5 มี.ค.64 - นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์” ผู้ต้องหา คดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำคลองเปรม ผิด ป.อาญา มาตรา 112 รวมไปถึงนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำม็อบที่ถูกคุกขังในขณะนี้ ว่า ปรากฎการณ์ถูกทิ้งให้ก้มหน้ารับชะตากรรม โดยมีบุพการีต้องคอยหาทรัยพ์สินมาของประกันตัวกับศาลฯ ถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นแล้วว่า การประกาศกร้าวว่าจะไม่ทิ้งกัน หรือปล่อยเพื่อนกูออกมา เป็นแค่วาทกรรมหลอกเด็ก หวังใช้เป็นข้ออ้างในการชุมนุม แต่สุดท้ายตนไม่เห็นแกนนำคนไหนกล้าออกมายืนข้าง 2 คนนี้เลย

“ภาพที่ปรากฎกับสายตาประชาชนในช่วงการชุมนุมก่อนหน้านี้ มักจะเห็นภาพ ส.ส.รวมถึงอดีต ส.ส.หลายคนของพรรคฝ่ายค้าน ไปโชว์ตัวในที่ชุมนุม พร้อมกระซิบกระซาบทำทีสั่งการแกนนำ แต่มาวันนี้ไม่ทราบว่าบรรดาเตี้ยหลังม็อบหายไปไหนกันหมด ไม่เห็นโผล่หัวมาสักคน ปล่อยให้พ่อแม่น้ำตาไหลส่งลูกเข้าคุก นี่คือการสะท้อนให้เห็นชัดว่า เป็นพฤติกรรมหลอกใช้เยาวชนมาเป็นเครื่องมือให้กระทำความผิด และใช้เป็นบันไดเพื่อให้ตัวเองได้เหยียบไปสู่อำนาจ การนัดชุมนุมในวันที่ 6 มี.ค.นี้ ผมขอแนะนำว่า ผู้ชุมนุมไม่ต้องไปที่กรมทหารราบที่ 11 ให้เสียเวลา แต่ให้ไปแจ้งความ ประกาศตามหาคนหายจะดีกว่า”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่า เยาวชนบางคนที่ยังหลงทางอยู่ในม็อบปาหี่แก๊งค์นี้ ตนขอฝากบอกให้ ถอนตัวและเดินออกมาเถอะครับ อย่าอยู่ให้ใครหลอกใช้อีกเลย วันนี้มีตัวอย่างให้เห็นชัดแล้ว ว่าที่สุดแล้ว เมื่อต้องก้มหน้ารับชะตากรรมไปใช้ชดความผิดในเรือนจำ คนที่เป็นห่วงและรักมากที่สุด อย่างพ่อแม่ คือคนที่เดือดร้อน ไม่ใช่บรรดานักการเมืองที่ปลุกปั่นอยู่เบื้องหลัง