"ม็อบเฟสต์" ชุมนุมคู่ขนานการอภิปรายกร่อย มีผู้เข้าร่วมไม่ถึง 200 คน ตำรวจขนกำลังดูแลความสงบมากกว่าเกือบ 10 เท่า "เจี๊ยบ นครปฐม" นำ ส.ส.ก้าวไกลออกจากสภามานั่งฟังม็อบเหมือนเคย "รุ้ง" ควง "โตโต้" พร้อมพวกมอบตัวคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา ลั่น 20 ก.พ.ขึ้นเวที 3 นิ้วซักฟอก "บิ๊กตู่" หน้ารัฐสภา

    เมื่อวันที่ 19 ก.พ. กลุ่มม็อบเฟสต์ (Mob Fest) ได้นัดหมายชุมนุม MOB FEST #2 ตอน “7 ปีแห่งความล้มเหลว” คู่ขนานการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล บริเวณด้านหน้ารัฐสภา ในเวลา 17.00 น.
    ตั้งแต่เวลา 16.30 น. บริเวณถนนสามเสน ฝั่งขาเข้าตรงข้ามหน้าบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กลุ่มม็อบเฟสต์ได้นำรถเวทีเครื่องเสียงขนาดใหญ่เข้ามาติดตั้ง โดยกินพื้นที่ 2 เลน ขณะที่มวลชนก็เริ่มทยอยเข้าพื้นที่ ทำให้การจราจรเริ่มหนาแน่นจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรฝั่งขาเข้าถนนสามเสน ตั้งแต่แยกเกียกกายไปจนถึงแยกบางกระบือ โดยให้รถวิ่งสวนเพียง 2 เลนเท่า
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เป็นระเบียบ โดยให้รถเวทีของกลุ่มม็อบเฟสต์ติดตั้งเครื่องขยายเสียงจอดห่างจากอาคารรัฐสภา 150 เมตร มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวน 3 กองร้อยดูแลพื้นที่ พร้อมนำรถฉีดน้ำแรงดันสูง 1 คัน และรถน้ำอีก 1 คัน มาจอดเตรียมความพร้อม รวมทั้งจัดพื้นที่ให้สื่อมวลชนอยู่ด้านหลังรถเครื่องเสียง มีแผงเหล็กกั้นในบริเวณที่กำหนด
    พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวว่า บช.น.จัดกำลังตำรวจมาดูแล 3 ด้าน คือ 1.ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมและไม่กระทบต่อประชาชนโดยรวม 2.การป้องกันเหตุร้ายหรือมือที่สามในพื้นที่บริเวณดังกล่าว 3.จัดกำลังตำรวจดูแลประชาชนอื่นๆ ที่มีบ้านพักอาศัยหรือสัญจรไปมาในบริเวณ
    "ในการชุมนุมเจ้าหน้าที่ได้อนุโลมให้แสดงออกเป็นถอยคนละก้าว แต่ถ้าทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามระเบียบกฎหมายตาม โดยเตรียมกำลังไว้ 12 กองร้อย ทั้ง ณ ที่ตั้งและในพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อย แต่จะไม่ใช้ความรุนแรงหรือสลายการชุมนุม" พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
    รอง ผบช.น.กล่าวว่า ในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยรอบ จะมีการตั้งจุดตรวจจุดค้น จุดสกัดเหตุร้าย จุดตรวจค้นเบื้องต้นมีที่บริเวณแยกเกียกกาย ถนนทหาร ถนนพระราม 5 และถนนสามเสน มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจค้นผู้พกพาอาวุธและสิ่งของต้องห้ามเข้าในพื้นที่ชุมนุม หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือสิ่งของต้องห้ามก็จะทำการตรวจค้น และนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีทุกราย
    จากนั้น กลุ่มราษฎรภาคีแดงใหม่ 4 ภาค และแกนนำบางส่วน ได้ขึ้นปราศรัยบนรถสลับกับการร้องเพลงของนายอาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ศิลปินนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อสร้างความคึกคักให้กับมวลชน ซึ่งรถปราศรัยที่นำมาจอดเป็นเวทีชั่วคราวนั้น มีการนำรูปรัฐมนตรี 10 คนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมพวงหรีดแขวนประดับ
    ต่อมาเวลา 17.45 น. ส.ส.พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน, นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เดินออกจากรัฐสภามาดูการชุมนุมของผู้ชุมนุมม็อบเฟสต์ และได้เดินเข้ามานั่งในที่ชุมนุมร่วมฟังปราศรัยด้วย
    เวลา 19.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดกิจกรรมม็อบเฟสต์ตั้งแต่เริ่มกิจกรรมเวลา 17.00 น. ผ่านมา 2 ชั่วโมง ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ถึง 200 คน โดยแกนนำมีการสลับกันขึ้นปราศรัยการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งมีการตั้งจอโปรเจ็กเตอร์ขนาดใหญ่ถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรควบคู่กันไปด้วย
