‘แม่ธนาธร’โดนอีกดอก ป่าไม้ร้องปปง.ยึด440ไร่


เพิ่มเพื่อน    

 “สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” แม่ธนาธรโดนอีกดอก กรมป่าไม้จัดเต็มฟ้อง ปปง.รุกป่าสงวน 440 ไร่ เข้าข่ายความผิดมูลฐาน ต้องยึดคืนให้ตกเป็นของแผ่นดิน

    เมื่อวันอาทิตย์ สำนักข่าวอิศราได้ออกรายงานเรื่อง “อีกคดี! กรมป่าไม้ส่ง ปปง.สอบ ‘สมพร’ ถือครอง น.ส.2-ภ.บ.ท.5 รุกป่า 440 ไร่” โดยมีเนื้อหาน่าสนใจว่า คดีครอบครอง น.ส.3 ก. จำนวน 60 ฉบับ เนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีชื่อนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ, น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวไกล ซึ่งนายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดินขอให้พิจารณาเนินการเพิกถอน น.ส.3 ก. ทั้ง 60 ฉบับแล้ว ล่าสุดการถือครองที่ดิน น.ส.2 จํานวน 7 แปลง เนื้อที่ 250-0-00 ไร่ และ ภ.บ.ท.5 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ รวมทั้งสิ้น 8 แปลงเนื้อที่ เนื้อที่ 440 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ท้องที่หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 14 ต.รางบัว และหมู่ที่ 3 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กรมป่าไม้ได้ส่งเรื่องให้ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินคดีในฐานกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (15)
    สำนักข่าวอิศรายังระบุถึงเนื้อหาหนังสือฉบับลงวันที่ 28 ม.ค.2564 ที่กรมป่าไม้ส่งถึงเลขาธิการ ปปง. สรุปสาระสำคัญว่า คณะเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบตรวจพบที่ดินแปลงดังกล่าว พบมีการแสดงเอกสารสิทธิในที่ดิน 8 แปลง ประกอบด้วย น.ส.2 จํานวน 7 แปลง เนื้อที่ 250-0-00 ไร่ และ ภ.บ.ท.5 จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ ที่ดินทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (พ.ศ.2527) ซ้อนทับกับเขตปฏิรูปที่ดินของสํานักปฏิรูปที่ดิน (พ.ศ.2554) และซ้อนทับกับเขตป่าไม้ถาวร ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 (พ.ศ.2512) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าหลักฐานการมอบอํานาจให้นางอรสา เศรษฐปราโมทย์ นําชี้และมอบที่ดิน น.ส.2 ให้จัดทําป่าชุมชน ตรวจสอบร่องรอยการทําประโยชน์ พบการทําแปลงยูคาลิปตัส และหลักฐานการชําระภาษีบํารุงท้องที่ 3 ฉบับ ประจําปี 2553-2556 ปรากฏชื่อนางสมพรเป็นผู้ชําระภาษีบํารุงท้องที่ จึงสันนิษฐานได้ว่านางสมพรครอบครองที่ดิน น.ส.2 และ ภ.บ.ท.5 จํานวน 8 แปลง เนื้อที่ 440 ไร่ การกระทําของนางสมพรจึงเป็นการกระทําผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2584 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31, ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 ซึ่งได้แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2563
    “คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทําดังกล่าวข้างต้นยังถือเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (15) จึงขอส่งเอกสารหลักฐานมาเพื่อพิจารณาดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ และขอได้โปรดมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานและข้อเท็จจริงในพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ได้มอบนายคม ศรีสวัสดิ์ ผู้อํานวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) เป็นผู้ประสาน”
สำหรับมูลฐานความผิดในมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ที่จะถูกยึดให้ตกเป็นของแผ่นดินนั้น จะมีทั้งสิ้น 21 ข้อ โดยข้อ 15 นั้นจะเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติหรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"