ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ กองพลทหารราบที่ 7 ทุ่งยั้งทัพ จ.เชียงใหม่

    เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ  กองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก, พล.ต.จรัส ปัญญาดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ข้าราชการและประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับในพลับพลาพิธี  ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบ พล.ต.จรัส ปัญญาดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นนางสิรดา ปัญญาดี ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารราบที่ 7 เข้าเฝ้าฯ  ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และนางอนุสรา สุขป้อม รองประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารราบที่ 7 มอบหนังสือที่ระลึกแด่เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี
    พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก  กราบบังคมทูลรายงานประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช แล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินออกจากพลับพลาพิธีไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา กองทหารเกียรติยศ ถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี  ชาวพนักงานประโคมกระทั่ง แตร มโหระทึก เสด็จขึ้นลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี วางพุ่มดอกไม้ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ กราบ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงส่งพระสงฆ์ ทรงพระดำเนินออกจากพลับพลาพิธีไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง  เสด็จฯ ออกจากพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 เพื่อเสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
    สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ กองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) ตำบลดอนแก้ว  อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่สำคัญของพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นพระบรมรูปทรงสะพายพระแสงดาบด้านพระปฤษฎางค์ ทรงม้าศึกประจำพระองค์ตรวจตราที่ตั้งค่ายทหารทัพหลวง ณ ทุ่งยั้งทัพ ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่  ทำด้วยโลหะบรอนซ์สัมฤทธิ์ ขนาดความกว้าง 2.1 เมตร ยาว  5.35 เมตร สูง 7.35 เมตร น้ำหนัก 10 ตัน มีนายธวัชชัย ศรีสมเพชร เป็นช่างผู้หล่อปั้น งบประมาณในการก่อสร้างพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 25 ล้านบาท แท่นฐาน 15  ล้านบาท ภาพประติมากรรมและจิตรกรรมแท่นฐาน 5.5 ล้านบาท อาคารประกอบซ้ายและขวา 10 ล้านบาท และลานพระบรมราชานุสาวรีย์รวมถึงภูมิทัศน์โดยรอบ 10 ล้านบาท รวม  65.5 ล้านบาท ดำเนินการจัดสร้างเมื่อ 27 พฤษภาคม 2558  แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560
    มูลเหตุสำคัญในการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ทุ่งยั้งทัพ) เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระวีรกรรมอันห้าวหาญของพระองค์ท่าน ที่ทรงมีความสัมพันธ์กับพื้นที่ตั้งหน่วย พลตรีสุทัศน์ จารุมณี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ได้กำหนดฉายาพื้นที่ตั้งกองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ให้สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ว่า "ทุ่งยั้งทัพ" (KING NARESUAN'S  STAGING AREA) ซึ่งหน่วยเล็งเห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงมีโครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติ ทั้งเป็นสถานที่เคารพสักการะของกำลังพลและประชาชนทั่วไป  ตลอดจนเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อันมีคุณค่ายิ่งต่อไป.