ทางการเมียนมากำลังสอบสวนองค์กรโอเพนโซไซตีเมียนมาที่เชื่อมโยงกับมูลนิธิของจอร์จ โซรอส ที่ต้องสงสัยว่าโอนเงินกว่า 40 ล้านบาทสนับสนุนขบวนการอารยะขัดขืนในเมียนมา โดยได้คุมตัวลูกจ้างคนหนึ่งของมูลนิธินี้ไว้และกำลังตามหาตัวอีก 11 คนมาสอบปากคำ

    รอยเตอร์รายงานอ้างข่าวของสื่อทางการเมียนมาเมื่อวันอังคารว่า ทางการกำลังตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างเงินทุนจากมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงิน กับขบวนการอารยะขัดขืน (ซีดีเอ็ม) ในเมียนมา โดยมีลูกจ้างขององค์กรโอเพนโซไซตีเมียนมา (โอเอสเอ็ม) รายหนึ่งถูกควบคุมตัวไว้แล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังตามหาลูกจ้างอีก 11 คนมาสอบปากคำ

    รายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลต์ออฟเมียนมาที่เป็นกระบอกเสียงให้กองทัพมานานหลายปี กล่าวว่า มูลนิธิดังกล่าวโอนเงินเข้าเมียนมาโดยไม่ได้ขออนุญาตจากสำนักงานจัดการการปริวรรตเงินตราของเมียนมา กลุ่มนี้แลกเปลี่ยนเงิน 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43 ล้านบาท) เป็นเงินสกุลจั๊ตของเมียนมาโดยไม่ได้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่จำเป็น พร้อมกันยังชี้ให้เห็นว่าองค์กรเอกชนที่ไม่ระบุชื่อได้ให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสดแก่ขบวนการซีดีเอ็ม

    หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของโอเพนโซไซตีเมียนมารายหนึ่งโดนสอบปากคำมาตั้งแต่วันศุกร์เกี่ยวกับเงินที่ไหลเข้าสู่ขบวนการซีดีเอ็ม

    มูลนิธิโอเพนโซไซตีบรรยายสรรพคุณไว้ในเว็บไซต์ของมูลนิธิว่า พวกเขาเป็นผู้ให้ทุนที่เป็นเอกชนรายใหญ่ที่สุดในโลก ที่ให้ทุนแก่กลุ่มอิสระที่ทำงานเพื่อความยุติธรรม, การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน ส่วนมูลนิธิในเมียนมานั้นสนับสนุนกลุ่มและภาคประชาสังคมที่เป็นตัวแทนของคนชายขอบที่ส่งเสริมประชาธิปไตยแบบมีผู้แทนได้หยั่งราก

    รอยเตอร์กล่าวว่า โซรอสและองค์กรของเขามักโดนรัฐบาลเผด็จการโจมตี ตัวมหาเศรษฐีใจบุญสุนทานผู้นี้ยังมักตกเป็นเป้าหมายของทฤษฎีสมคบคิดและการให้ข้อมูลเท็จทางโซเชียลมีเดียมานานหลายปี

    โกลบอลนิวไลต์ออฟเมียนมายังได้ตีพิมพ์ภาพนางอองซาน ซูจี ขณะพบกับโซรอสที่นิวยอร์กเมื่อปี 2559 และภาพที่ซูจีพบกับอเล็กซานเดอร์ โซรอส ผู้ลูกในเมียนมา แต่รายงานไม่ได้กล่าวโยงนางซูจีหรือมูลนิธิโอเพนโซไซตีกับการโอนเงินทุนผิดกฎที่กล่าวถึง.