อว.-สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา นำนักศึกษาที่ได้รับการจ้างงานโครงการ U2T ทำงานกับพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ”ครูขาบ” บึงกาฬ ชูเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นำจุดเด่นของชุมชนสร้างรายได้ให้ชุมชน


เพิ่มเพื่อน    

 

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัยจ.บึงกาฬ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมคณะผู้บริหาร อว.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ที่ก่อตั้งขึ้นโดย “ครูขาบ” หรือนายสุทธิพงษ์ สุริยะ เจ้าของรางวัลออสการ์อาหารโลก Gourmand World Awards จำนวน 14 รางวัลในสาขาต่างๆ ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปะของงานออกแบบร่วมสมัยผสมผสานกับอัตลักษณ์ของชุมชน โดยมีวิถีเกษตรชุมชนเป็นตัวเชื่อม จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่ให้ผู้คนได้มาเจอกันและมีรายได้เกื้อกูลกัน ผ่านการซื้อขายสินค้าเกษตรของชุมชน สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ชุมชนไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านบาทต่อปี

 

นอกจากนี้ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก และคณะยังได้มาติดตามการทำงานของผู้ได้รับการจ้างงานจาก อว. ผ่านโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศหรือ U2T

 

ทั้งนี้ หลังการตรวจเยี่ยม ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก ให้สัมภาษณ์ว่า พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ ดำเนินการโดยสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ให้บัณฑิตจบใหม่ นักศึกษา และชาวบ้าน ร่วมกับเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชน โดยมีอาจารย์เป็นพี่เลี้ยง ผู้เข้าร่วมโครงการ U2T ที่เป็นบัณฑิตและนักศึกษาล้วนเป็นผู้มีภูมิลำเนาในพื้นที่ แต่ไปศึกษาในจังหวัดอื่น ได้มีโอกาสกลับมาทำงานในท้องถิ่นเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การที่ผู้รับการจ้างงานได้มาทำงานในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ถือเป็นโอกาสในการได้มาเรียนรู้เพิ่มเติมจากครูขาบในเรื่องของเศรษฐกิจสร้างสรรค์  ที่นำจุดเด่นของชุมชนมาสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน นอกเหนือจากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ปัญหาของพื้นที่ตามภาระงานที่ได้รับมอบหมายในระยะเวลา 1 ปีตามระยะเวลาโครงการ

 

รมว.อว.กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า โครงการU2T เป็นการโอกาสให้ ชุมชน และ พื้นที่ ได้รับการวิเคราะห์ปัญหาพร้อมทั้งการแก้ไขตามความต้องการ โดยมีผู้จ้างงานที่เป็นบัณฑิตนักศึกษา และชาวบ้าน ทำงานร่วมกัน และมีอาจารย์และมหาวิทยาลัยมาเรียนรู้ร่วมกัน นำความรู้ไปตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่พร้อมๆ กับการที่ชุมชนและพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้ชีวิตจริงให้แก่อาจารย์และมหาวิทยาลัย ที่สำคัญสะท้อนให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยต้องการชุมชนหรือพื้นที่ท้องถิ่นเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่สะท้อนถึงความต้องการจริงของชุมชน ความรู้ของมหาวิทยาลัยจะต้องตอบโจทย์ของชุมชนและท้องถิ่นได้ เพราะจังหวัดหรือท้องถิ่นจะเข้มแข็งได้ต้องมีองคาพยพที่เกี่ยวข้อง 3 ส่วน คือ มหาวิทยาลัย ภาคประชาสังคมหรือชุมชน และภาคเอกชน ซึ่งทั้ง 3 ส่วนคือผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นจริง ไม่ได้มาแล้วไปเหมือนหน่วยงานราชการจากส่วนกลาง

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"