ป่วนวันสถาปนาBRN ตร.กู้ก่อนระเบิดใหญ่!


เพิ่มเพื่อน    

 ป่วนรับวันสถาปนากลุ่มบีอาร์เอ็น ตร.เก็บกู้ระเบิดได้ 3 ลูก อานุภาพในการทำลายค่อนข้างสูง พบเชื่อมต่อการจุดชนวนเข้าด้วยกันแบบตั้งเวลาเตรียมบึ้ม แต่ผิดพลาดเพราะวงจรซับซ้อนเกินไป เชื่อฝีมือสองพี่น้องฝาแฝดอาร์เคเค หน่วยงานด้านความมั่นคงสั่งคุมเข้ม 24 ชั่วโมง หวั่นก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์

    เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 จากกรณีที่คนร้ายจำนวน 5 คน ปล้นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บฉ 3897 ยะลา ของบริษัทขนส่งชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วนำไปประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิคนิค จำนวน 2 ลูก และบรรจุระเบิดไว้ในกระป๋องสเปรย์ จำนวน 1 ลูก นำไปจอดทิ้งไว้ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรรามัน ถนนจรูญวิถี ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรยะลาจะสามารถเข้าเก็บกู้ได้ทันอย่างปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น
    ล่าสุด มีรายงานจากชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลาระบุว่า ระเบิดที่สามารถเก็บกู้ได้รวม 3 ลูก ประกอบด้วย ระเบิดลูกที่ 1 ซึ่งเป็นระเบิดบรรจุในกระป๋องสเปรย์ยากันยุง จุดชนวนด้วยระบบตั้งเวลา น้ำหนัก 2 กิโลกรัม วางอยู่ในถังขยะ สำหรับระเบิดลูกที่ 2 และลูกที่ 3 เป็นถังแก๊สปิคนิค ขนาด 4 กิโลกรัม น้ำหนักรวมลูกละ 28 กิโลกรัม เชื่อมต่อการจุดชนวนเข้าด้วยกันทั้งสองลูกแบบตั้งเวลา ส่วนสาเหตุที่ไม่เกิดเหตุระเบิดขึ้นนั้น เชื่อว่าเกิดจากการต่อวงจรที่ซับซ้อนของกลุ่มคนร้าย แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากระเบิด 2 ลูกนี้ทำงานเต็มรูปแบบ จะมีอานุภาพในการทำลายค่อนข้างสูง
    ส่วนความคืบหน้าด้านคดีล่าสุด พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีพิเศษเข้าตรวจสอบไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาเส้นทางที่คนร้ายใช้เคลื่อนย้ายรถเข้ามายังจุดเกิดเหตุ รวมทั้งเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี  
    นอกจากนั้นยังสั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เชิญตัวบุคคลที่สั่งสินค้า และให้พนักงานขับรถขนส่งไปส่งที่บ้าน เนื่องจากพบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าของสินค้าได้โทร.เข้าหาพนักงานขับรถรายนี้หลายครั้ง ในลักษณะสอบถามว่าใกล้จะถึงแล้วหรือยัง  ซึ่งจะตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทร.เข้ามายังพนักงานขับรถ ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายหรือไม่
    พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  บอกว่า สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปฏิบัติการในครั้งนี้ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ปฏิบัติการที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่อำเภอเมืองยะลา ต่อเนื่องกับในพื้นที่อำเภอรามัน คาดว่าเป็นกลุ่มเดิมที่ยังปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่เพื่อแสดงศักยภาพที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามอยู่ ทั้งนี้ ท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ก็ได้สั่งการให้ตนประชุมมอบหมายทำงานทั้งหมด ทั้งงานสืบสวนและงานนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับกองกำลังที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ประชุมมอบประเด็นต่างๆ สำหรับความคืบหน้ารู้พอสมควรแล้ว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับวันสถาปนากลุ่มบีอาร์เอ็น 13 มีนาคมหรือไม่นั้น ก็ต้องการสอบสวนอีกครั้ง
    โดยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยังบอกอีกว่า ได้สั่งการให้ในพื้นที่ต่างๆ ตามหน้าฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบล ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งตรวจสอบตรวจค้นบุคคลต้องสงสัย โดยเฉพาะในช่วงนี้ เน้นย้ำต้องเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ป้องกันคนร้ายก่อเหตุซ้ำสองในพื้นที่
       ขณะที่หน่วยข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เชื่อว่าการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือนายบูคอรี หลำโส๊ะ และนายนอสารี หลำโส๊ะ สองพี่น้องฝาแฝดอาร์เคเคระดับปฏิบัติการ ร่วมกับกลุ่มอาร์เคเคจากพื้นที่กรงปินัง ปฏิบัติการปล้นรถส่งของแล้วนำระเบิดซุกในรถ แล้วนำไปจอดบริเวณหลังแฟลตตำรวจ สภ.รามันในครั้งนี้ เนื่องจากคนร้ายกลุ่มนี้จะถนัดในเรื่องปล้นรถเพื่อทำคาร์บอมบ์
       หน่วยข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เคยก่อเหตุปล้นรถบรรทุกไม้บริเวณป่าช้าจีน เขต อ.เมืองฯ จ.ยะลา แล้วนำไปก่อเหตุคาร์บอมบ์หน้า ศอ.บต.เคยปล้นรถยนต์จากเต็นท์รถในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อนำไปทำคาร์บอมบ์ แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดไว้ได้ และยังปล้นร้านทองในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ได้ทองรูปพรรณจำนวนมาก ขณะนี้คนร้ายกลุ่มนี้น่าจะแยกย้ายกันหลบหนีเข้าพื้นที่บริเวณรอยต่อ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส บางส่วนหลบหนีเข้า อ.กรงปินัง จ.ยะลา
    ทั้งนี้ วันที่ 13 มีนาคม เป็นวันสถาปนา  61 ปี กลุ่มขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี หรือบีอาร์เอ็น ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สั่งการเป็นพิเศษให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ การลักลอบเข้ามาในเขตเมืองของคนร้ายที่ไม่ทราบกลุ่มแนวที่อาจเข้ามาก่อเหตุร้าย เพื่อปฏิบัติการในเชิงสัญลักษณ์ แสดงศักยภาพของกลุ่ม ในวันครบรอบสถาปนา  61 ปีบีอาร์เอ็นดังกล่าว จึงได้สั่งการ ตลอด 24 ชั่วโมงให้มีการยกระดับในการตรวจเข้มตามจุดตรวจต่างๆ โดยเฉพาะด่าน 4 มุมเมืองที่จะเข้าในเมืองปัตตานี เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรายานพาหนะทุกชนิด โดยเน้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่เป็นรถเป้าหมาย และตรวจบุคคล รวมถึงการตั้งจุดตรวจสกัดในเส้นทางหลัก เส้นทางรอง และเส้นทางในหมู่บ้าน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
    นอกจากนั้นยังให้กำลังทหาร ตำรวจ จัดชุดลาดตระเวนขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ออกตั้งด่านลอยในเส้นทางย่อยรอบนอกเขตเทศบาล เพื่อตัดความอิสระในการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีอีกด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้นำภาพคลิปวิดีโอมาจากในสถานีบริการน้ำมันพีที ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส (ฝั่งไปนราธิวาส) บ้านลูโบ๊ะซูหลง ม.10 ต.เคราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ เป็นภาพชาย 2 คนสวมหมวกกันน็อกไม่ทราบชื่อและกลุ่ม ขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีดำ ตามประกบยิงนายมูฮำมัดคอยาพี วาเด็ง อายุ 28 ปี สังกัดกองร้อย อส.อ.สายบุรี ที่ 5 จนรถผู้ตายเสียหลักตกข้างหลัง และหนึ่งในคนร้ายลงไปยิงซ้ำ ก่อนหลบหนีไป
    หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำภาพไปตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย เพื่อสเกตช์ภาพคนร้าย รวมทั้งตรวจสอบพาหนะรถ จยย.ที่คนร้ายนำมาก่อเหตุด้วย.


 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"