    ส่วนการจราจรยังสามารถสัญจรได้ 2 เลนสวน โดยผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการอภิปรายมีการจัดให้อยู่ในแผงเหล็กกั้น และก่อนเข้างานมีการวัดอุณหภูมิและให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์
    วันเดียวกัน ที่ สน.ยานนาวา น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง โฆษกกลุ่มราษฎร และนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ หัวหน้าการ์ดอาสากลุ่ม We Volunteer หรือวีโว่ พร้อมพวกรวม 11 คน  ได้เดินทางมารายงานตัว ตั้งแต่เวลา 10.10 น. ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ในคดีอาญาที่ 99/2564 ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ชุมนุม จากการชุมนุมบริเวณหน้าสถานทูตเมียนมา ถนนสาทรเหนือ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
ส่วนผู้ที่ถูกออกหมายเรียกอีกคนคือนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า มีมวลชนกว่า 20 คนเดินทางมาร่วมให้กำลังเพื่อน โดยมีสตรีรายหนึ่งนำขนมปังมาแจกจ่ายกับมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนกว่า 1 กองร้อย กระจายกำลังรอบบริเวณ
    ต่อมา เวลา 10.59 น. น.ส.ปนัสยาเดินทางมาถึง สน.ยานนาวา ก่อนรีบเข้าไปรายงานตัวตามหมายเรียก จากนั้นเวลา 12.23 น. น.ส.ปนัสยาและนายปิยรัฐให้การแล้วเสร็จ แต่ยังเหลืออีก 9 คนที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมวลชนกว่า 20 คนยังคงปักหลักรอให้กำลังใจ บางส่วนนำเสื้อสีเหลืองมาสวมใส่พร้อมระบุว่า “เสื้อคนดี”
    น.ส.ปนัสยากล่าวว่า มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ใช่ข้อกล่าวหาร้ายแรงอะไร มี พ.ร.ก.ควบคุมโรค พ.ร.บ.ชุมนุม ใช้เครื่องเสียง ขวางทางสาธารณะ แต่คนอื่นๆ อาจจะโดนมากกว่านั้น ซึ่งเอาจริงๆ ตนอยู่ไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ ไปยืนให้กำลังเฉยๆ ทั้งที่กลับก่อนจะมีการสลายชุมนุม ก็โดนได้
    ถามถึงความกังวลว่าอาจเกิดความรุนแรงในการชุมนุมวันที่ 19 และ 20 กุมภาพันธ์นี้หรือไม่ น.ส.ปนัสยากล่าวว่า ความจริงกังวลเหมือนกัน สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งความจริงวันนี้มีม็อบเฟสต์ที่จะจัดหน้ารัฐสภา และเราจะสังเกตการณ์จากม็อบนี้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งตนก็มีคิวปราศรัยวันนี้ด้วย เวลาประมาณ 22.30 น.
    “ถ้าวันนี้ไม่มีการสลายการชุมนุมเกิดขึ้น รุ้งก็คงจะได้ปราศรัยในหัวข้อไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” น.ส.ปนัสยากล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจเฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมมีความเคลื่อนไหว โดยได้โพสต์ภาพของ 10  รัฐมนตรี ที่กำลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้ พร้อมข้อความเชิญชวนราษฎรผู้รักในประชาธิปไตยร่วมงาน “อภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา” โดยนัดหมายที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย ในเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ก.พ.2564 เพื่อแสดงพลังและตอกย้ำข้อเรียกร้องข้อที่ 1 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพต้องออกไป
    ส่วนที่ สน.ชนะสงคราม นายปุรพล วงศ์เจียก อายุ 19 ปี อาสาสมัครทีมเเพทย์ DNA ที่มีภาพถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนทำร้ายร่างกายขณะเข้าจับกุมจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ พร้อมนายจิตรกร หรือกี้ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี การ์ดคณะราษฎร เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ อคฝ.ทำร้ายร่างกาย หลังกลุ่มคณะราษฎรประกาศยุติการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา.