8แกนนำเพื่อไทยรับทราบข้อหา ยันบริสุทธิ์ใจวิจารณ์คสช.-ไม่เข้าข่ายยุบพรรค


เพิ่มเพื่อน    

21 พ.ค. 61 - ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายวัฒนา เมืองสุข,  นายจาตุรนต์ ฉายแสง ,นายชูศักดิ์ ศิรินิล,  นายนพดล ปัทมะ, นายชัยเกษม นิติสิริ, นายภูมิธรรม เวชยชัย , พล.ต.ท.โทวิโรจน์ เปาอินทร์ ,นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เดินทางเข้า แกนนพพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากที่พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานฝ่ายกฏหมาย คสช.เข้าแจ้งความดำเนินคดีหลังจากพรรคเพื่อไทยแถลงการณ์ 4 ปี คสช.ที่มีการถ่ายทอดผ่านเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย ชี้พรรคเพื่อไทยมีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.อย่างชัดเจน 

โดยนายวัฒนา นายจตุรนต์และนายชูศักดิ์ ฐานความผิด "ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย และความผิด ป.อาญามาตรา 116"  ส่วนที่เหลือฐานความผิด"ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองณที่ใดๆที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือผู้ได้รับมอบหมาย" 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อแกนนำทั้ง 8 คนเดินทางมาถึง กองบังคับการปราบปราม นายชูศักดิ์ ศิรินิล เปิดเผยก่อนเข้ารับทราบข้อหาว่า วันนี้พวกเรามารับทราบข้อกล่าวหาว่ามีความผิดอย่างไร พร้อมทั้งจะขอทราบข้อเท็จจริง ที่ไปที่มาของการตั้งข้อหาว่ามีข้อเท็จจริงอะไรที่กล่าวหาว่าเรากระทำผิด ข้อสังเกตในคดีนี้สำหรับผมและคณะได้พูดคุยกันเห็นว่า คดีนี้มีความเร่งรีบรวบรัดเร่งรีบเป็นพิเศษ ทหารแจ้งความเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม สอบสวนกันทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนท้ายที่สุดวันที่ 18 พ.ค. เช้า สามารถออกหมายเรียกพวกเราทั้ง 8 คนได้ก็แสดงเห็นว่าคดีนี้มีการสั่งการให้กระทำโดยเร็ว ประการถัดมาที่อยากจะกราบเรียนคือข้อหาที่ตั้ง 

นายชูศักดิ์ กล่าวว่ามีข้อสังเกตว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาตั้งข้อหาแบบนี้ ประการที่ 1. คือ การที่พวกเราแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก็แถลงกันมาแบบนี้หลายครั้งหลายหน การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจะเป็นการชุมนุมทางการเมืองได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้เลย การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่ชุมนุมทางการเมือง

ประการที่ 2. การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จะเป็นการปลูกปั่นประชาชนได้อย่างไร ที่ตั้งตามมาตรา 116 มันจะต้องเป็นการกระทำนอกเหนือรัฐธรรมนูญทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหนือกฎหมายของบ้านเมืองโดยใช้กำลัง ทำให้ประชาชน ลุกฮือต่อต้านรัฐบาล แต่พวกตนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ไม่ได้มีการปลุกปั่นประชาชนมาต่อต้านรัฐบาลแต่อย่างไร

"โดยสรุปแล้วมันไม่เข้าข้อกฎหมายอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องกราบเรียนว่า การใช้กฎหมายแบบนี้ ต้องฝากถึงพนักงานสอบสวนว่าไม่ใช่ว่าใครมาแจ้งความแล้วก็เอาตามที่แจ้งเลย มันต้องสอบสวนทวนความข้อเท็จจริงทั้งหมด ผิดจริงหรือไม่ เราเลยคิดว่าเป็นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือสกัดยับยั้งผู้คนไม่ให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นเรื่องที่มีชอบ"นายชูศักด์ กล่าว

ขณะที่นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ามีความพยายามใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรม ใช้กฎหมายอย่างไม่เสมอภาคและเป็นประเด็นที่เราสงสัยกัน สิ่งที่พรรคการเมืองได้ดำเนินการตามสิทธิในฐานะที่เป็นผู้แทนของประชาชนวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้เราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง เราทำในสิ่งที่รัฐปฏิบัติปกติ เมื่อเราได้เจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และพรรคก็ไม่ได้มีการแถลงอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค 3 คนที่ไปดำเนินการและใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่เขาให้ไว้ และเป็นสิ่งที่พลเรือนสามารถที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลได้ ที่ทำหน้าที่ในการดูแลผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนได้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการมองว่าเป็นการใช้กฎหมายกําจัดคนที่เห็นต่างอย่างไม่ชอบธรรม 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ความขัดแย้งในสังคมไทยที่ต้องการการแก้ไข แต่มีกระบวนการจัดการที่ไม่ยุติธรรม มันจะสร้างปัญหาและทำให้ปัญหาขัดแย้งบานปลายและหาข้อยุติไม่ได้ อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า อยากให้พวกเราทุกคนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายนโยบายและฝ่ายปฏิบัติ พึ่งจะทราบว่าการที่ท่านใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรมใช้กฎหมายไม่เสมอภาค ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือของทางการเมือง ในการดำเนินการกับประชาชนหรือบุคคลต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีปัญหาเป็นสิ่งที่ไม่ชอบทำไม่ถูกต้อง และสิ่งที่ท่านต้องรับผิดชอบในอนาคต 

ผู้สื่อข่าวถามว่า โมเดลการยุบพรรคเพื่อไทย ถูกนำกลับมาเป็นสมการทางการเมืองอีกครั้งมองเรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่าจากที่ดูทุกเรื่องยังไม่มีอะไรเข้าข่ายเลย การที่มีสมาชิกพรรคเพียง 3 คน ออกไปสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลทำงานมา 4 ปีมีปัญหาหรือไม่ประสบผลสำเร็จจะกลายเป็นเรื่องที่ไปล้มล้างก่อให้เกิดความวุ่นวายสร้างปัญหาและจะยุบพรรคเพื่อไทยได้ ไม่คิดว่ารัฐบาลจะกล้าทำสิ่งนี้เพราะทั้งหมดอยู่ในสายตาของพี่น้องประชาชน ทุกอย่างประชาชนจะตัดสิน

ส่วนบรรยากาศที่กองบังคับการปราบปรามผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คนทยอยเดินทางมารอให้กำลังใจพร้อมกุหลาบสีแดงที่จะนำมาให้แกนนำพรรคที่จะเข้ารับทราบข้อกล่าวกา การรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวก จัดสถานที่ ส่วนหน้าของกองบังคับการปราบปราม ให้กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่เป็นสัดส่วน 

ส่วนแกนนำพรรคเพื่อไทยให้กำลังใจ เพื่อนร่วมพรรค อาทิปนายวรชัย เหมะ  นายก่อแก้ว พิกุลทอง พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ นายการุณ โหสกุล.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"