ไฟป่าลามภาคเหนือ ฮอตสปอต666จุด


เพิ่มเพื่อน    


    ผงะ! ไฟเผาพื้นที่ป่า​หลายจังหวัดทำค่า ​PM2.5​ ขยับสูงเกินมาตรฐาน​หลายพื้นที่ พบจุดฮอตสปอต 17 จังหวัดภาคเหนือ 666 จุด บก.คฟป.ทภ.3 สน.เร่งย้ำมาตรการจัดกำลังพล-ฮ.เข้าช่วย​ควบคุมไฟป่า ปภ.แนะประชาชนร่วมกันป้องกันไฟป่าอย่างปลอดภัย
    ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือวันนี้พบ 3 จังหวัดต้องเฝ้าระวังหนัก เนื่องจากปริมาณฝุ่นควันเริ่มส่งผลต่อสุขภาพ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 บินทิ้งน้ำ 42 เที่ยวบินปริมาณน้ำ 84,000 ลิตร ใช้ชั่วโมงการบินแล้วกว่า 26 ชั่วโมง 
    พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยเมื่อวันพุธนี้ ว่า จากการรายงานของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) พบว่า ช่วงนี้ลักษณะอากาศทั่วไปบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางยังคงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาว ส่งผลต่อการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันมากขึ้น ซึ่งบางพื้นที่ยังมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงก่อนเข้าสู่ช่วงของการหยุดเผาในเดือนมีนาคมนี้ 
    โดยตั้งแต่เช้าวันนี้ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พบ PM2.5 เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 32-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 ระหว่าง 48-104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า​ AQI ระหว่าง 46-200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร​ ซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เว้นแต่ที่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน และ ต.แม่ปะ อ.เมือง จ.ตาก พบมีค่า PM2.5 ค่า PM10 และค่า AQI อยู่ในระดับเกินมาตรฐาน​ที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ เพราะมีการเผาป่าเพิ่มขึ้น ​ซึ่งมีจุดความร้อนสะสม 17 จังหวัดภาคเหนือ Hotspot (ดาวเทียมระบบ VIIRS) จำนวน 666 จุด โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 387 จุด พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 240 จุด และเขต ส.ป.ก. จำนวน 19 จุด มากสุดที่แม่ฮ่องสอน​ 186​ จุด​รองลงมาเป็นตาก​ 153 จุด​ เชียงใหม่​ 116​ จุด​ ลำพูน​ 74 จุด ลำปาง​ 48​ จุด​ โดยส่วนมากเกิดในเขตป่าอนุรักษ์​และป่าสงวน
    ขณะที่พันโท มนต์ศักดิ์ ประเสริฐสังข์ ครูการบิน โรงเรียนการบินทหารบก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้านักบินเฮลิคอปเตอร์งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบ 32 (ฮ.ปภ.32) เปิดเผยว่า ในห้วงวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบ 32 (ฮ.ปภ.32) ปฏิบัติการบินเพื่อควบคุมไฟป่าในพื้นที่ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน และ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จำนวน 42 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 84,000 ลิตร ชั่วโมงการบินของอากาศยาน จำนวน 26 ชั่วโมง 30 นาที และเตรียมพร้อมปฏิบัติ​การต่อเนื่องจากการพบการเผาอีกหลายพื้นที่ ขณะนี้ต้องเร่งเน้นย้ำการเฝ้าระวังมากขึ้นก่อนวิกฤติเพิ่ม ประกอบกับสภาพอากาศ​เอื้อต่อการเกิดปัญหา​และเป็นช่วงเตรียมแปลงปลูก​ด้วย
    ด้านนายชัยณรงค์ วาสนะสมสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะโฆษกกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ไฟป่ามีสถิติการเกิดสูงในช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องฤดูร้อน เนื่องจากสภาพอากาศแห้ง ต้นไม้ผลัดใบและหญ้าแห้งตายจำนวนมาก ประกอบมีลมพัดแรง เมื่อเกิดเพลิงไหม้ไฟจึงลุกลามอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า จึงขอแนะประชาชนร่วมกันป้องกันการเกิดไฟป่า โดยกำจัดวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง เก็บกวาดพื้นที่ไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อเพลิง เตรียมพื้นที่การเกษตร โดยใช้วิธีฝังกลบขยะและไถกลบเศษวัชพืชแทนการเผา งดเว้นการประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับไฟ โดยไม่เผาขยะหรือเศษวัชพืช ไม่เผาหญ้าเพื่อทำทางเดินในป่า ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพงหญ้า ไม่เก็บหาของป่าหรือล่าสัตว์โดยการจุดไฟรมควัน เพราะไฟอาจลุกลามเป็นไฟป่าและขยายวงกว้างได้
    ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการจุดไฟหรือก่อกองไฟในพื้นที่ป่า หากจำเป็นต้องก่อกองไฟควรดูแลอย่างใกล้ชิด และใช้น้ำราดดับไฟให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันเพลิงลุกลามเป็นไฟป่า นอกจากนี้ควรสร้างแนวกันไฟป้องกันเพลิงลุกลาม โดยจัดทำคันดินกั้นหรือขุดเป็นร่องดินล้อมรอบบริเวณบ้านและพื้นที่การเกษตร รวมถึงตรวจสอบแนวกันไฟไม่ให้มีต้นไม้พาดขวาง
    ทั้งนี้การเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับไฟ การงดเว้นการจุดไฟบริเวณแนวชายป่าและในพื้นที่ป่าไม้ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าได้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"