องค์การอนามัยโลกอนุมัติการใช้งานแบบฉุกเฉินวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าแล้วเมื่อวันจันทร์ เปิดทางสำหรับการแจกจ่ายวัคซีนแก่ประเทศที่มีฐานะยากจนทั่วโลกผ่านโครงการโคแวกซ์

    วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า-ออกซ์ฟอร์ดเป็นวัคซีนส่วนใหญ่ที่จะแจกจ่ายในโครงการวัคซีน โคแวกซ์ ที่มีเป้าหมายเพื่อจัดหาและจัดส่งวัคซีนอย่างเท่าเทียมกันทั่วโลก โดยไม่คำนึงว่าประเทศนั้นมีฐานะยากดีมีจน การอนุมัติขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ครั้งนี้ ทำให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเพียงวัคซีนชนิดที่ 2 ที่ได้รับอนุมัติการใช้งานฉุกเฉินทั่วโลก ต่อจากวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค

    คำแถลงของดับเบิลยูเอชโอเมื่อวันจันทร์กล่าวว่า วันเดียวกันนี้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า-ออกซ์ฟอร์ด 2 เวอร์ชันได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้แบบฉุกเฉินทั่วโลกผ่านโครงการโคแวกซ์นี้

    วัคซีน 2 เวอร์ชันที่ดับเบิลยูเอชโอไฟเขียวเป็นวัคซีนที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (เอสไอเอ) และโดยเอสเคไบโอ ในเกาหลีใต้ แม้วัคซีนทั้งสองเวอร์ชันนี้จะเหมือนกัน แต่กระบวนการผลิตของแต่ละแห่งจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติแยกกัน โดยคำนึงจากคุณภาพ, ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน

    โครงการโคแวกซ์กำหนดเป้าหมายเริ่มต้นของการแจกจ่ายวัคซีนรอบแรก 337.2 ล้านโดสภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งวัคซีนจากอินเดียและเกาหลีใต้เป็นปริมาณส่วนใหญ่ของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดย 240 ล้านโดสผลิตโดยเอสไอเอ อีก 96 ล้านโดสผลิตโดยเกาหลีใต้ ที่เหลืออีก 1.2 ล้านโดสเป็นวัคซีนของไฟเซอร์ วัคซีนทั้ง 2 ชนิดต้องฉีด 2 โดส

    มีราว 145 ประเทศและดินแดนในโครงการนี้ที่จะได้รับวัคซีนเพียงพอต่อการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชากร 3.3% ภายในกลางปีนี้

    สัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มที่ปรึกษากลยุทธ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันของดับเบิลยูเอชโอมีคำแนะนำการใช้งานแบบชั่วคราวสำหรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าว่า สามารถใช้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีได้ และใช้ในพื้นที่ที่พบการระบาดของไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ได้ด้วย.