'จาตุรนต์' เปิดจุดตายซักฟอกรัฐบาลบิ๊กตู่ บอกถ้าภาวะปกติอยู่ไม่ได้แล้ว!


เพิ่มเพื่อน    


20 ก.พ.64 - นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้

จุดตายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

วันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 4 ถ้าจะให้ผมประเมินการทำหน้าที่ของทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ผมคิดว่าในส่วนของฝ่ายค้านมีข้อมูลที่หนักแน่นและชัดเจนเป็นจำนวนมาก จนทำให้เห็นปัญหาในการทำงานของรัฐบาล ทั้งในแง่การบริหารที่ล้มเหลวและการทุจริตคอร์รัปชัน

แต่กลับเป็นเรื่องที่แปลกมากครับ เพราะปกติหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการให้คะแนนกันว่าประเด็นไหนชี้แจงได้เคลียร์หรือไม่ หรือประเด็นไหนยังไม่ได้ชี้แจง แต่รัฐบาลนี้ใช้วิธี “ไม่ชี้แจงเลย”

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจใช้วิธีอยู่ 3 แบบ 

1. พูดหลักการกว้างๆ ตอบคำถามโดยอ่านจากโพยที่เขียนมา โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่ไม่ชี้แจงประเด็นต่างๆ เลย แต่เน้นพูดแค่หลักการกว้างๆ อยู่ตลอด

2. พูดถึงนโยบายและสิ่งที่ตนตั้งใจจะทำหรือคิดจะทำ เหมือนกับการมาแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

3. ใช้วาทกรรม ใช้โวหาร ใช้ลีลาของการเป็นนักพูด แต่พูดเรื่องที่ไม่ตรงประเด็นกับที่ฝ่ายค้านอภิปรายไว้ 

เพราะฉะนั้น “รัฐบาลสอบตก” ในการชี้แจงครั้งนี้ และยังมี “จุดตาย” หลายเรื่องมาก ได้แก่

เหมืองทองอัครา  เป็นเรื่องชัดเจนว่าพลเอกประยุทธ์ทำผิดในฐานะหัวหน้าคสช. และพอจะไปแพ้ที่อนุญาโตตุลาการ รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมจึงไปเจรจายกประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนให้ไปสำรวจที่รวมแล้วจะเป็นล้านไร่ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายที่พลเอกประยุทธ์จะต้องรับผิดชอบมากกว่าสองหมื่นล้าน ซึ่งการชี้แจงนี้นายกฯกลับชี้แจงไม่ได้ และพูดแค่หลักการทั่วไปในการให้อนุญาตทำเหมืองแร่เท่านั้น

วัคซีน  ล่าช้าและผูกขาดอยู่เพียงบางบริษัท เรื่องนี้จะส่งผลต่อสุขภาพความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนทั้งประเทศรวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งนายกฯ ชี้แจงไม่ได้เลย พูดแบบข้างๆคูๆ ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ไม่เข้าร่วมโครงการอย่างโคแวกซ์เหมือนที่ร้อย ๆ ประเทศเข้าร่วม ยิ่งละเลยต่อไปเรื่องนี้จะกระทบไปถึงเรื่องเศรษฐกิจซึ่งฝ่ายค้านก็ให้ข้อมูลได้มากว่ารัฐบาลนี้ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจมากมายมหาศาลเพียงใด 

ถุงมือยาง  ผิดทั้งในแง่ไม่ทำตามนโยบายที่จะส่งเสริมการแปรรูปยางพารา และการไปทำสัญญากันปลอมๆเป็นแสนล้านเพื่อจะเอาเงินออกไป ที่สำคัญคือฝ่ายค้านพูดให้เห็นว่าผู้ที่ไปดำเนินการเป็นคนที่เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับรัฐมนตรี และตรงนี้รัฐมนตรีก็ชี้แจงไม่ได้ 

ที่ดินรถไฟบุรีรัมย์  ชัดเจนว่าศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินของการรถไฟ ใครจะมามีเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ แต่ในที่ดินนั้นกลับมีที่ของรัฐมนตรีอยู่ด้วย และเป็นเหมือนเคยที่การชี้แจงก็ไม่ตรงประเด็นเลย

การยกเลิกประมูลรถไฟสายสีส้ม ถ้าฟังดูแล้วเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแน่นอน เพราะไม่สามารถยกเลิกตามอำเภอใจกันได้แบบนี้ และคณะที่ยกเลิกก็เป็นคณะที่ประชุมกันอยู่โดยบุคคลที่ไม่ควรเข้ามาในที่ประชุม ทั้งมีการคัดค้านโต้แย้งโดยสำนักงบประมาณแต่ก็ไม่ฟัง แม้กรณีนี้จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีแน่ แต่ปัญหาก็คือมันเป็นความผิดในการบริหารงานของรัฐมนตรี และกลับชี้แจงไม่ได้เช่นเดียวกัน

ในการอภิปรายครั้งนี้ ถ้าถามว่าแล้วรัฐบาลจะผ่านไหม จะยกมือกันอย่างไร คงต้องดูฝ่ายค้านอภิปรายต่อไปถึงขั้นสรุป

หากเป็นในภาวะปกติที่พรรคการเมืองต่างๆคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน จะต้องถึงขั้นมีการถอนตัว และถึงขั้นรัฐบาลอยู่ไม่ได้

แต่ครั้งนี้พิเศษตรงที่ว่าพรรคแกนนำของรัฐบาลโดนหนัก นายกรัฐมนตรีโดนหนัก และพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคใหญ่ก็โดนหนักเช่นเดียวกัน ทั้งหมดชี้แจงไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเสียงแตก ไม่ยกมือให้กัน หรือรัฐมนตรีบางคนเสียงน้อยผิดปกติ “ก็คงไม่เกิดขึ้น” 

แต่ถึงอย่างไรสิ่งที่จะเป็นประโยชน์คือประชาชนได้ข้อมูลข้อเท็จจริง แล้วจะเป็นคนตัดสินว่ารัฐบาลนี้ควรที่จะบริหารประเทศต่อไปหรือไม่? รัฐมนตรีคนไหนควรที่จะได้รับการไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่อย่างไร?


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"