'ป้อม'ไล่สส.แหกมติ พปชร.ระอุ!ตั้งกก.สอบ15วัน 'อนุทิน'ยังติดใจรอดูลงดาบ


เพิ่มเพื่อน    


    “ประยุทธ์” โยนพลังประชารัฐไปเคลียร์เพื่อนร่วมรัฐบาลหลังโหวตแตกต่าง ชี้ผ่านตามเกณฑ์แล้วก็จบ  ส่วนเรื่องปรับ ครม.เป็นกระแสปั่น “ประวิตร” นั่งหัวโต๊ะประชุม ฉุนขาดทุบโต๊ะให้ขับออกพ้นพรรค สุดท้ายซื้อเวลาตั้งสอบ 15 วันให้ “ไพบูลย์” คุม รับไม่มีบทลงโทษแค่ตัดสิทธิประโยชน์เท่านั้น “เดียร์” ส่อแววโดนหนัก “อนุทิน”  รับภูมิใจไทยยังติดใจรอดู พปชร.ลงดาบ “พิธา” อ้อมแอ้มเสี่ย ว.ตั้งก๊ก แจงไม่ไล่ 4 ส.ส.แน่กลัวเตะหมูเข้าปากหมา  เพื่อไทยโรยเกลือทันที ผุด กก.กฎหมายหวังส่งไม้ต่อให้  ป.ป.ช.เชือดรัฐมนตรี
      เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.พ.ยังคงมีความต่อเนื่องจากการลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า อะไรที่เป็นข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ ที่ต้องแก้ไขที่ต้องติดตามสอบสวนอะไรก็ว่าไป อันนี้เป็นเรื่องการทำงานในระบบการบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว ส่วนควันหลงการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยเฉพาะคะแนนโหวตนั้น ไม่ให้ความสำคัญตรงนี้สักเท่าไหร่ เรื่องระหว่างพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอดยาวนานแล้ว ไม่ใช่มาเกิดเฉพาะวันนี้ ก็ต้องปฏิรูปตัวเองกันด้วย ทั้งในสภานอกสภา อะไรก็แล้วแต่ ไม่ตำหนิใคร 
    "ผมไม่ได้สนใจว่าใครจะได้เท่าไหร่ อยู่ที่ผ่านหรือเปล่า  ฉะนั้นอย่าเอาเรื่องนี้ ประเด็นนี้มาเป็นความขัดแย้งต่อไปเลย พรรคเป็นเรื่องของพรรค การจะลงคะแนนเสียงก็เป็นมติของพรรค หรือแล้วแต่จะให้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวหรือไม่ก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าเขาไม่ทำก็เรื่องของเขา ผมจะไปยุ่งอะไรกับเขาได้ แล้วมันผ่านหรือเปล่า ถามกันอยู่อย่างนี้ จะมากจะน้อยไม่สำคัญ ถ้ามันผ่านก็คือผ่าน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    เมื่อถามว่าจะสยบข่าวลือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี  (ครม.) อย่างไร หรือว่าเป็นความจริง นายกฯ กล่าวว่า  กระแสสื่อเป็นคนปลุกปั่นขึ้นมาเอง เราไม่เคยพูด 
ถามอีกว่า นายกฯ ได้โทร.หานายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ  รมว.ศึกษาธิการหรือไม่ หลังได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุด  นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้สนใจใครได้คะแนนมากน้อย มันผ่านการอภิปรายก็จบ ส่วนมีข่าวว่าแซว ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ได้คะแนนมาก คราวหน้าให้มาเป็นนายกฯ นั้น ก็พูดแหย่พูดเล่นกันไม่ได้หรืออย่างไร จะจับมาเป็นประเด็นทุกเรื่องไม่ได้
    นายณัฏฐพลกล่าวเรื่องนี้ว่า นายกฯ ได้ให้กำลังใจทุกคน ไม่ใช่เฉพาะแค่ตนคนเดียว และให้ทำงานต่อ ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ใครที่ยังอธิบายไม่ชัดเจนก็ให้หาช่องทางชี้แจง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจในการขับเคลื่อนของรัฐบาล  และไม่น้อยใจ ตนทำเต็มที่ในทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้รับเกียรติมาเป็น รมว.ศธ.แค่นี้ก็มีบุญแล้ว และไม่มีความกังวลอะไร
    ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงคะแนนเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ตนได้รับมากที่สุดในพรรค​ พปชร.ว่า​  ​ก็ต้องขอบคุณทุกคน​และขอบคุณประชาชนที่รับฟัง 
ธรรมนัสรับขอโทษแล้ว
    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ส.ส.พรรคโหวตสวนมติพรรค​  พล.อ.ประวิตร​กล่าวว่า​ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค  (กก.บห.) ต่อมาในเวลา 12.00 น. พล.อ.ประวิตรย้ำอีกครั้งว่าจะคุยกับ กก.บห. ส่วนจะกระทบการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่มี เดี๋ยวจะไปชี้แจงกับพรรคร่วมเอง" 
