ครม.ขยายเวลากดยืนยันสิทธิ์ "ม.33 เรารักกัน" ถึง 31 พ.ค. มุ่งให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิ์ทั่วถึง ตีกลับ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 บี้ "ททท.-กระทรวงการท่องเที่ยวฯ" อุดรูรั่วทุจริตให้ได้ก่อน นายกฯ สั่งขึ้นบัญชีดำร้านโกงโครงการเยียวยารัฐ "พิพัฒน์" เร่งคลอด "ทัวร์เที่ยวไทย" ทันสงกรานต์

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้มีการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ "ม.33 เรารักกัน" โดยขยายเวลาการตรวจสอบสถานะใหม่ของผู้ที่ได้รับสิทธิ์เปิดใช้งานและกดยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง  เป็นระหว่างวันที่ 15 มี.ค. - 31 พ.ค.64 จากเดิมกำหนดวันที่ 15-21 มี.ค.64
    ทั้งนี้ จะมีการโอนจ่ายวงเงินสิทธิ์เป็นช่วงๆ โดยหากกดใช้งานและยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 15-21 มี.ค.จะได้รับวงเงินเข้า 1,000 บาทต่อสัปดาห์ ทุกๆ วันจันทร์ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ โดยจะได้รับวงเงินครั้งแรกวันที่ 22  มี.ค.นี้ จากนั้นจะได้รับเงินในครั้งถัดๆ ไปในวันที่ 29 มี.ค.,  5 เม.ย.และวันที่ 12 เม.ย.64
    หากกดใช้งานและยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 22 มี.ค. -  11 เม.ย.จะได้รับวงเงินสะสมนับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.จนถึงวันที่กดใช้งาน และจะได้รับเงินสัปดาห์ละ 1,000 บาท  ทุกๆ วันจันทร์ต่อเนื่องจนครบ 4,000 บาท และหากกดใช้งานและยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 12 เม.ย. - 31 พ.ค.จะได้รับวงเงินสะสมหลังการกดใช้งานครั้งเดียว จำนวน 4,000  บาทในครั้งเดียวเลย ขึ้นอยู่กับว่าผู้ได้รับสิทธิ์จะกดเข้าใช้งานโครงการ "ม.33 เรารักกัน" และกดยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังในช่วงเวลาไหน แต่ละช่วงจะมีกำหนดการโอนวงเงินให้ในจำนวนที่แตกต่างกันไป และได้รับเงินเร็วหรือช้าแตกต่างกันไปด้วย
    โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า? การขยายระยะเวลายืนยันตัวตนถึงวันที่ 31 พ.ค.64 หวังให้ผู้ประกันตน ม.33 ได้รับสิทธิ์รับวงเงิน 4,000 บาทอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับโครงการเราชนะที่ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการยืนยันตัวตน ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เร่งเข้าร่วมยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด ซึ่งภายหลังการปิดลงทะเบียนเมื่อ 7 มี.ค. เวลา 23.00 น. สรุปข้อมูลโครงการ  "ม.33 เรารักกัน" ผู้สมัครสำเร็จมีจำนวนทั้งสิ้น  8,208,286  คน
    นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังไม่เห็นชอบการขยายสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ตามที่เดิมจะขยายสิทธิ์เพิ่มเติม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อความรัดกุมในการป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม และให้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเดิมหรือออกแบบรูปแบบใหม่ ก่อนนำกลับมานำเสนอ ครม.อีกครั้ง
    "นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพิ่มเติมว่า บริษัท ห้างร้าน  หรือผู้ประกอบการใด ที่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับโครงการการเยียวยาหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่ง  โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการเราชนะ โครงการ  ม.33 เรารักกัน ในอนาคตอย่างไม่สุจริต ขอให้เร่งดำเนินการขึ้นบัญชีดำบริษัทหรือห้างร้านต่างๆ เหล่านั้น" นายอนุชาระบุ
    ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะมีการเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อขอเปลี่ยนชื่อโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า เป็นโครงการทัวร์เที่ยวไทย และหารือในรายละเอียดของเงื่อนไข ซึ่งเชื่อว่าจะประกาศออกมาทันใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.).