แจ้งตร.ลูกวัย13 โดนเพื่อนรุมตบ


เพิ่มเพื่อน    

 พ่อและแม่เลี้ยงของเด็กหญิงวัย 13 ปีชาวจังหวัดชัยนาท ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ หลังลูกสาวถูกเพื่อนนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน จำนวน 5 คน เป็นหญิง 4 คน ชาย 1 คน ทำร้ายร่ายกายด้วยการใช้มือตบใบหน้าหลายครั้ง และใช้รองเท้านักเรียนตบศีรษะ อีกทั้งยังข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัวเรื่อยมา และยังบังคับให้ร่วมถ่ายทำคลิปตบหน้า เพื่อเลียนแบบคลิปตบดังในโซเชียล แต่ที่หนักสุดถึงขั้นบังคับให้ถอดกางเกงชั้นใน ขณะเด็กหญิงกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำเพื่อถ่ายภาพอวัยวะเพศ แล้วโพสต์ประจานลงกลุ่มแช้ตเพื่อนๆ ในโรงเรียนเพื่อให้เกิดความอับอาย รวมทั้งเด็กหัวโจกของกลุ่มนี้ยังบังคับให้เด็กหญิงถอดเสื้อโชว์หน้าอกขณะวิดีโอคอล แล้วแคปภาพหน้าจอเอาไปโพสต์ลงกลุ่มแช้ตอีกด้วย     

    เด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าว่า ภาพในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย.63 ในห้องน้ำโรงยิมของโรงเรียน ช่วงพักเที่ยง ถูกเพื่อนหลอกว่าจะไปถ่ายรูปเล่นกันในห้องน้ำ แต่กลับถูกบังคับให้มาร่วมทำคลิปตบ โดยกลุ่มเพื่อนบังคับให้ตนตบหน้าเพื่อนก่อน ซึ่งตนไม่กล้า แต่ก็ยอมทำตาม ตบหน้าเพื่อนไปเบาๆ แต่กลับถูกเพื่อนทั้ง 5 คน ผลัดกันตบหน้าตนกลับมาอย่างแรงและหลายครั้ง ทำให้เจ็บระบมไปทั่วใบหน้า และยังถูกถ่ายคลิปอนาจารขณะที่ตนกำลังเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวด้วย    
    ส่วนภาพโชว์หน้าอกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.พ.64 ขณะที่กำลังวิดีโอคอลพูดคุยกับเพื่อน 1 ใน 5 คนนี้ ได้บังคับให้ตนถอดเสื้อโชว์หน้าอกผ่านวิดีโอคอล ตอนแรกตนได้ปฏิเสธ แต่ถูกเพื่อนพูดจาข่มขู่ ทำให้หวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงยอมทำตาม ไม่รู้ว่าเพื่อนจะแคปภาพส่งเข้าไปในกลุ่มแช้ต และเมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 ถูกเพื่อนคนนี้ใช้รองเท้านักเรียนตบศีรษะตน ส่วนสาเหตุที่ตนต้องยอมทำสิ่งต่างๆ ตามที่เพื่อนกลุ่มนี้บังคับมาโดยตลอด เพราะเกิดความหวาดกลัว กลัวว่าหากไม่ทำตามก็จะถูกทำร้ายมากกว่านี้ และจะถูกตัดเพื่อนไม่มีใครคบ
    หญิงอายุ 28 ปี แม่เลี้ยงของเด็กหญิง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 ได้เห็นคลิปวิดีโอที่ลูกสาวถูกเพื่อนนักเรียนรุมตบในห้องน้ำโรงเรียน ตกใจและเสียใจเป็นอย่างมากที่เห็นลูกสาวถูกกระทำเช่นนั้น เมื่อถามลูกก็ทราบว่าที่ยอมให้เพื่อนตบหน้าเพราะหวาดกลัว หากไม่ยอมจะถูกเพื่อนทำร้ายหนักและจะไม่ยอมเป็นเพื่อนด้วย ตนและแม่สามีจึงรีบพาลูกสาวไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว กลับได้รับคำตอบจากครูฝ่ายปกครองว่าเป็นคลิปเก่าที่เด็กทะเลาะกันตั้งแต่เดือน พ.ย.63 ทางโรงเรียนได้มีการภาคทัณฑ์กับเด็กในกลุ่มนี้ไว้แล้ว ซึ่งแปลกใจมากว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้หลายเดือนแล้ว เหตุใดโรงเรียนจึงไม่แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ จนกระทั่งตนและสามีมาเห็นคลิปนี้เอง   
    ต่อมาวันที่ 4 มี.ค.64 ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกตนและผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีทั้ง 5 คนไปประชุมร่วมกัน ซึ่งในที่ประชุมสรุปว่าเด็กกลุ่มนี้กระทำผิดจริง ทางโรงเรียนจึงให้ผู้ปกครองของเด็กคนแรกที่เป็นหัวโจกมาทำเรื่องย้ายออกไปจากโรงเรียน ส่วนเด็กที่เหลืออีก 4 คนถูกภาคทัณฑ์ไว้ และตนได้พาลูกสาวไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.การุ้ง จ.อุทัยธานี เพื่อเอาผิดกับเด็กที่ก่อเหตุทั้ง 5 คน ฐานทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แล้ว    
    "รู้สึกสงสารลูกเป็นอย่างมากที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะนอกจากลูกจะได้รับความเจ็บปวดทางร่ายกายแล้ว ยังเจ็บปวดทางจิตใจ ถูกเด็กผู้ชายล้อเลียนเรื่องคลิปอนาจารตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียน ลูกบอกว่าถูกกระทำเช่นนี้มาตั้งแต่ต้นเทอมแล้ว แต่ที่ไม่เคยปริปากฟ้องครูหรือมาบอกพ่อแม่ ปู่ย่า ก็เพราะกลัวจะถูกทำร้ายหนักขึ้น จึงอยากให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุแสดงความรับผิดชอบให้มากกว่าแค่คำว่า “ขอโทษ” ส่วนเรื่องคดีความ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ยังมีเด็กหญิงอีกรายก็ถูกกระทำแบบนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ปกครองของเด็กหญิงอีกรายก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้วเช่นกัน" แม่เลี้ยงระบุ
    ขณะที่พ่อและย่าของเด็กเตรียมย้ายเด็กหญิงออกจากโรงเรียน โดยช่วงนี้จะให้หยุดเรียนไว้ก่อน แล้วค่อยกลับไปโรงเรียนในช่วงที่มีการสอบปลายภาค เพื่อให้เด็กหญิงได้เรียนจบชั้น ม.1 ก่อน แล้วจะย้ายให้มาเรียนในโรงเรียนใกล้บ้านแทน.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"