เมื่อถามย้ำว่าได้คุยกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อทำความเข้าใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "คุยแล้วก็ไม่มีอะไร" และเมื่อย้ำว่านายศักดิ์สยามยังติดใจในเรื่องนี้อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนว่า "ธรรมดา ถ้าคุณโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างนี้ เขาก็อยากรู้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร
    และในเวลา 16.40 น. ที่ทำการพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตรเป็นประธานประชุม กก.บห.พรรค โดยเป็นที่สังเกตว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์  ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เดินทางมาพร้อมกับ พล.อ.ประวิตร
    ก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราต้องมีมาตรการจัดการกับคนของเราก่อนที่จะไปพูดหรือขอโทษพรรคอื่น  ที่จริงเรื่องขอโทษได้ขอโทษเขาไปแล้วตั้งแต่วันแรก แต่พรรคก็ต้องมีมาตรการออกมา
    นางนฤมลกล่าวถึงกรณีข่าวลือเป็นผู้ล็อบบี้พรรคเศรษฐกิจใหม่โหวตไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีบางท่านว่า "ไม่มีค่ะ อยู่กระทรวงแรงงานค่ะ ไม่รู้สึกอย่างไรกับข่าวที่ออกมา"
    ต่อมาที่ประชุม กก.บห.ได้ประชุมโดยใช้เวลาประมาณ  1 ชั่วโมง จากนั้นนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร.แถลงภายหลังว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีตนเองเป็นประธาน ซึ่งจะมีการเชิญ ส.ส.ทั้ง 7 รายมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยดูตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับสภาและข้อบังคับของพรรคอย่างเคร่งครัด มีระยะเวลาพิจารณา 15 วัน เมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอ กก.บห.พรรคต่อไป ยืนยันว่ามาตรฐานของพรรคถือว่าสูงที่สุด 
เมื่อถามว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่าผิดจริงตามข้อบังคับพรรคจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นายไพบูลย์กล่าวว่า "สมาชิกพรรคถ้าไม่ปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อพรรค หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของพรรค ที่จริงแล้วไม่มีบทลงโทษ แต่สมาชิกพรรคต้องอยู่ร่วมกันตามข้อบังคับของพรรค ซึ่งเมื่อปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค ก็จะได้สิทธิต่างๆ"
'ประวิตร' เดือด
    รายงานข่าวจาก พปชร.แจ้งว่า ในที่ประชุม กก.บห.เพื่อพิจารณามาตรการลงโทษกรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ และ 1 ส.ส.ระยองลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจสวนกับแนวทางของพรรค บรรยากาศเป็นไปอย่างคุกรุ่น โดย พล.อ.ประวิตรแสดงท่าทีไม่พอใจต่อการกระทำของ ส.ส.อย่างมาก โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า “โหวตอย่างนี้รับไม่ได้ แล้วไม่ต้องโพสต์อะไรอีก อย่างนี้มันต้องขับออก ไปรับปากเขามา  เขาก็ให้เราเต็ม แต่เรามีปัญหา พรรคเราเสียหาย มันต้องมีบทลงโทษ ทำไมตอนถามในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 19  ก.พ.ว่ามีปัญหาอะไรแล้วไม่บอก” ส่งผลให้ กก.บห.ที่ร่วมประชุมต่างนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่ค่อยเห็นการแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้ของ พล.อ.ประวิตร 
    ขณะที่ กก.บห.รายหนึ่งได้ชี้แจงโดยยกข้อกฎหมายขึ้นมาอธิบายว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ มีอิสระ ปราศจากการครอบงำของพรรคการเมืองในการลงมติ ทำให้นายไพบูลย์เสนอให้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาพิจารณา ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้กล่าวเสริมเพื่อให้บรรยากาศเย็นลงว่า เมื่อตั้งคณะกรรมการสอบแล้วขอให้รอฟังผลข้อเท็จจริงก่อนมีมาตรการใดๆ ส่วน กก.บห.คนอื่นๆ ค่อนข้างระมัดระวังแสดงความคิดเห็น     
