วัคซีนหนุน “ส่งออก"


เพิ่มเพื่อน    

    ข่าวดีเรื่องการ “ฉีดวัคซีนโควิด-19” น่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการส่งออกโลก รวมถึงไทยได้เป็นอย่างดี หลังจากในปีที่ผ่านมาสถานการณ์เศรษฐกิจและภาพรวมการส่งออกทั่วโลกต้องชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากหลายประเทศทั่วโลก ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

                โดยเฉพาะผลจาก “มาตรการล็อกดาวน์” ที่หลายประเทศงัดมาใช้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหากมองในแง่ของการสาธารณสุขก็อาจจะถูกยกให้เป็นมาตรการในการป้องกัน ควบคุม ดูแลได้เป็นอย่างดี แต่ในมุมของเศรษฐกิจแล้วมาตรการดังกล่าวถือเป็นปัญหาอย่างมาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงไปนั้น ส่งผลกระทบในหลายมิติกับหลายภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมไปถึงภาคการส่งออกที่ก็ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

                ทั้งนี้ “กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)” ได้ออกมาประเมินเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า หลังจากที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐและอังกฤษกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ทำให้นักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวดีขึ้น โดย กบข.มองแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงนี้ว่า เศรษฐกิจโลกโดยรวมสามารถปรับตัวและทรงตัวผ่านโควิด-19 ระลอก 2 ได้ค่อนข้างดี เห็นได้จากการค้าระหว่างประเทศและการส่งออกทั่วโลกที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง

                ขณะที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ภาพรวมเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยเฉพาะภาคบริการและการท่องเที่ยวที่ยังต้องพึ่งพารายได้จากต่างชาติ คาดว่าธุรกิจการท่องเที่ยวจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในปี 2565

                ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับนั้น หลายฝ่ายมองว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ภาคการส่งออกของไทยกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง หลังจากที่ซบเซามานานจากปัญหาหลายอย่างต่อเนื่องมาหลายปี โดย “คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)” ล่าสุด ได้ออกมาปรับประมาณการตัวเลขการส่งออกไทยในปีนี้ โดยคาดว่าจะขยายตัวได้สูงถึง 10% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 5.7% ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4/2563 และที่ผ่านมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐเอง ที่ไม่เพียงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐเท่านั้น ยังรวมไปถึงประเทศคู่ค้า และส่งผลดีมายังสินค้าส่งออกของไทยในทุกกลุ่มสินค้าอีกด้วย

                ขณะที่ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” เอง ก่อนหน้านี้ก็ออกมาประเมินว่าทิศทางการส่งออกของไทยในปี 2564 จะกลับมาสดใสได้อย่างน่าสนใจ ทั้งในมิติของตลาด และมิติของสินค้า โดยในมิติของตลาดนั้น คาดว่าทุกตลาดจะกลับมาสดใสและผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปหมดแล้ว การกลับมาเติบโตส่วนหนึ่งไม่เพียงมาจากฐานที่ต่ำ จึงทำให้กลับมาเร่งตัวได้ดี ยังรวมไปถึงข่าวดีเรื่องการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เข้ามาช่วยคลี่คลายข้อจำกัดทางเศรษฐกิจอีกด้วย

                ส่วนในมิติของสินค้านั้นมองว่า การส่งออกสินค้าส่วนใหญ่กลับมาเติบโตได้ ตามกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่ทยอยฟื้นตัวกลับมาเป็นตัวเสริมให้ทุกสินค้ายังไปได้ดีในปีนี้

                เช่นเดียวกับ “สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก” ที่มองว่าสถานการณ์การส่งออกของไทยดีขึ้นต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว หลังมีการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาใช้งานในหลายประเทศ โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างสหรัฐและจีน ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

                หลายฝ่ายมองว่า จากปัจจัยบวกเรื่องวัคซีนโควิด-19 และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่หลายประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีนี้เริ่มกลับมามีทิศทางที่สดใสมากขึ้น ซึ่งนั่นจะส่งผลดีไปถึงความต้องการในการบริโภคสินค้าต่างๆ ของทั่วโลกให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งหมดจะเป็นอานิสงส์ที่ส่งต่อมายัง “ภาคการส่งออกของไทย” ให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ในหลายๆ สินค้า และอาจจะกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยประคับประคอง รวมถึงเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยในระยะต่อๆ ไปเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง.

ครองขวัญ รอดหมวน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"