‘เทพไท’ร้องยุบ‘พปชร.’! กัด‘บิ๊กป้อม’โต้แพ้ชวนตี


เพิ่มเพื่อน    

ควันหลงเลือกตั้งซ่อม "เทพไท" เดือด! ทนไม่ได้ถูกกล่าวหาโกงเลือกตั้ง ร้อง กกต.ยุบพรรคพลังประชารัฐ ยันไม่ได้เกิดจากอารมณ์ค้าง ไม่ใช่การกระทำที่ขี้แพ้ชวนตี แต่ต้องการทำให้ความจริงปรากฏ ย้อนศร "บิ๊กป้อม" ประชาธิปไตยไม่เกี่ยวกับมารยาททางการเมือง  

     เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า  เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้พิจารณาดำเนินการการกระทำผิดของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จากกรณีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช และมีสมาชิกพรรค พปชร.กลุ่มหนึ่ง นำโดยนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ และนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐร่วมแถลงข่าวกล่าวหาว่าการเลือกตั้งเขต 3 นครศรีธรรมราชไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม เพราะ ส.ส.คนเดิมถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากทุจริตการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัครลงแข่งขัน และถ้าเป็นพรรคพลังประชารัฐก็คงไม่ส่งผู้สมัคร
    รวมทั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเป็นอันดับสอง จึงเป็นความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัคร เพราะถ้าไม่มีการทุจริตการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเกิดขึ้น พรรคพลังประชารัฐก็ได้เป็น ส.ส.ไปแล้ว และจะทำให้ได้ ส.ส.นครศรีธรรมราช 4 ต่อ 4 เท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนโครงการคนละครึ่ง
      นายเทพไทกล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีการแถลงเปิดตัวนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ในขณะนั้น  ซึ่งในการแถลงข่าวในวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น มีสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหลายคน รวมทั้งนายสายัณห์และนายนิพันธ์ รวมอยู่ด้วย และการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อที่ 24 มี.ค.2562 พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทุจริตการเลือกตั้ง  
    ดังนั้นการแถลงข่าวของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่เป็นเท็จ มีผลต่อคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ และนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวถือว่านายนิพันธ์ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรครับรู้อยู่แล้ว แต่ไม่ทำการท้วงติงหรือทัดทาน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 22 กำหนดไว้แล้วว่า หากกรรมการบริหารพรรครับรู้การกระทำแล้วไม่ทัดทาน ก็ถือว่ากรรมการบริหารพรรครู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค
     “ผมจึงต้องการให้ กกต.พิจารณาดำเนินการต่อผู้กระทำผิด คือ นายสายัณห์, นายนิพันธ์ และนายอาญาสิทธิ์ ที่ร่วมกันใส่ร้ายพรรคการเมืองอื่น เพราะมีโทษถึงยุบพรรค และขอให้ กกต.พิจารณาการกระทำความผิดของสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค พปชร. ว่าเข้าข่ายความผิดถึงขั้นยุบพรรคพลังประชารัฐหรือไม่"
    นายเทพไทกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะใช้เวลานาน เพราะทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่ กกต.ขอสื่อมวลชนที่เสนอข่าวดังกล่าว ถอดเทป ก็จะทราบความจริง และยืนยันว่าการที่ตนยื่นต่อ กกต.ครั้งนี้ไม่ใช่เกิดจากอารมณ์ค้างที่น้องชายของตนแพ้การเลือกตั้ง เพราะการกระทำของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเกิดก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
    "หากผมจะยื่นร้อง กกต.ก่อนการเลือกตั้ง ก็จะเกิดข้อครหาว่าทำลายคะแนนเสียงของคู่แข่ง และถ้าจะยื่นหลังการเลือกตั้ง ก็จะเกิดข้อครหาอีกว่าขัดขวางไม่ให้รับรองผลการเลือกตั้ง ผมจึงยื่นหลังจากที่นายอาญาสิทธิ์ได้รับรองจาก กกต.แล้ว จึงไม่ใช่การกระทำที่ขี้แพ้ชวนตี แต่ต้องการทำให้ความจริงปรากฏ”
      เมื่อถามว่าการที่ยื่นร้องยุบพรรคพลังประชารัฐจะทำให้กระทบต่อการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเทพไทปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน  เพราะเป็นการกระทำของสมาชิกพรรคการเมือง และการเลือกตั้งก็คนละเรื่องกับการร่วมรัฐบาล ซึ่งตนสามารถที่จะร้องต่อ กกต.ได้ ตนยึดคำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่พูดว่าประชาธิปไตยไม่เกี่ยวกับมารยาททางการเมือง ตนจึงยื่นต่อ กกต.เพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคทราบแล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"