    มีรายงานว่า ตั้งแต่มีปัญหา น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พยายามโทรศัพท์หา พล.อ.ประวิตรเพื่อชี้แจงเหตุผล แต่ พล.อ.ประวิตรไม่รับสายเลย   
    รายงานข่าวแจ้งว่า กระบวนการลงโทษคงขับ ส.ส.ไม่ได้ แต่อาจมีผลต่อมาตรการส่วนตัวกับ ส.ส.คนดังกล่าว  อาทิ ตัดการดูแลช่วยเหลือและสนับสนุนเรื่องต่างๆ ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ให้เป็นกรรมาธิการต่างๆ  หลังจากนี้  โดยเฉพาะ น.ส.วทันยาที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพียงคนเดียว และเป็นแกนนำกลุ่มที่อาจโดนหนักกว่าเพื่อน ขณะที่อีก 6 คนที่เหลือเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต คงต้องเอาไว้ก่อน   
    ส่วน น.ส.วทันยา แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์โพสต์เฟซบุ๊กว่า "เดียร์และเพื่อน ส.ส.ต้องขออภัย พล.อ.ประวิตร และเพื่อน ส.ส.ในการปฏิบัติตามจิตวิญญาณความเป็น ส.ส.อย่างดีที่สุด ซึ่งยังเชื่อมั่นในการแสดงออก จากการพิจารณาด้วยหลักการและเหตุผล ในฐานะ ส.ส.ภายใต้ความเป็นประชาธิปไตย"    
    ขณะที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข​ ในฐานะ​หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย​ (ภท.)​ กล่าวเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องพรรคการเมืองกับพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรค ต้องไปปรึกษากับ​  พล.อ.ประวิตร ไม่เกี่ยวกับนายกฯ​ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับ​ พล.อ.ประวิตร แต่เชื่อว่า พล.อ.ประวิตรเจอลูกน้องทำแบบนี้คงลำบากใจ ถ้าถามว่ามองหน้ากันไม่ติดหรือเปล่า​  ก็ไม่หรอก เพราะตนเองและนายศักดิ์สยาม​เคารพ พล.อ.ประวิตร​และ พล.อ.ประยุทธ์​ ทั้ง 2 ท่านไม่ได้ทำอะไรผิด  คนที่ไม่โหวตให้ต่างหากที่ทำให้ท่านต้องมานั่งไม่สบายใจ  เชื่อว่าท่านคงมีวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภท.จะรอฟังว่าจะมีมาตรการอะไรกับคนที่ไม่เคารพมติพรรค​ ทำได้เพียงเท่านี้​ เพราะเราไม่ได้มีปัญหาระหว่างผู้บริหารพรรค ยิ่ง​ พล.อ.ประยุทธ์แล้วยิ่งไม่มีปัญหาอะไรใหญ่เลย
เสี่ยหนูรับยังติดใจ
    เมื่อถามถึงกรณี​ ส.ส.รุ่นใหม่​ ภท.ออกมาแสดงความคิดเห็นโจมตีเรื่องการลงมติของ 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์​  นายอนุทิน​กล่าวว่า เขามีสิทธิ์แสดงความรู้สึกเพราะนี่มันเป็นเรื่องมารยาททางการเมือง
    เมื่อถามว่า ต่อจากนี้การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลจะเกิดความหวาดระแวงต่อกันหรือไม่​ นายอนุทิน​กล่าวว่า  ถ้าไม่แก้ไขมันก็เกิด ดังนั้น​ต้องแก้ไขกัน ​แต่ละพรรคต้องไปจัดการปัญหาของตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อถามว่ากรณีนี้จะเจ๊ากับกรณีเมื่อครั้งลงมติเลือกนายกฯ​ ที่นายสิริพงศ์​ อังคสกุลเกียรติ​ ส.ส.ศรีสะเกษ​ งดออกเสียงให้ พล.อ.ประยุทธ์​หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า​ "ไม่เจ๊า เพราะคนละฐานกัน  ตอนนั้นเพิ่งเข้ามายังไม่รู้จักว่าใครเป็นใคร และที่สำคัญที่สุด คุณไม่ได้ติดใจนี่ แต่เที่ยวนี้ภูมิใจไทยติดใจ"
    เมื่อถามว่า​ติดใจอย่างไร​ นายอนุทิน​กล่าวว่า ผู้หลักผู้ใหญ่พูดคำนี้แล้วก็ต้องรู้กันแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร​ ส่วน​  พปชร.ดำเนินการถึงขั้นไหน ขอไม่พูด​ เราได้แสดงความรู้สึกของเราออกมาอย่างนี้ ว่านายศักดิ์สยามเป็นเลขาธิการพรรค ยังดีที่ไม่ระแวงตนเองอีกคน ถือว่าโชคดี เพราะ​ ภท. โดนอภิปรายอยู่ 2 คน คือ​หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค หัวหน้าพรรคได้ 275 เสียง แต่เลขาธิการพรรคมา  268 เสียง คนที่เหงื่อตกไม่ใช่นายศักดิ์สยาม​ แต่เป็นตนเอง
