หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว-ค้าปลีกพุ่งรับกระแสวัคซีน


เพิ่มเพื่อน    

 

2 มี.ค.2564 น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวผันผวน แม้ได้รับปัจจัยบวกจากกระทรวงสาธารณสุขกำลังติดตามประกาศมาตรฐานกลางขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับมาตรการวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) เพื่อออกมาตรการเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากทั่วโลกเริ่มรับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 รวมถึงไทยที่ทยอยฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก ได้แก่ AWC-MINT- CENTEL-CPN-CRC-SPA และ AOT

ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ประเมินตัวเลข GDP ของสหรัฐว่ามีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่ง 6% ในปี 64 และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านความเห็นชอบแผนบรรเทาทุกข์ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ช่วงต้นปีทีผ่านมา เงินของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องกว่า 29,000 ล้านบาท ประกอบกับการประกาศงบการเงินที่สิ้นสุดลง ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรออกมา จึงประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ระดับ 1,485-1,530 จุด

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาประเด็นที่สำคัญ เช่น การประชุมของคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ในวันที่ 3 มี.ค. และกระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการในวันที่ 5 มี.ค. ส่วนปลายเดือนมีนาคมจะมีการประชุม กนง.ครั้งที่ 2 และการเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนอีกครั้งจากปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกระแสข่าวปรับครม. เป็นต้น

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนเดือน มี.ค.64 มองว่าตลาดหุ้นไทยจะผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ประเมินดัชนีที่แนวรับ 1,450-1,480 จุด โดยธีมการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่พุ่งแรง และคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น  แนะนำลงทุนในหุ้นที่น่าสนใจ 7 กลุ่ม 13 หุ้น ได้แก่ 1.กลุ่ม Hard commodities หุ้นที่เลือกคือ  PTTGC, TOP, SPRC, ESSO 2.กลุ่ม Soft commodities หุ้นที่เลือกคือ STA  3.กลุ่มธนาคารหุ้นที่เลือกคือ KBANK, BBL  4.กลุ่มอาหารหุ้นที่เลือกคือ  CPF, TU  5.กลุ่มอสังหาฯ หุ้นที่เลือกคือ AP, ORI  6.กลุ่มเดินเรือ หุ้นที่เลือกคือ RCL 7.กลุ่มสินค้า Consumer หุ้นที่เลือกคือ STGT

สำหรับช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.นี้ น่าจะเริ่มเป็นช่วงเวลาที่ดีของหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะเริ่มหมดลง ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานเริ่มเห็นประมาณการกำไรของหุ้นใหญ่ทรงตัวได้แล้ว จึงเป็นที่มาที่หุ้นแนะนำส่วนใหญ่ประจำเดือนนี้ค่อนข้างโน้มเอียงไปยังหุ้นขนาดใหญ่มากกว่า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"