ดีใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ สรยุทธหวนช่อง3


เพิ่มเพื่อน    

  ราชทัณฑ์ปล่อยตัว "สรยุทธ" ติดกำไล EM 14 เดือน "อดีตรายการข่าวชื่อดัง" น้ำตาคลอดีใจได้รับอิสรภาพเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ขอเวลาปรับตัวก่อนหวนคืนจอช่อง 3 ยธ.ยันไม่ใช่นักโทษวีไอพี ชี้จัดรายการข่าวได้ ห้ามทำกิจกรรมการเมือง

    เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เวลา 07.40 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัว นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขึ้นรถกรมราชทัณฑ์มาติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (อีเอ็ม) ที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร เขต 7 หลักสี่ หลังจากได้รับการพิจารณาพักโทษกรณีพิเศษ โดยครอบครัวและญาติของนายสรยุทธได้นำดอกไม้ธูปเทียนทำพิธีกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างรอการปล่อยตัวนายสรยุทธ
          ต่อมาเวลา 09.30 น. นายสรยุทธเปิดใจภายหลังได้รับการปล่อยตัวว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ ดีใจที่ได้รับอิสรภาพ แม้จะยังไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ภายใต้เงื่อนไขกรมคุมประพฤติ แต่อย่างน้อยยังได้ออกจากเรือนจำ ช่วงระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ระยะเวลา 1 ปีกว่า การกินอยู่ นอนไม่สบายมากนัก แต่ค่อยๆ ปรับตัวได้ มีความทุกข์บ้าง แต่คดีได้จบสิ้นเสียที กระทั่งช่วงโควิด-19 ระบาด มีกระแสข่าวในเรือนจำบุรีรัมย์ มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 จึงทำให้เกิดจลาจล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม จึงมีนโยบายจัดรายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำ เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ต้องขัง หลังจากที่มีโอกาสได้จัดรายการซึ่งเป็นอาชีพที่รัก ทำให้วันเวลาในเรือนจำผ่านไปไวขึ้น
    "เท่าที่ได้ฟังจากน้องๆ ดีใจที่ยังไม่ลืมกัน ขอบคุณมากจริงๆ การอยู่ในเรือนจำมันทุกข์ เคยบอกก่อนที่จะเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วว่า อย่างน้อยคดีความจะได้จบสักที เพราะสู้มา 4-5 ปี หลังจากที่เข้าไปติดคุก ใช้ชีวิตติดลบ จากสิบไปถึงศูนย์ วันนี้ก็ได้โอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ดีใจที่ได้มีวันนี้ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณมากจริงๆ" นายสรยุทธกล่าว
    นายสรยุทธกล่าวพร้อมน้ำตาคลอว่า หลังจากออกเรือนจำสิ่งแรกที่อยากจะทำคือ เดินทางไปไหว้รูปมารดา ส่วนการกลับมาจัดรายการข่าวนั้น ทำอย่างอื่นไม่เป็น แต่ขอคิดก่อน ว่าจะเมื่อไหร่ อย่างไร แต่ยังช่วยทำรายการให้คนในเรือนจำต่อ เพราะทำแล้วมีความสุข การได้จัดรายการมีความสุขพอประมาณ และเวลาผ่านไปได้อย่างไม่ยากนัก คนในเรือนจำมีความทุกข์ หากทำให้เขาพอยิ้มได้ เพราะไม่ได้ทำงานมา 5 ปีกว่าตั้งแต่มีคดี เมื่อก่อนทำให้คนไม่ดูข่าวหันมาดูข่าวได้ แต่วันนี้โลกมันเปลี่ยนไป ดังนั้นขอกลับไปคิด และปรับตัวก่อน
    ทั้งนี้ หากจัดรายการภายใต้กรอบจรรยาบรรณ รายงานข่าวได้ปกติ อ่านข่าวการเมืองได้ แต่จะไปทำรายการเฉพาะทางการเมืองรายการใดรายการหนึ่ง หรือของพรรคการเมืองใดคงไม่ได้ แต่ภาพรวมยังทำงานด้านสื่อสารมวลชนได้ปกติ ยืนยันว่าอยู่ช่อง 3 อยู่แล้ว 100%
           ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การปล่อยตัวของนายสรยุทธครั้งนี้ไม่ใช่การปล่อยตัวนักโทษวีไอพี แต่เป็นการอำนวยความสะดวก เพราะเห็นว่านายสรยุทธเป็นผู้ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน รวมถึงเป็นที่รู้จักของคนในสังคม จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบในทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว
           นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า หลังจากติดกำไลอีเอ็มแล้ว นายสรยุทธจะไม่สามารถกลับไปใกล้กับบริเวณเรือนจำได้ เพราะเป็นข้อห้าม เนื่องจากเกรงว่าจะมีการติดต่อกับนักโทษภายใน ห้ามขึ้นเครื่องบิน แต่หากจะเดินทางต้องขออนุญาตก่อน ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกสถานที่ได้รับอนุญาต คือ พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ยกเว้นได้รับอนุญาต รวมถึงห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง เช่น เป็นพิธีกรให้กับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ยกเว้นแต่การจัดรายการข่าวทั่วไป ซึ่งจะต้องนำเสนอข้อเท็จจริงของข่าวภายใต้จรรยาบรรณของสื่อมวลชน
    สำหรับนายสรยุทธ์ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการลดโทษมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อช่วงเดือน ส.ค.63 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.63 กำหนดโทษหลังสุด 3 ปี 6 เดือน 20 วัน ซึ่งรับโทษจำคุกมาแล้ว 1 ปี 2 เดือน 6 วัน คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน 14 วัน โดยนายสรยุทธได้รับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ และเหลือโทษที่ต้องได้รับต่อไปอีกไม่เกิน 5 ปี ถือว่าเป็นประโยชน์ของผู้ต้องขังตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 จึงมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ และต้องติดกำไลอีเอ็มเป็นระยะเวลา 14 เดือน ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.64 ถึง 20 พ.ค.65 และต้องรายงานตัวจนกว่าจะพ้นโทษ คือ วันที่ 26 ก.ค.66 รวม 2 ปี 4 เดือน
         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนดังเดินทางมารอรับเป็นจำนวนมาก เช่น นายศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร หรือโต๋ นักร้องชื่อดัง, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นักธุรกิจและนักการเมืองชื่อดัง, นายตัน ภาสกรนที นักธุรกิจ และนางอริสรา กำธรเจริญ หรือหมวย ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่นายสรยุทธได้ออกจากเรือนจำแล้ว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีบรรดาญาติสนิท รวมถึงคนใกล้ชิด เดินทางมารอรับนายสรยุทธเป็นจำนวนมาก อาทิ พิธีกรคู่ขวัญ "ไบรท์-พิชญทัฬห์" โก๊ะตี๋-นายเจริญพร อ่อนละม้าย หมวย-อริสรา กำธรเจริญ นายตัน ภาสกรนที นักธุรกิจ รวมถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นักธุรกิจและนักการเมืองชื่อดัง ซึ่งได้นำพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรมามอบให้ด้วย พร้อมถามว่า "อิสรภาพมันหอมหวนไหม" ซึ่งนายสรยุทธตอบว่า "มันก็หอมหวนดีนะ".

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"