    เมื่อถามถึงกรณี 4 ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ลงมติไว้วางใจนายอนุทินจะย้ายมาร่วมกับ​ ภท. พร้อมเปิดรับหรือไม่ นายอนุทิน​กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย แต่ถึงอย่างไรต้องโทรศัพท์ไปขอบคุณเขา เมื่อถามว่าไม่ได้มีเรื่องพลังดูดอะไรใช่หรือไม่ นายอนุทิน​กล่าวว่า ตอนนี้หายใจยังไม่ค่อยเข้าเลย​  แล้วจะไปดูดใครได้
    ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ ส.ส.พรรคไม่ลงคะแนนให้หัวหน้าพรรคนั้น นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ  และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้เลขาธิการพรรคไปดำเนินการ ขอให้เป็นเรื่องภายในพรรค  ซึ่งในฐานะที่เป็น กก.บห.ก็ต้องดูว่าเลขาธิการพรรคจะดำเนินการอย่างไร        
    ด้านพรรคฝ่ายค้านซึ่งก็เกิดกรณีงูเห่าขึ้นเช่นกันนั้น  นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า เราพิจารณาดูแล้วว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. เพราะไม่มีกฎหมายกำหนด  ถือเป็นเรื่องภายในแต่ละพรรคต้องไปดำเนินการ   
ไม่เตะหมูเข้าปากหมา
    นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก) กล่าวถึงกระแสข่าว นายทุน ว. เข้ามาแทรกแซงในพรรคว่า เบื้องต้นมีคณะกรรมการวินัยของพรรคดูอยู่ แต่ยังไม่ได้ทำอะไรที่ขัดต่อจริยธรรมพรรค หากมีการกระทำที่ส่งผลต่อเอกภาพของพรรคหรือทำให้เกิดความเสียหาย รวมถึงขัดต่อข้อบังคับ ยืนยันไม่เอาไว้แน่นอน จะจัดการให้เด็ดขาด ขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าเป็นเพียงเรื่องส่วนตัวหรือไม่
    “กรณี 4 ส.ส.ก้าวไกลโหวตสวนมติพรรค ถือว่าผิดหวัง แต่ไม่ผิดจากที่คาดไว้ ซึ่งคณะกรรมการวินัยของพรรคจะหารือแนวทางการลงโทษ แต่จะไม่ขับออกจากพรรค เพราะเหมือนเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา” นายพิธาระบุ 
    นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ซึ่งโหวตสวนมติพรรคกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ร่วมกิจการของพรรคมา 1 ปีแล้ว ซึ่งการเมืองไม่ใช่เรื่องวิชาการ แต่คือการประสานผลประโยชน์ของกลุ่มในประเทศ อย่านำตำรามาทำการเมือง พรรคที่อยู่นานๆ ก็ไม่ได้นำตำรามาเล่นการเมือง ดังนั้นอยู่ที่ดุลยพินิจของพรรคว่าจะขับออกหรือไม่ และขอย้ำว่าลงพื้นที่ก็ไม่ได้ใส่ชื่อพรรคก้าวไกลมาเป็นปีแล้ว
    ถามต่อว่า วันนี้ตัวอยู่พรรคก้าวไกลแต่ใจไปอยู่พรรคภูมิใจไทยแล้วใช่หรือไม่ นายคารมกล่าวว่า ไม่ใช่แบบนั้น  แต่ใจอยู่พรรคใดก็ได้ที่ให้โอกาสทำงานพื้นที่
    นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึง ส.ส.พรรค 3 คนโหวตไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส และอีก 1 คนโหวตงดออกเสียงว่า ก่อนลงมติพรรคมีมติชัดเจนว่าให้ ส.ส.พรรคฟรีโหวต ร.อ.ธรรมนัส เพราะข้อมูลไม่ไว้วางใจไม่มีอะไรมาก และ ร.อ.ธรรมนัสตอบตรงประเด็น และไม่มีข้อสงสัย ซึ่งได้แจ้งเลขาธิการพรรค พท.แล้ว 
คนชื่อสงครามไม่มีเรื่องเงินเรื่องทองแน่นอน เพราะไม่ใช่คนอดอยากปากแห้งและไม่ใช่เป็นคนโลภ
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า "ได้ยุติบทบาทกับพรรคนี้ ไม่ยุ่งเกี่ยวทั้งสิ้น ใครทำอะไรก็รับผิดชอบกันไป เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมมีกระดูกแขวนคอ ไม่เคยไปยุ่งกับพรรคเพื่อชาติเลย เมื่อตัดแล้วก็ตัดเลย" 
วันเดียวกันยังคงมีความต่อเนื่องจากผลพวงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.)  แกนนำพรรคฝ่ายค้านได้หารือเพื่อสรุปภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายสมพงษ์กล่าวภายหลังประชุมว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ตั้งคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายเพื่อพิจารณาความผิดของรัฐมนตรี ว่าจะส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) ในลักษณะใด โดยมี 2 กรณี คือ ความผิดทางอาญาและความผิดทางจริยธรรม 
พท.ตามขยี้ 3 รมต.
    นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า พรรคมองว่ามีรัฐมนตรี 3 คนที่จะถูกยื่นร้องแน่นอน คือ พล.อ.ประยุทธ์, นายจุรินทร์ และนายณัฏฐพล และมีรัฐมนตรีบางท่านอาจไม่ถูกยื่นไปยังองค์กรอิสระ แต่จะมีมาตรการทางการเมืองในการดำเนินการกับรัฐมนตรีทั้ง 10 คน   
    นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังปิดประชุมสภาได้เตรียมลงพื้นที่ จ.ชลบุรีและเชียงราย เพื่อตีแผ่ข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้ทราบ 
     นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า  แม้ 10 รัฐมนตรีจะได้รับเสียงโหวตผ่านการอภิปราย แต่ยังไม่ได้ตอบข้อสงสัยคาใจในประเด็นการเอื้อประโยชน์และการทุจริตคอร์รัปชัน 5 เรื่องสำคัญ 1.เรื่องเหมืองทองอัครา  2.เรื่องทุจริตถุงมือยาง 3.เรื่องปัญหารถไฟฟ้าสายต่างๆ  และระบบคมนาคม 4.เรื่องการลักลอบขนแรงงานเถื่อน  และ 5.เรื่องการนำเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานไปให้ กอ.รมน.และ ศอ.บต. 
     ขณะที่ทีมโฆษกกองทัพบก พร้อมหน่วยทหารที่เกี่ยวข้องได้แถลงประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายการทุจริตโครงการจัดหาในกองทัพบก โดย พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ระบุว่า ทุกเรื่องที่ถูกพาดพิงนั้นกองทัพบกได้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบของทางภาครัฐทุกประการ  และสามารถตรวจสอบได้ทุกเรื่อง  
ต่อมา พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ.ได้ชี้แจงรายละเอียดโครงการจัดหารถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ปรับอากาศในปีงบประมาณ 2563 ขณะที่ พ.ต.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษก ทบ.ได้ชี้แจงการจัดหากล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน ส่วน พ.ท.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส ผู้ช่วยโฆษก ทบ.อธิบายโครงการจัดซื้อชุดลำลองทหารเกณฑ์  7 รายการ โดยได้ลำดับตั้งแต่เริ่มโครงการจนจบอย่างละเอียด
    พล.ท.กิตติชัย วงศ์หาญ เจ้ากรมพลาธิการทหารบก กล่าวเสริมว่า ในเดือนเมษายนนี้กองทัพได้ยกเลิกการจัดซื้อกางเกงใน และจะไม่มีการแจกฟรีให้พลทหารที่จะเข้าประจำการ โดยจะให้ใช้ของส่วนตัวที่ติดตัวมา ส่วนเหตุผลที่ยกเลิกนั้น เพราะทหารทุกคนที่เข้ามาอยู่กับเราก็ต้องมีกางเกงในเป็นของตนเองติดตัวมาแล้ว ปีนี้เราก็เลยงดซื้อให้ โดยจะนำงบประมาณส่วนนี้ไปจัดหาสิ่งอื่นที่มีความจำเป็นมากกว่า เช่น เครื่องสนาม. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"