เปิดความเผ็ดความแซ่บวันแรก พิธีกรคนเก่งอย่าง แอนนา วรินทร จากเผ็ดมันส์บันเทิง ก็ต่อสายตรงถึงเพื่อนดาราสาวคนสนิท แตงโม นิดา ที่ยังไม่เคยไปเปิดปากที่ไหนมาก่อน เพื่ออัปเดทอาการอีกครั้ง หลังอาการเส้นประสาทด้านล่างช่วงคางไม่สามารถขยับได้ งดรับงานมาเกือบปี จนทำให้ป่วยเป็นทั้งโรคซึมเศร้าและโรคต่อมหมวกไตล้า ครั้งนี้แตงโมต้องออกมาวอนของานรีวิวสินค้าเพื่อช่วยให้มีรายได้ในการรักษาตัว 

          “ตอนนี้ก็คือปากขยับได้บ้าง แต่อาจจะมีผิดรูปบ้างเล็กน้อย ด้วยความที่มันยังไม่หายดี 100 % ก็ต้องรอเวลา รักษาไปเรื่อยๆ แล้วมันก็จะค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เราต้องคอยหมั่นรักษาคอยกระตุ้นมันค่ะ ก็รักษาไม่ใช่ที่เดียว เราก็มีทานวิตามินบำรุง ก็ดีขึ้นตามลำดับเลยค่ะ บางคนคิดว่าอัมพาตไปครึ่งซีกหรือป่าว ไม่ถึงขนาดนั้นแต่จริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้นค่ะ

          (เป็นมานานหรือยังอาการนี้) คือมันค่อยๆ เป็นมาเรื่อยๆ ค่ะ ด้วยความที่เราเมื่อก่อนค่อนข้างฉีดฟิลเลอร์ค่อนข้างเยอะ พอวันนึงรู้สึกอยากเอาสารแปลกปลอมออกจากหน้า เราก็เลยไปขูดสารแปลกปลอมออก แล้วก็ใส่ซิลิโคลนแทน แต่ไอ้การขูดนี่มันก็มีความเสี่ยงที่จะโดนหรือไม่โดนเส้นประสาทอะไรประมาณนี้ ช่วงแรกๆ ที่ไปทำมาคือเป็นเยอะมากค่ะ แต่ช่วงนี้ก็คือเริ่มดีขึ้นแล้ว

            หลังจากข่าวออกไปว่าเราป่วย ก็มีคนส่งข้อความมาเป็นกำลังใจให้เยอะมากๆ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ แล้วก็มีบางคนส่งแนะนำมาว่ารักษากับคุณหมอที่นั่นที่นี่ดีนะคะ พี่โมลองไปปรึกษาดู บางคนก็บอกว่าเค้าเคยเป็นเหมือนกัน แต่ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ถึงจะหายและดีขึ้นค่ะ ก็อยากจะให้พี่โมอดทนรอ แล้วก็ใจเย็นๆ แบบนี้ค่ะ ก็ขอขอบคุณทุกๆ คนเลยค่ะ ขอบคุณทุกๆ คุณหมอทุกๆ คลีนิกเลยค่ะ ที่พยายามช่วยให้มันดีขึ้น

            ส่วนเรื่องการรับงานตอนนี้ จริงๆ แล้วในใจโมรักงานละคร และอยากเล่นละครอยู่ แต่ด้วยความที่เราก็ยังเป็นแบบนี้ ก็เกรงใจผู้ใหญ่กลัวว่าเราจะทำงานให้เค้าได้ไม่เต็มที่ เราก็เลยขอพักไว้ก่อน เผื่อว่ามันดีกว่านี้ เราเข้ากล้องไปแล้วมันดูธรรมชาติมากกว่านี้ เราก็อาจกลับมารับงานละครอีกก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความเมตตาของผู้ใหญ่เลยค่ะ ถ้าเกิดว่ามันดีขึ้นแล้วก็ติดต่อมาได้เลยนะคะ

            (ย้อนหลังไป 1 ปี ไม่มีงานเลย ตอนนี้อยู่ยังไง) คือตอนนี้ก็กินเงินเก่า และเอาเงินลูกมาใช้ก่อน แล้วก็ยังมีผลิตภัณฑ์ของตัวเอง (สภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้) เอาจริงๆ สภาพจิตใจเราแย่ตั้งแต่คุณพ่อป่วยแล้ว แล้วตอนนั้นเราป่วยเป็น ต่อมหมวกไตล้า ก็ค่อนข้างแย่มากในช่วงนั้น เจอมรสุมมาหนักมากๆ ทั้งป่วยทั้งอะไร แล้วคุณพ่อมาเสียอีก จิตใจเราอาจเยียวยามาได้ไม่ 100% เท่าไหร่ แต่เราก็ต้องทำจิตใจให้มันดีขึ้นทุกวัน ให้บอกตัวเองว่าเราแย่ มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่เค้าแย่กว่าเรา ที่เราเงียบไม่ได้ออกมาพูดอะไรก็เพราะว่า มันยังมีอีกหลายคนนะที่เค้าแย่กว่าเราอีก แต่เค้าก็ยังสู้ ซึ่งเราก็ต้องสู้เหมือนกัน ยังดีที่เราได้รับกำลังใจค่อนข้างเยอะ มันก็เลยช่วยเยียวยาจิตใจเราให้ดีขึ้น

          และสำหรับคนที่จะจ้างงาน แล้วแต่เนื้องานเลยค่ะ ถ้าอยากให้โมสวยพูดเป๊ะ โมก็อาจจะต้องขอเวลารักษาตัวก่อนเลย แต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไรอยากจะช่วยกัน  ช่วยค่าเทอมลูกหรือว่าอยากจะช่วยให้โมมีรายได้ในการรักษาตัว ไม่ซีเรียสในการพูดในการพรีเซน หรืออะไรอย่างนี้ ก็จ้างรีวิวได้เลยค่ะ ภาพนิ่งสบายมากเลยค่ะ เราก็จะไม่เม้มปากเยอะค่ะ ก็สามารถทำงานได้ค่ะ“

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม melonp.official