คลายปมร้อน! ศาลรธน.ถกด่วนเร่งทำคำวินิจฉัยกลาง ก่อนโหวตวาระ3


เพิ่มเพื่อน    

15 มี.ค. 64 - แหล่งข่าวจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรายหนึ่งในคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน เปิดเผยว่า นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมด่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 15 มีนาคมนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อร่วมหารือเป็นกรณีพิเศษ ในการจัดทำคำวินิจฉัยกลางในคำร้องคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทางศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ที่ออกมาเมื่อ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

แหล่งข่าวจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคุยกันนอกรอบหลายคน ยอมรับว่าแปลกใจ และคาดไม่ถึงที่หลังมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว มีความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ทั้ง ส.ส.-ส.ว. -นักวิชาการ นักกฎหมาย ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์มติศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วยความเห็นที่แตกต่างกันมาก ทำให้ เบื้องต้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคุยกันว่า จะทำคำวินิจฉัยกลางออกมาให้เร็วที่สุด ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อนำไปเผยแพร่โดยเร่งด่วน โดยหากเป็นไปได้ จะพยายามเร่งทำออกมาให้ทันก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญวันที่ 17 มีนาคมนี้ ที่รัฐสภาจะมีการพิจารณาโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสาม เพื่อจะได้พอเป็นแนวทางให้สมาชิกรัฐสภาได้ศึกษาก่อนการพิจารณาดำเนินการใดๆ

"หลังมติของศาลรัฐธรรมนูญออกมา แล้วมีเสียงวิจารณ์กันมาก ตุลาการหลายคนก็คาดไม่ถึง เพราะคิดว่า มติดังกล่าวน่าจะมีความชัดเจนเพียงพอแล้ว แต่เมื่อยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันอยู่ของบุคคลหลายฝ่าย  การประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันจันทร์นี้ ที่ประชุมก็จะนำคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละคนโดยเฉพาะเสียงข้างมาก 8 เสียงมาวางแนวเขียนคำวินิจฉัยกลางออกมา ซึ่งยอมรับว่า ใน 8 เสียงเอง ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องรายละเอียดกันอยู่ แต่วงประชุมเราจะคุยกันให้สะเด็ดน้ำ แล้วเร่งเขียนคำวินิจฉัยกลางออกมาโดยเร็ว" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่ง ระบุ

แหล่งข่าวที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญผู้นี้ ยังกล่าวอีกว่า คำวินิจฉัยกลางที่จะออกมา เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ ที่จะไม่มีการระบุว่า การทำประชามติ ต้องทำในช่วงก่อนรัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรก หรือให้ทำหลังรัฐสภาผ่านวาระสามไปแล้วถึงค่อยไปทำประชามติ เพราะการวินิจฉัยคำร้องคดีดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการวินิจฉัยในประเด็นเรื่องอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นญัตติตามที่สมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อกันมาเท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยตอบไปว่า รัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน ดังนั้น เบื้องต้นคำวินิจฉัยกลางที่จะออกมาจะไม่ระบุชัดเจนว่า การทำประชามติให้ทำตอนก่อนพิจารณาวระแรกหรือหลังรัฐสภาผ่านวาระสาม แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ไม่มีปัญหาข้อถกเถียงกัน ก็มีความเป็นไปได้ ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอาจจะพยายามเขียนคำวินิจฉัยกลางออกมาเพื่อให้รู้เป็นแนวว่า การทำประชามติควรทำช่วงไหน

"ต้องเข้าใจก่อนว่า ญัตติที่รัฐสภาส่งมา เขาส่งมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ หลังรัฐสภาผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรกไปแล้ว เข้าสู่การพิจารณาวาระสองในชั้นกรรมาธิการไปแล้ว ตอนที่ตุลาการเก้าคนคุยกัน เราเลยไม่ได้คุยกันในเรื่องกรอบเวลาเลยว่าต้องลงประชามติตอนไหน ก่อนวาระแรกหรือหลังผ่านวาระสาม ดังนั้น จะไปให้คำวินิจฉัยกลาง เขียนลงรายละเอียดแบบนั้น เบื้องต้นน่าจะเป็นไปได้ยาก แต่ก็ต้องอมรับว่า กระบวนการที่รัฐสภาทำตอนนี้ ว่าไปแล้วมันไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการทำสองขยัก คือ แก้มาตรา 256 ด้วย และให้ทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย ซึ่งหากจะนำร่างที่รัฐสภาทำอยู่ไปถามหลังผ่านวาระสาม มันคือการทำไปก่อนแล้ว ถึงค่อยไปถามประชาชนทีหลัง พูดกันตรงๆ เหมือน ศรีธนญชัย เพราะมันไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ  แต่เป็นการแก้มาตรา 256 เพื่อให้ไปร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มายกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ใช่การแก้เล็กน้อยแต่มันคือการร่างใหม่เลย ยกตัวอย่าง ไปเขียนไว้หมดแล้วว่า ส.ส.ร.ให้มาจากไหน คือไปทำเสร็จมาก่อนแล้ว ค่อยไปถามประชาชนทีหลัง แบบนี้มันใช่การแก้ไขรายมาตราหรือไม่ เพราะมันคือการแก้เพื่อร่างใหม่ทั้งฉบับ "แหล่งข่าวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนดังกล่าว ระบุ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"