ผู้ประกันตนมาตรา 33 แห่สมัคร “ม.33 เรารักกัน” คึกคัก วันแรกทะลุไป 6.3 ล้านคนแล้ว “สุชาติ” ชี้ระวังเว็บปลอมมีจุดในเว็บไซต์ กองปราบฯ เตือนโกงเราชนะโทษหนัก
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 06.00 น. รัฐบาลได้เปิดให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ลงทะเบียน
ออนไลน์โครงการ “ม.33 เรารักกัน” ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com ที่เปิดให้ลงทะเบียนเป็นวันแรก จนถึงเวลา 23.00 น. พบว่ามีผู้ลงทะเบียนต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 12.00 น. มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 5.6 ล้านคน และในเวลา 16.00 น. ก็มีผู้ลงทะเบียนกว่า 6.3 ล้านคน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ประมาณ 9.27 ล้านคน ทั้งที่ยังมีเวลาลงทะเบียนถึงวันที่ 7 มี.ค.
    นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผู้มีสิทธิ์ต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ก่อนวันที่ 15 ก.พ. สำหรับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตน ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการข้อมูลทางโทรศัพท์ กรณีผู้ประกันตนรายใดที่มีปัญหาติดขัดในการลงทะเบียน หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ สามารถโทรศัพท์มาได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 1 สำนักงานประกันสังคม
    “เรามีระบบฐานข้อมูลความเป็นผู้ประกันตนของนายจ้างและลูกจ้างแต่ละคนในระบบอยู่แล้ว จึงเชื่อมั่นว่ากรณีข้อมูลตกหล่นจะไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด” นายสุชาติกล่าว และย้ำว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่มีคุณสมบัติครบคือ มีสัญชาติไทย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้รับสิทธิ์โครงการเราชนะ ไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธ.ค.2563 
    นายสุชาติยังกล่าวถึงปัญหาปลอมแปลงเว็บไซต์ลงทะเบียนนั้น ว่าทราบเรื่องแล้ว และได้ประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ดำเนินการปิด พร้อมให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการเอาผิดต่อไป ซึ่งจุดสังเกตที่ต้องเน้นย้ำคือ เว็บไซต์ "ม33เรารักกัน" ตรง "ม" จะไม่มีจุด
    "ผู้ประกันตนเรามีอยู่ประมาณ 9 ล้านคน ถ้าครบกำหนดลงทะเบียนแล้ว มีการลงทะเบียนได้เท่าไหร่ เราก็จะตรวจสอบทั้งหมด ว่าคนที่ลงทะเบียนเป็นใครบ้าง สถานะเป็นอย่างไร รวมถึงมีการรีเช็กคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนด้วย เพื่อให้แน่ใจ ดังนั้นรอบนี้เป็นเพียงรอบเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับการตรวจสอบสิทธิ์เท่านั้น” 
    ขณะเดียวกัน เพจกองปราบปราม ประชาสัมพันธ์เตือนเกี่ยวกับสิทธิตามโครงการเราชนะ ว่าไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ทั้งนี้ ผู้ที่รับซื้อสิทธิและผู้ที่ขายสิทธิ อาจมีความผิดฐานฉ้อโกง และหากเป็นการกระทำผิดผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ก็อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์อีกด้วย.