระบุว่า มีการดำเนินการไปทั้ง 2 มิติควบคู่กันไป  มิติแรกคือการสกัดกั้นการลักลอบ ตามแนวชายแดนและเส้นทางเชื่อมต่อแนวชายแดนที่สำคัญ โดยบูรณาการร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และกำลังตำรวจทุกหน่วย  โดยมีการตั้งจุดตรวจพื้นที่ชายแดนทั้งหมด 284 จุด จุดตรวจพื้นที่ตอนใน 579 จุด ชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อลาดตระเวนตรวจสอบผู้ที่ลักลอบหลบจุดตรวจ เช่นว่ายข้ามแม่น้ำ หรือเดินเท้าข้ามป่าอีก 1,714 ชุดปฏิบัติการ อีกมิติคือการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทั้งขบวนการ ซึ่งพบว่าบางเครือข่ายมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
    โดยผลปฏิบัติการนับตั้งแต่ 1 มกราคม - 11 กุมภาพันธ์  2564 สามารถจับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองได้ 396 ราย, นำหรือพาคนต่างด้าว? 29 ราย และที่มีหมายจับค้างเก่าอีก 19 ราย, ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นคนต่างด้าวผิดกฎหมาย 91  ราย ยึดรถของกลางที่ใช้ในการนำพา 22 คัน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายสำคัญจำนวน 21 จุด  ในพื้นที่ 9 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 14 คน ยึดรถของกลาง 9 คัน และตรวจสอบรถยนต์ที่พบในบ้านผู้ต้องหาอีก 19 คัน และมีการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายนำพาแรงงานต่างด้าวได้มากกว่า 10 เครือข่าย
    ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์  บก.สส.สตม.ได้จับกุมนางราตรี เวชสุวรรณ หรือเจ๊เพชร ในความผิดฐานนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ ซึ่ง เครือข่ายเจ๊เพชรเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของภาคกลาง มีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้า-ส่งออกแรงงานต่างด้าวจากประเทศเมียนมามาส่งที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเกี่ยวพันกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
    สำหรับพฤติการณ์ของเจ๊เพชร จะทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ฝั่งไทยประสานกับเอเยนต์เมียนมา เมื่อมีแรงงานที่ต้องการเข้าประเทศไทยจะต้องเสียค่าดำเนินการตั้งแต่ 6,000-12,000  บาท และเอเยนต์ในเมียนมาจะออกเอกสารผ่านแดนให้แรงงาน หรือ Border Pass และเข้ามาทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี หรือหากไม่มีเอกสารผ่านแดนก็จะลักลอบเข้ามาทางชายแดนธรรมชาติ จากนั้นเจ๊เพชรจะทำหน้าที่จัดหาที่ทำงานและที่พักให้แรงงาน พร้อมสั่งให้นายเย  มิน และกลุ่มนายออง โจ เป็นผู้ขับรถพาแรงงานไปยังที่พักดังกล่าวในจังหวัดกาญจนบุรีและสมุทรสาครตามพื้นที่รับผิดชอบ เบื้องต้นตำรวจสามารถจับกุมเจ๊เพชร รวมถึงนายเย มิน  และกลุ่มของนายออง โจได้แล้วรวม 4 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้อง
    โดยจากการสอบปากคำทราบว่า เครือข่ายของเจ๊เพชรลักลอบขนแรงงานต่างด้าวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี แม้ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาจะมีการปิดด่านพรมแดนข้ามประเทศ แต่เครือข่ายก็ยังมีการขนแรงงานเข้ามาอย่างผิดกฎหมายต่อเนื่อง ขณะนี้เจ๊เพชรถูกฝากขังอยู่ภายในเรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากพนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นผู้มีอิทธิพล อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในอนาคต จึงคัดค้านการประกันตัว
    นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับ ภ.8 เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายหลายจังหวัดในภาคใต้ "เครือข่ายกะพ้อ ยะหริ่ง"  ซึ่งทำหน้าที่นำเข้าและส่งออกแรงงาน 3 สัญชาติ ระหว่างไทยและมาเลเซีย ประสานกับเครือข่ายของเจ๊ดา ดอนเมือง  ซึ่งได้ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านั้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการ 10 คน ยึดรถของกลาง 7 คัน และสมุดบัญชีเงินฝากอีก 14 เล่ม
    สำหรับเครือข่ายเจ๊ดา และเครือข่ายจันดีภาคตะวันออก ที่ลักลอบขนคนลาวและเขมร สามารถจับกุมเครือข่ายได้บางส่วนแล้ว จะดำเนินการขยายผลต่อไป
    พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชนจะต้องถูกดำเนินการทั้งอาญาและวินัยทุกราย ทั้งนี้หากพบเบาะแสให้แจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599.
   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"