ยืนยันสิทธิ์‘ม33เรารักกัน’ ‘สุชาติ’มั่นใจระบบพร้อม


เพิ่มเพื่อน    

  “สุชาติ” ยันความพร้อมวันแรกยืนยันสิทธิโครงการ ม33เรารักกัน เชื่อไร้ปัญหา “ไตรศุลี” บอกเป็นวันแรกของผู้ทบทวนสิทธิและผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนด้วย “เด็ก พปชร.” ตบปาก “เด็กเพื่อไทย” เรื่องบริหารเศรษฐกิจยุคโควิด

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการยืนยันสิทธิ์ในโครงการ ม33เรารักกัน ที่จะเริ่มในวันจันทร์ที่ 15 มี.ค.2564 เป็นวันแรก ว่า กระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมมีความพร้อม และมั่นใจจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ เตรียมลงพื้นที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ต่างๆ เพื่อติดตามความเรียบร้อย โดยจะเริ่มที่ จ.ปทุมธานี เนื่องจากมีผู้ประกันตนเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเช่นกันว่า ในวันที่ 15-28 มี.ค. จะเปิดลงทะเบียนอีกครั้งสำหรับรอบขอทบทวนสิทธิ โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ไม่ผ่านการลงทะเบียนในรอบแรก สามารถลงทะเบียนได้ที่ w ww.ม33เรารักกัน.com ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน สามารถเดินทางไปลงทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อรักษาสิทธิ์
“ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศได้เตรียมความพร้อมการเปิดลงทะเบียนสำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ผู้มีสิทธิสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดไปขอลงทะเบียนรับสิทธิได้ โดยผู้ที่จะได้รับสิทธิต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33, สัญชาติไทย, มียอดเงินจากทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท นับถึง 31 ธ.ค. 2563 ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้รับสิทธิในโครงการเราชนะ” น.ส.ไตรศุลีกล่าว
น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่า โครงการม33เรารักกัน โดยกลุ่มที่ลงทะเบียนแล้วเสร็จระหว่างวันที่ 21 ก.พ.-7 มี.ค. จากเดิมต้องกดใช้งานและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ระหว่างวันที่ 15-21 มี.ค. ได้ขยายเวลาเป็นระหว่างวันที่ 15 มี.ค.-31 พ.ค.2564 เช่นเดียวกับกลุ่มรอบทบทวนสิทธิที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15-28 มี.ค. จากเดิมที่จะต้องยืนยันตัวตน ระหว่างวันที่ 5-11 เม.ย. ให้ขยายเป็น 5 เม.ย.-31 พ.ค. โดยทุกคนที่ได้มีการยืนยันตัวตนจะได้รับวงเงินคนละ 4,000 บาท ตามมาตรการที่กำหนด
ด้านนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ระบุว่าภาพใหญ่ของไทยดีแล้วไม่มีอะไรเสีย เศรษฐกิจปี 2563 ที่ติดลบถึง 6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี คือความสำเร็จ และปีนี้จะขยายตัว 4% นั้น ว่าเป็นความเพ้อฝัน และแก้ตัวแบบข้างๆ คูๆ และถ้านายสุพัฒนพงษ์คิดได้แค่นี้ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ หรือเพียงพูดเพื่อต้องการขายฝันเพื่อเกาะเก้าอี้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรค พท.เสนอให้เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจทั้งหมด เพราะผลงานทางเศรษฐกิจล้มเหลวหนักยิ่งกว่าสมัยนายสมคิดที่ว่าล้มเหลวมากแล้ว
       “การที่นายสุพัฒนพงษ์คิดว่าเศรษฐกิจไทยติดลบหนักถึง -6.1% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 22 ปี เป็นความสำเร็จ เพราะติดลบน้อย เป็นความคิดที่แปลกประหลาดอย่างมาก เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำมาตลอด 6 ปี และมาติดลบหนักอีก จะบอกว่าเป็นผลงานได้อย่างไร คิดได้แค่แบบนี้เศรษฐกิจไทยคงไปไม่รอด จะตกตึก 10 ชั้นหรือจะตกตึก 6 ชั้นก็ตายเหมือนกัน คำถามอยู่ที่ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นขึ้นมาและเดินต่อไปได้อย่างไร” นายกฤษฎาระบุ
    น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กโต้นายกฤษฎาว่า ได้วิเคราะห์ดูข่าวเก่าๆ ว่าโควิด-19 เริ่มระบาดให้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วโลก ของเราตอนนั้น ทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ทั้งสำนักวิจัยต่างๆ ฟันธงว่าปี 2563 นี้ประเทศไทยสาหัส ติดลบไม่ต่ำกว่า 10% แต่พอไตรมาส 2 เราก็เริ่มเป็นบวก และต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 3 และ 4 ทำให้ทั้งปี เศรษฐกิจไทยบอบช้ำน้อยกว่าที่คาดกันไว้ จบที่ติดลบ 6.1% จากที่คาดกันว่าจะติดลบ 7-8%  
“ไม่ได้บอกว่าเศรษฐกิจไม่มีอะไรเสียหาย แต่อยากจะบอกว่า เสียหายน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ อย่าดูแค่ตัวเลขสุดท้ายว่า ติดลบ 6.1 ต้องดูให้ต่อเนื่อง จะเห็นว่ามันดีขึ้นเรื่อยๆ และตัวเลขต่างๆ ที่เราดูกันอยู่ ทำให้มั่นใจว่าปี 2564 นี้จะดีขึ้น เพราะมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล อย่างเช่นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้”    
น.ส.พิชชารัตน์โพสต์อีกว่า ในระหว่างที่เรายังไม่กลับสู่ภาวะปกติ เพราะยังต้องสู้รบกับโควิดอยู่นั้น ยังทำอะไรไม่ได้เต็มที่ ในเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การลงทุนจากต่างประเทศ หรือแม้แต่การท่องเที่ยวที่เราพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติมาโดยตลอด อยากให้ท่าน ส.ส.ได้ลงไปสัมผัสกับประชาชนดู ไปเดินตลาดดูบ้างว่าคนเขาพูดถึงมาตรการคนละครึ่งและเราชนะว่าดีอย่างไร วันหยุดคนออกไปเที่ยวกันมากขนาดไหน   
“ตั้งแต่เกิดโควิดเมื่อปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ ประเทศไทยไม่เคยถูกลดอันดับเครดิตเลย ทั้งจากมูดี้ส์, เอสแอนด์พี และฟิทช์ เรทติ้งส์ ทุกสำนักคงอันดับเครดิตไว้เท่าเดิม ในขณะที่มีหลายๆประเทศถูกลดอันดับเครดิตลง การทำงานในทุกองค์กรเราต้องตั้งเป้าหมายเสมอ เพื่อให้องคาพยพขององค์กรเดินหน้าไป เพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น และดิฉันเชื่อมั่นว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้า ทุ่มเท วางแผนและคิดอย่างรอบคอบเพื่อที่ดูแลประชาชน และทำเป้าหมายให้เป็นจริง อยากให้ท่าน ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง หากมัวเเต่พูดเรื่องความฝัน จะมองไม่เห็นความสำเร็จที่แท้จริง” น.ส.พิชชารัตน์กล่าว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"