บุกรุกป่าพ่นพิษ ศาลสั่ง‘ปารีณา’ หยุดปฏิบัติหน้าที่


เพิ่มเพื่อน    

  ศาลฎีการับคำร้อง ป.ป.ช. คดี "ปารีณา ไกรคุปต์" รุกป่าสงวนฯ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา ด้าน "ปารีณา" น้อมรับคำสั่งศาล ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แกนนำ พปชร.เชื่อ ส.ส.ปารีณากำลังใจดี  มั่นใจหายไป 1 เสียงไม่กระทบการทำงานในสภา

    ที่ศาลฎีกา สนามหลวง วันที่ 25 มีนาคม ศาลอ่านคำสั่งในคดี คมจ.1/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีถูกดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม
    วันนี้ ป.ป.ช.ผู้ร้องมาศาล น.ส.ปารีณาผู้คัดค้านไม่มาศาล ได้ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก่อนมีคำสั่ง และขอให้เลื่อนการมีคำสั่งในวันนี้ออกไป
    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในชั้นนี้เป็นการพิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ กรณีไม่มีเหตุต้องไต่สวนข้อเท็จจริงและเลื่อนฟังคำสั่งออกไปก่อนตามคำร้องของผู้คัดค้าน ส่วนที่ผู้คัดค้านยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 24 มี.ค.2564 โต้แย้งว่า ป.ป.ช.ไต่สวนโดยไม่ชอบ การกระทำของผู้คัดค้านไม่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และตามคำร้องฉบับลงวันที่ 25 มี.ค. ว่าผู้คัดค้านได้ส่งมอบที่ดินคืนให้แก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน ผู้คัดค้านจึงมิได้เป็นผู้กระทำความผิดนั้น เป็นปัญหาที่ต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา อ่านคำสั่งให้ผู้ร้องทราบแล้ว นัดพิจารณาครั้งแรกหรือไต่สวนพยานผู้ร้อง ในวันที่ 30 เม.ย.2564 เวลา 09.30 น.
    ส่วนที่ผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่า หากศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้อง เนื่องจากผู้คัดค้านไม่สามารถให้คุณหรือโทษแก่บุคคลใดๆ และไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงหรือดำเนินการใดๆ เพื่อให้ข้อเท็จจริงคดีนี้เปลี่ยนแปลงไป ขอให้ผู้คัดค้านยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามคำร้องฉบับลงวันที่ 23 มี.ค.2564 นั้น
    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องของผู้คัดค้านยังไม่มีเหตุเพียงพอให้ศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น หรือมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามที่ผู้คัดค้านร้องขอ ให้ยกคำร้อง เนื่องจากศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว และมิได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 235 วรรคสาม บัญญัติให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา
    จึงให้มีหนังสือแจ้งคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ หมายส่งสำเนาคำร้องและคำสั่งให้ผู้คัดค้านทราบ ให้ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านภายใน 14 วัน นับแต่วันรับคำร้อง และมีหนังสือขอให้ศาลที่ผู้คัดค้านมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาล ดำเนินการจัดส่งแทนการส่งหมาย ถ้าไม่มีผู้รับหรือไม่สามารถทำได้ ให้ปิดหมายและให้มีผลใช้ได้ทันที
    ด้าน น.ส.ปารีณาเปิดเผยภายหลังศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ว่า ขอน้อมรับคำสั่งศาล และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และมั่นใจในระบบกระบวนการยุติธรรม
    นอกจากนี้ น.ส.ปารีณาได้ลงรูปภาพตนเองบนเฟซบุ๊ก โดยไม่มีการโพสต์ข้อความใดๆ ประกอบ
    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า "ทราบแล้ว" เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวจะกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล ตนไม่ขอก้าวล่วง ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ให้กำลังใจ น.ส.ปารีณาอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เป็นไรหรอก เขากำลังใจดีอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเสียงพรรค พปชร.หายไปหนึ่งเสียง จะกระทบการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถามอะไรก็ไม่รู้ เป็นเรื่องของตน สื่อไม่เกี่ยว  
    นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกัน ซึ่งหากเป็นจริง ตนคิดว่าต้องรอดูเหตุการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรในส่วนนี้ แต่ส่วนตัวก็รู้สึกผิดหวังไปกับ น.ส.ปารีณาที่ต้องโดนตัดสิทธิ์
      "ผมในฐานะเลขาธิการพรรค ก็เป็นห่วงเป็นกังวล ในฐานะที่ทำงานร่วมกันมา ซึ่ง น.ส.ปารีณาก็เป็นสมาชิกของเราคนหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราก็ต้องรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดา แต่สิ่งหนึ่งในส่วนของพรรคก็ต้องมีการดำเนินกิจกรรมหลายๆ อย่าง โดยต้องมาดูว่าเราจะสามารถคิดอ่านอย่างไรต่อไป ซึ่งก็ต้องเป็นภาพรวมของพรรค โดยต้องมีการหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งหนึ่ง แต่สำหรับผมในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค ก็ต้องรู้สึกเสียใจกับ น.ส.ปารีณา" นายอนุชากล่าว
      เมื่อถามว่า การที่เสียงของรัฐบาลขาดไปหนึ่งเสียง จะทำให้มีผลกระทบอะไรในการทำงานสภาหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่มีหรอก เพราะเราก็เพิ่งผ่านการเลือกตั้งมา เสียงที่เรามีอยู่ตอนนี้ค่อนข้างที่จะมีความมั่นคง ซึ่งเรื่องของเสียงไม่สำคัญเท่ากับการเสียเพื่อนไปคนหนึ่งที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เท่านั้นเอง เรื่องเสียงในสภาไม่ใช่ประเด็น
    เช้าวันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ ขณะที่ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ พร้อมพวกผู้ต้องหาแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร เดินทางมารายงานตัวตามที่อัยการนัดฟังคำสั่งคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี ภายหลังทราบข่าว น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ถูกศาลฎีกาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ มวลชนต่างพากันดีใจด้วย.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"