มะกัน-ผู้ดีแซงก์ชันบ.พม่าเพิ่ม เพื่อนบ้านอาเซียนไม่อยากแทรกแซง


เพิ่มเพื่อน    

รัฐบาลสหรัฐและอังกฤษประกาศคว่ำบาตรกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมียนมาที่เป็นของกองทัพ ขณะรัฐมนตรีสิงคโปร์หารืออินโดนีเซีย ระบุทุกข์ใจกับการล้มตายในเมียนมา แต่ยังยึดหลักการต่างชาติไม่ควรแทรกแซง รัฐบาลทหารเมียนมาเดินหน้าปราบผู้ประท้วงต่อ จับกลุ่มเยาวชนจากย่างกุ้งคิดหนีไปเข้ากองกำลังกะเหรี่ยง

ถนนในย่างกุ้งที่ปกติการจราจรและผู้คนพลุกพล่านในชั่วโมงเร่งด่วน แทบกลายสภาพเป็นเมืองร้างเมื่อวันพุธระหว่างการสไตรค์เงียบทั่วประเทศ (Photo by Theint Mon Soe/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า คำแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัท เมียนมาอีโคโนมิกโฮลดิงส์พับลิกคอมพานี (MEHL) และบริษัท เมียนมาอีโคโนมิกคอร์ปอเรชัน (MEC) ที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่พวกนายทหาร ส่วนอังกฤษก็ประกาศแซงก์ชัน MEHL ที่เป็นของกองทัพเมียนมาเช่นกัน อ้างว่ากองทัพเมียนมาละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อชาวมุสลิมโรฮีนจา

    กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า กองทัพเมียนมาควบคุมภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจเมียนมาผ่านบริษัทโฮลดิงเหล่านี้ ขณะที่โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวว่า การคว่ำบาตรในวันนี้มุ่งเป้าที่ผลประโยชน์ทางการเงินของกองทัพเมียนมา เพื่อช่วยตัดท่อน้ำเลี้ยงสำหรับใช้กดขี่ปราบปรามพลเรือน

    กลุ่มบริษัทคลุมเครือทั้งสองแห่งนี้ถือหุ้นในอุตสาหกรรมหลากหลาย ตั้งแต่เบียร์, ยาสูบ, คมนาคม, สิ่งทอ, การท่องเที่ยว และการธนาคาร

    นับแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สหรัฐ, อังกฤษ และองค์การสหประชาชาติพยายามกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา แต่จนบัดนี้ยังไม่ได้ผล สหรัฐและอังกฤษประกาศคว่ำบาตรนายทหารและผู้เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารแล้วหลายรายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

    ด้านเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซียและสิงคโปร์หารือกันเมื่อวันพฤหัสบดี และเรียกร้องอีกครั้งให้รัฐบาลทหารหยุดใช้อาวุธร้ายแรงกับผู้ประท้วง

    วิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ กล่าวว่า ทั้งสองประเทศมีความทุกข์ใจกับการสูญเสียชีวิต แต่ทางออกของปัญหาต้องเกิดจากภายในเมียนมาเอง "ทั้งอินโดนีเซียและสิงคโปร์เชื่อว่าไม่ควรมีการแทรกแซงจากต่างชาติ แต่อาเซียนก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลือไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง" เขากล่าว

    สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) ที่เป็นกลุ่มจับตาสถานการณ์ในเมียนมา กล่าวว่า นับแต่วันยึดอำนาจถึงขณะนี้มีคนถูกฆ่าตายมากกว่า 280 คนแล้ว แม้ตัวเลขที่โฆษกรัฐบาลทหารแถลงไว้อย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 164 ราย ผู้เสียชีวิตถูกเรียกว่าเป็น "พวกผู้ก่อร้ายรุนแรง"

    ผู้ประท้วงยังคงท้าทายการปราบปรามของกองทัพ ด้วยการจัดกิจกรรมจุดเทียนรำลึกผู้เสียชีวิตในช่วงกลางคืนวันพุธโดยท้าทายคำสั่งเคอร์ฟิว และออกมาเดินขบวนกันตั้งแต่เช้ามืดเพื่อหลบเลี่ยงทหาร-ตำรวจ แต่ที่รัฐกะฉิ่น มีผู้ชุมนุมโดนจับกุมหลายคน แต่ผู้ประท้วงก็พากันบุกไปโรงพักเพื่อกดดันให้ตำรวจปล่อยตัว ทว่าเมื่อทหารมาถึงก็เปิดฉากยิงใส่ฝูงชน ชาวบ้านบอกว่ามีคนตายอย่างน้อย 1 ราย

    ที่เมืองพะอานในรัฐกะเหรี่ยง ผู้ประท้วงกำลังจัดวางกระสอบทรายตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ทหาร-ตำรวจมาเคลียร์พื้นที่โดยใช้ระเบิดเสียงและกระสุนยาง รวมถึงกระสุนจริง ในนครย่างกุ้งก็ยังคงมีการประท้วงตอนเช้ามืดเหมือนวันก่อนๆ

    สื่อทางการเมียนมารายงานเมื่อวันพฤหัสบดีด้วยว่า ตำวรจจับเยาวชนในย่างกุ้ง 14 คนขณะกำลังหนีออกจากเมืองไปยังดินแดนฝั่งตะวันออกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังชนกลุ่มน้อย เอเอฟพีกล่าวว่า ถึงขณะนี้มีคนหลายร้อยคนหนีไปยังรัฐกะเหรี่ยง ที่ซึ่งกองกำลังกบฏ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ให้ที่พักพิงแก่นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารหลายร้อยคน

    ที่รัฐกะยาที่อยู่ติดกัน ซึ่งพรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (เคเอ็นพีพี) ควบคุมพื้นที่บางส่วน มีคนจำนวนหนึ่งเดินทางไปหลบภัย คู อู เรห์ รองประธานเคเอ็นพีพี กล่าวกับเอเอฟพีว่า พวกตนอยู่ข้างประชาชน และว่าการยึดอำนาจครั้งนี้ทำให้ชาวพม่าซึ่งเป็นชนชาติส่วนใหญ่ในเมียนมา ได้รับรู้ความทุกข์ยากที่ชนชาติกะเหรี่ยงเผชิญมานานกว่า 70 ปี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"